สภาฯ ผ่านวาระ 2 “งบกลาโหม” ปรับลด 3,226 ล้าน

รัฐสภา 18 ส.ค. – สภาฯ ผ่านวาระ 2 งบประมาณ ก.กลาโหม ด้วยคะแนน 226 ต่อ 123 เสียง ปรับลด 3,226 ล้านบาท จากวงเงินที่ตั้งไว้ 95,980 ล้านบาท ก่อนปิดประชุม 20.15 น. โดยจะพิจารณาต่อมาตรา 9 ในส่วนของ ก.คลัง พรุ่งนี้


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระที่ 2-3

ช่วงเย็นเข้าสู่การพิจารณามาตรา 8 งบประมาณกระทรวงกลาโหม ที่กรรมาธิการปรับลดทั้งสิ้น 3,226 ล้านบาท จากวงเงินที่ตั้งไว้ 95,980 ล้านบาท


โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายขอสงวนคำแปรญัตติ ปรับลดงบฯ เป็น 26,733 ล้านบาท เนื่องจากกองทัพไม่ควรจัดซื้ออาวุธในวันที่ประชาชนล้มตาย และไม่ควรซื้อยุทโธปกรณ์ในวันที่ประชาชนต้องการวัคซีน

นายพิธา กล่าวว่า แม้กองทัพเรือได้ถอนเรือดำน้ำออกจากงบประมาณปี 65 แล้ว แต่ยังมีงบฯ สิ่งก่อสร้างและยุทโธปกรณ์สนับสนุนเรือดำน้ำ และอาวุธใหญ่อีกจำนวนมาก ทั้งท่าจอดเรือดำน้ำ โรงซ่อมเรือดำน้ำ คลังเก็บตอร์ปิโด เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบก ระบบสื่อสารของเรือดำน้ำ และโดรนไร้คนขับ เป็นงบผูกพันกว่า 14,000 ล้านบาท เป็นงบฯ ปี 65 ประมาณ 3,000 ล้านบาท ตัวอย่างของอาวุธที่ควรตัดงบฯ คือ โครงการโดรนขนาดใหญ่ของกองทัพเรือ มีมูลค่าถึง 4,100 ล้านบาท ซึ่งมี 3 เหตุผลที่ตนต้องสงวนคำแปรญัตติ คือ

นายพิธา กล่าวว่า จากเหตุผลทั้ง 3 ข้อ เราจึงเห็นกองทัพใหญ่ๆ ระดับโลก เช่น กองทัพสหรัฐอเมริกา และกองทัพอินเดีย เริ่มพิจารณาลดการใช้โดรนขนาดใหญ่ลง ซึ่งสถิติหลอกกันไม่ได้ จะเห็นว่าโดรนขนาดใหญ่ที่กองทัพเรือต้องการซื้อ มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุในปี 2001-2014 ที่สูงมาก เมื่อดูตัวเลขโดรนเหล่านี้ที่ถูกซื้อมา 100 ลำ ตกถึง 48 ลำ ตามข้อมูลของหนังสือพิมพ์ระดับโลก พบว่าโดรน 48% ตกด้วยอุบัติเหตุ ไม่ได้ตกเพราะมีภาวะสงคราม แต่ตกด้วยตัวของโดรนเอง


ดังนั้น จึงเห็นว่า กองทัพอากาศในต่างประเทศที่ทบทวนการจัดซื้อโดรนขนาดใหญ่ เนื่องจากมีราคาสูง และเกิดอุบัติเหตุตกง่าย ไม่สามารถใช้ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งได้จริง กองทัพสหรัฐจึงลดการใช้โดรน โดยให้เหตุผลว่า แพงเกินไป และตกง่าย กองทัพอากาศอินเดียทบทวนการซื้อโดรน เพราะเชื่อว่าไม่สามารถใช้ในพื้นที่ขัดแย้งได้

นายพิธา กล่าวว่า การกระทำของกองทัพเรือ นอกจากจะผิดที่ ผิดเวลา ผิดกาลเทศะ ยังสวนกับทิศทางความมั่นคงระดับโลก ตนจึงขอตัดงบประมาณจำนวนดังกล่าว

ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขอสงวนความเห็นเช่นกัน อภิปรายว่า งบประมาณเหล่าทัพบางส่วนน่าจะปรับลดลงได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยก็คาดการณ์การใช้จ่ายเงินแผ่นดิน จำเป็นต้องกู้เพิ่ม หรือตัวเลขจีดีพีที่ปรับลดลง ถ้าจีดีพีลดลง ก็หมายความว่ารายได้ของประเทศที่จัดเก็บผ่าน 3 กรมหลัก ก็จะลดลงในสัดส่วนเดียวกัน เมื่อลดลง สัดส่วนงบขาดดุล 700,000 ล้านบาท ก็อาจจะไม่เพียงพอ คงจะต้องปรับลดงบประมาณแต่ละรายการลง แต่ก็ขึ้นกับมติของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

แต่มีรายการหนึ่งที่เห็นว่าไม่รู้จะตั้งมาทำไม คือ งบรายจ่ายอื่นของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ค่าใช้จ่ายในการดำรงสภาพกำลังกองทัพ 2,820,700 บาท มีอยู่ 3 รายการ รายการที่ขอปรับลดมีรายการเดียว เพราะน่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่มีความสำคัญ คือ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต กองทัพทั้งกองทัพ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ตั้งรายการนี้ 47,900 บาท ไม่ทราบว่าตั้งมาทำไม นัยสำคัญแทบจะไม่มี จะปราบปรามการทุจริตได้อย่างไร ซึ่งการตั้งงบประมาณแผ่นดินต้องมีความสำคัญ จึงเสนอตัดงบฯ ในส่วนนี้

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ในส่วนของงบฯ กระทรวงกลาโหม เมื่อเข้าไปดูในรายละเอียดการจัดซื้อชุดเครื่องสนามของกองทัพบก ถ้าดูในรายละเอียดราคากลางที่วางไว้สูงถึงชุดละ 14,858 บาท ตามสามัญสำนึกของทุกคน ชุดเครื่องสนามที่จะมีการจัดซื้อแบบรวมแพ็ก 12 รายการ มีอะไรบ้าง วันนี้ตนจึงขอเชิญชวนทุกคนไปชอปปิ้งทีละรายการ รายการที่ 1 คือ เสื้อกันฝน ซึ่งตนได้ดูจากร้านค้าออนไลน์ เสื้อกันฝนราคา 189 บาท เป้สนามเล็ก 440 บาท กระเป๋าอเนกประสงค์ 350 บาท กระเป๋าอเนกประสงค์ใส่ซองกระสุน 149 บาท ถุงผ้าสนาม 440 บาท กระโจมบุคคล หรือเต็นท์ทหาร 1,530 บาท กระติกน้ำ ทบ. 310 บาท เข็มขัดสนาม 450 บาท พลั่วสนาม 590 บาท สายโยงเข็มขัดสนาม 550 บาท หม้อสนาม 650 บาท และเป้หลังครบชุด 960 บาท

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ 12 รายการ ซึ่งรวมแล้วราคาชุดละ 14,858 บาท ทั้งที่ชาวบ้านตั้งราคากลางไว้ 6,775 บาท แต่กองทัพจะซื้อถึง 2,429 ชุด กองทัพบกจึงตั้งงบฯ ทั้งหมด 36 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากเป็นมนุษย์ทั่วไปจะจ่ายในราคาชุดละ 6,775 บาท ถ้าซื้อจำนวน 2,429 ชุด จะใช้เงินเพียงแค่ 16,456,475 บาทเท่านั้น แต่กลับตั้งงบฯ ถึง 36 ล้านบาท ตนจึงต้องชวนกองทัพบกเข้าโครงการ “ช้อปดีมีคืน” ของรัฐบาล เพราะถ้าเป็นอย่างนี้อาจจะไม่ใช่ช้อปดีมีคืน อาจจะเป็นช้อปดีมีทอน และถ้ายังให้ช้อปอย่างนี้ อาจจะเป็นช้อปมั่วมีคุก

นายวิโรจน์ กล่าวว่า “ช้อปดีมีคืน คืนให้ใคร จะคืนให้ประชาชน ด้วยการปรับลดงบประมาณลงมาเยี่ยงปุถุชนคนหนึ่ง ให้เหลือเพียง 16.5 ล้านบาท พอแล้ว จึงขอปรับลดงบฯ ลง 19.6 ล้านบาท ผมขอใช้เวลาสั้นๆ กราบเรียนไปยังนายกฯ ที่เป็น รมว.กลาโหม ด้วย ตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัสขนาดไหน ผมคิดว่า นายกฯ แม้ว่าจะเวิร์กฟอร์มโฮมอยู่ ก็คิดว่าท่านรับรู้ว่ามีเด็กกี่คนที่ต้องกำพร้า สูญเสียพ่อแม่จากโควิด มีกี่คนที่เสียโอกาสไม่ได้เจอพ่อแม่เขาอีก เพราะได้จากไปเพราะโควิด ประชาชนที่ต้องหาเตียง รอยา บางคนที่ยังอยู่ในนี้และข้างนอกสภาฯ ไม่ได้สบายใจ คือ รอติด พอรอติดแล้วก็รอเตียง พอรอเตียงก็รอยา พอรอยาก็รอตาย พอรอตายแล้วยังต้องรอเตาอีก ผมคิดว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการที่สุดในวันนี้ คือ สามัญสำนึกในการใช้จ่ายงบประมาณจากกองทัพ และกระทรวงกลาโหม ซึ่งวันนี้ประชาชนไม่ได้เห็นตรงนั้นเลย อย่าเอางบฯ ประชาชนไปผลาญ ด้วยการนำน้ำยามาพ่นตามโขดหิน เพื่อสร้างภาพเลย เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้น ควรปรับลดงบฯ ไม่จำเป็น ชุดเครื่องสนามแบบนี้ ผมตั้งคำถามทันทีว่า ชุดเครื่องสนามหรือเครื่องสวาปามกันแน่ และไม่ควรจะเรียกว่าชุดเครื่องสนาม แต่ควรจะถูกเรียกว่า ชุดจานชาม ช้อนส้อม ตะเกียบ เพราะดูเหมือนว่าจะไม่ได้เอาไว้ฝึก แต่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเอาไว้กิน ดังนั้น ขอปรับลดงบฯ 19.6 ล้านบาท”

ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ อภิปรายอย่างดุเดือดถึงงบประมาณกระทรวงกลาโหม ว่า มีคำขอมาตั้งแต่แรกทั้งสิ้น 203,281 ล้านบาท จากนั้นยกตัวอย่างถึงงบฯ กองทัพบกที่ขอไป เป็นโครงการจัดหายานยนต์สายสรรพาวุธ ของบฯ 921 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 ผูกพันปี 2565 จำนวน 368 ล้านบาท ปี 2566 อีก 368 ล้านบาท แต่เมื่อสภาฯ อนุมัติงบฯ ให้ไปซื้อรถใหม่เอาไว้ลากรถถัง เพื่อทดแทนรถ M35 รวม 169 คัน ตกคันละ 5,400,000 บาท แต่เมื่อได้งบฯ กลับไม่ดำเนินการ แต่เอาไปเปลี่ยนแปลงเป็นงบฯ ซ่อมรถ M35 ค่าซ่อมคันละ 2,500,000 บาท ใช้งานมากว่า 40 ปี ขณะนี้หมดสภาพแล้ว จึงต้องขอคำตอบจากกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ว่า ผ่านงบฯ เช่นนี้ได้อย่างไร

ส่วนงบฯ กองทัพเรือ ในสถานการณ์ท่ามกลางความอดอยากของประชาชนขณะนี้ ทำไมจึงไม่เจรจาที่จะเลื่อนงวดงานเรือดำน้ำออกไป ยังไม่จำเป็นที่จะต้องจ่าย แล้วตอนนี้ก็ไม่สามารถตรวจรับหรือฝึกได้ รวมถึงเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ 6,200 ล้านบาท มีข้อสงสัยและอยากได้คำตอบ เพราะเรือลำนี้มีแต่เรือเปล่า ไม่มีอาวุธปืน ระบบอำนวยการรบ แล้วจะไปใช้รบได้อย่างไร อีกทั้งกองทัพเรือถูกปรับลดงบฯ ไปเพียง 8,400,000 บาท ส่วนเรือดำน้ำ 2 ลำ ถอนไปเอง ไม่เกี่ยวกับที่กรรมาธิการปรับลด นอกจากนี้ ยังมีเรื่องโดรนไร้คนขับประจำชายฝั่งจากประเทศจีน ลำละ 1,400 ล้านบาท ซื้อ 3 ลำ

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ท่ามกลางความอดอยากหิวโหยของประชาชน วัคซีนก็ไม่มี ประชาชนเดือดร้อน คุณซื้อโดรนเนี่ย มันฆ่าโควิดได้ไหม กองทัพเรือซื้อโดรนจะไปรบกับใคร กรรมาธิการต้องตอบผมว่า คุณอนุมัติให้เขาไปซื้อได้อย่างไร แล้ววันที่ยกมือ กรรมาธิการฟากฝ่ายค้านทั้งหมดวอล์กเอาต์ มีเฉพาะกรรมาธิการงบประมาณในซีกรัฐบาล 36 คน ที่ยกมือให้ ชะลอตัดออกไปก่อนได้ไหม และยังมีโดรนภายในประเทศ ลำละ 570 ล้านบาท ที่กองทัพเรือขอไว้ และกรรมาธิการไม่มีการปรับลดเลย ผมต้องขอคำตอบว่า มีเหตุผลความจำเป็นอะไรที่ให้กองทัพเรือไปซื้ออาวุธมากมายในช่วงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติโควิดอย่างนี้ ถ้ากรรมาธิการตอบไม่ได้ ผมก็ต้องขอเรียกร้องให้วันอาทิตย์นี้ ให้คาร์ม็อบมีคนออกมาไล่เยอะๆ จะได้ไปเร็วๆ

อย่างไรก็ตาม นายยุทธพงศ์ ทิ้งท้ายว่า ที่ขอปรับลดงบกลาโหม 10% หรือประมาณ 20,000 ล้านบาท เพราะเห็นว่าเป็นรายการที่ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติในช่วงวิกฤติ ต้องปรับลดงบฯ ในการจัดซื้ออาวุธ เพราะอาวุธพวกนี้ฆ่าโควิดไม่ได้

ทั้งนี้ ที่ประชุมใช้เวลาอภิปรายงบฯ กระทรวงกลาโหม ประมาณ 4 ชั่วโมง ก่อนจะมีมติให้ความเห็นชอบรายมาตรา วาระ 2 ด้วยคะแนน 226 เสียง ไม่เห็นด้วย 123 เสียง

ที่ประชุมปิดการประชุมในเวลา 20.15 น. โดยจะมีการพิจารณาต่อมาตรา 9 ในส่วนของกระทรวงการคลัง ในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.). – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

สมช.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ปัญหามั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- สมช. ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มอบ “กองทัพ” ประสานการปฏิบัติ พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์-ปกป้องอธิปไตย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกเอกสารข่าว ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุม สมช. ได้รับทราบพัฒนาการของสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมฯ ได้เตรียมพร้อมการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมและประชาชน รวมถึงนานาชาติ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติม หากฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับปัญหา ในการนี้ มอบหมายให้กองทัพประสานการปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยสอดคล้องกับแนวทางการเจรจาใน JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

หกเดือนหก กองทัพอากาศเตรียมความพร้อม สั่งวันนี้ ส่งทันที ถึงที่หมาย

กองทัพอากาศ 6 มิ.ย.- กองทัพอากาศ เผยพร้อมติดตั้งระเบิด เครื่องบินรบ แสดงความพร้อมกำลังพล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจกองทัพอากาศ เผยข้อความ หกเดือนหก (6.6)⚡กองทัพอากาศ เตรียมความพร้อม สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย ฝูงบิน 103 กองบิน 1เครื่องบิน F-16 นามเรียกขาน ” Lightning “ติดตั้งระเบิด พร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย.-313.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ถก สมช. ชี้รัฐบาล-กองทัพ ไร้ปัญหา ทำงานเป็นเอกภาพ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.-นายกฯ ถก สมช.แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้รัฐบาลกับกองทัพ เคลียร์อำนาจหน้าที่แล้วไร้ปัญหา ย้ำ ทำงานเป็นเอกภาพ รักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ พร้อมรับทุกสถานการณ์ ยึดสันติวิธี บอกมอบหน้างานประเมินหากต้องปะทะ ทุกอย่างยังโอเค ยืนยันรัฐบาลทำงานไม่ช้า กำชับ ก.ดีอี ดูเนื้อหาปลุกปั่นหวั่นขยายขัดแย้ง ด้าน ผบ.ทสส. ลั่น กองทัพพร้อมหนุนรัฐบาล แจงประชุมเหล่าทัพไม่เชิญสื่อ ขอทำงานมืออาชีพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มีการพูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์ หลังจากเมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปคุยกับทีมกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สถานการณ์ยังโอเคอยู่ และยืนยันว่า ทุกหน่วย ทุกฝ่ายทั้งกองทัพและรัฐบาลมีการปรึกษากันตลอดก่อนที่จะดำเนินการใดใด อำนาจไหนที่เป็นของใคร และทุกคนทราบในอำนาจของตัวเองเป็นอย่างดี และวันนี้สิ่งที่ต้องการคือความเป็นเอกภาพในการทำงานทั้งหมด ซึ่งวันนี้ ได้คุยกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี […]