“ยุทธพงศ์” ลั่น พรุ่งนี้ยื่นญัตติซักฟอก “นายกฯ-อนุทิน”

พรรคเพื่อไทย 15 ส.ค.-“ยุทธพงศ์” ลั่น พรุ่งนี้จะไปยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มุ่งเป้า นายกฯ และ “อนุทิน” จัดหนักเรื่องแก้โควิด ครั้งนี้ไม่มีชื่อ “ร.อ.ธรรมนัส”

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่าวันพรุ่งนี้เวลา 09.30 น. ตกลงจะไปยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลแน่นอน จำนวน 6 คน มุ่งไปที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นหลัก ทั้งเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนและแก้ปัญหาโควิด-19 การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เรือดำน้ำ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็นการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ล็อตใหม่ ทั้งที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อบอกว่าวัคซีนดังกล่าวไม่สามารถควบคุมได้แล้ว และยังมีปัญหาชุดตรวจ ATK ซื้อจากจีน เป็นข้อสงสัยในเรื่องของคุณภาพและความโปร่งใสในราคา เนื่องจากเยอรมนีราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง โดยชุดตรวจ ATK ซื้อจากจีนราคาชุดละ 70 บาท แต่ที่เยอรมนีราคา 34 บาท ส่วนต่าง 30 กว่าบาท


“รับรองการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้มันแน่ และมีเรื่องความไม่โปร่งใสต่างๆ อันนี้แค่หนังตัวอย่าง ก็แสดงว่ารัฐบาลไม่ได้กลัว ขนาดฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยังทำอย่างนี้อีก ยังซื้อซิโนแวค 10.9 ล้านโดส”นายยุทธพงศ์ กล่าว

นายยุทธพงษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีส่วนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจคือนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนอีกคนกำลังพิจารณาอาจจะเป็น นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส หรือไม่ อย่างไรก็ตามไม่มีชื่อ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด


นายยุทธพงศ์ ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 กล่าวด้วยว่า ได้ทำหนังสือถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ขอให้ตรวจสอบกรณีรถเบนซ์หรูของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ. มูลค่า 5 ล้านบาท แต่นายอาคม กลับส่งเรื่องนี้ไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบเรื่องนี้แทน ซึ่งนายเรืองไกร ไม่ได้เป็น ส.ส. และทราบว่าสํานักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือสอบถามกลับไปยังนายอาคม ถึงความคืยหน้าในการสอบเรื่องดังกล่าว ดังนั้นในวันที่18 สิงหาคม ก่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณในวาระ 2-3 ตนจะขอหารือกับประธานสภาในเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ในเรื่องการมีส่วนได้ส่วนเสียกับงบประมาณในทางตรงและทางอ้อม ซึ่งอาจจะมีผลต่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง