รัฐสภา 19 ส.ค.-ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วาระ 2-3 วันที่สอง เริ่มพิจารณาที่งบประมาณของกระทรวงการคลัง ซึ่งประธานสภาฯ บอกว่า ยังเหลือพิจารณาอีก 42 มาตรา เชื่อว่า จะแล้วเสร็จทันกรอบเวลาภายในวันพรุ่งนี้
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วาระ 2 และ 3 วันที่สอง เริ่มต้นที่กระทรวงการคลัง ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ปรับลดจำนวน 334 ล้านบาท คงเหลืองบประมาณ 10,948 ล้านบาท หลังจากที่เมื่อวานนี้ ที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 10 ชั่วโมง โดยพิจารณาจนถึงมาตรา 8 งบของกระทรวงกลาโหม ซึ่งใช้เวลาอภิปรายนานกว่า 4 ชั่วโมงก่อนจะลงมติเห็นด้วยกับคณะกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากที่ปรับแก้ไข ด้วยคะแนน 226 ต่อ 123 เสียง ก่อนจะปิดการประชุมในเวลา 20.15 น. แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า คะแนนงดออกเสียงนั้นมีจำนวนมาก ขณะที่มาตราอื่นๆ มีจำนวนหลักสิบเท่านั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากไม่สามารถชี้แจงและตอบคำถามของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านที่อภิปรายท้วงติงและตั้งคำถามต่อรายละเอียดของการเสนอของบประมาณของกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะงบจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่ง ส.ส.พรรคก้าวไกล รวม 9 คน ลุกขึ้นอภิปรายเพื่อขอปรับลดกระทรวงกลาโหม ถึง 30,000 ล้านบาท พร้อมชี้ถึงข้อพิรุธต่อการเสนอของบประมาณในหลายด้าน ทั้งการจัดซื้ออุปกรณ์ที่แพงเกินจริง การตั้งงบประมาณเพื่อจัดซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น และพบการเบิกเงินเกิน
ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร บอกว่า กรอบการพิจารณางบประมาณเหลืออีก 2 วัน ซึ่งจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ 42 มาตรา เชื่อว่า จะสามารถเสร็จภายในกรอบเวลาที่ตกลงกันไว้ เพราะสมาชิกก็ให้ความร่วมมืออภิปรายตามเวลาที่จัดสรร แต่ขอสมาชิกอย่าอภิปรายแบบการพิจารณาในวาระที่ 1 ซึ่งเมื่อวาน ตั้งใจจะพิจารณาให้ดึกกว่านี้ แต่สมาชิกห่วงการเดินทางของคณะทำงานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว แต่ย้ำว่า มีหนังสือรับรองให้อยู่แล้ว
ประธานสภาฯ ระบุ หากวันพรุ่งนี้ มีการชุมนุมที่รัฐสภา ก็ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นปกติไว้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องยกระดับ และที่สำคัญการชุมนุมจะต้องปราศจากอาวุธ .-สำนักข่าวไทย