หวั่นโควิดลามโรงงาน กระทบส่งออก


พรรคประชาธิปัตย์ 13 ส.ค.-“องอาจ” หวั่นโควิดลามโรงงาน กระทบส่งออก ขอรัฐวางแผนจัดการเพื่อพยุงเครื่องยนต์สำคัญสุดท้ายด้านเศรษฐกิจของประเทศ



นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และ ประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงาน ว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังลุกลามขยายตัวเข้าไปในโรงงานอย่างต่อเนื่องทั้งโรงงานขนาดเล็ก ขนาดกลาง และโรงงานขนาดใหญ่ ต่างได้รับผลกระทบเกือบ 600 โรงงาน มีผู้ใช้แรงงานติดเชื้อเกือบ 50,000 คน ใน 50 กว่าจังหวัดมีการแพร่ระบาดเข้าสู่โรงงานในภาคอุตสาหกรรมหลายด้าน ที่ได้รับผลกระทบมาก คือ อุตสาหกรรมอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องนุ่งห่ม โลหะ พลาสติก ทำให้โรงงานบางแห่งอาจต้องลดการผลิตลง หรือหยุดการผลิตชั่วคราว จนกว่าจะแก้ไขปัญหาผู้ติดเชื้อในโรงงานได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ และกระทบการส่งออกโดยรวม เพราะผู้นำเข้าสินค้าไทยในต่างประเทศอาจหันไปสั่งซื้อสินค้าจากประเทศอื่นแทน หากการส่งมอบสินค้าจากไทยล่าช้า ในขณะที่การส่งออกไทยกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี มียอดการส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์ถึงแม้ทั่วโลกประสบปัญหาจากโควิด-19

“ความสำเร็จจากการส่งออกของไทยซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญสุดท้ายของเศรษฐกิจไทย จึงต้องรักษาไว้ให้เดินหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ภาครัฐจึงต้องช่วยกันทำทุกวิถีทาง ที่จะทำให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงานต่างๆ คลี่คลายลงให้ได้โดยไว ขณะเดียวกันก็ต้องป้องกันไม่ให้โรงงานเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ในการแพร่เชื้อโควิด เพราะเมื่อโรงงานมีคนงานติดเชื้อมากเท่าไหร่ โอกาสที่เชื้อจะถูกแพร่กระจายออกไปสู่ชุมชนภายนอกโรงงานตามไปด้วย” นายองอาจ กล่าว



นายองอาจ ยังเสนอวิธีการป้องกันไม่ให้โรงงานเป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 ว่า จะต้องเร่งตรวจคัดกรองหาเชื้อเชิงรุก เพื่อคัดผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบดูแลรักษาตามอาการ ไม่ให้ปะปนกับคนงานอื่น เพื่อให้คนงานที่ไม่ติดเชื้อยังทำงานต่อไปได้ กระบวนการผลิตก็ไม่ต้องหยุด จนส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้า และ เร่งฉีดวัคซีนให้ผู้ใช้แรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เพราะขณะนี้แรงงานตามโรงงานได้รับการฉีดวัคซีนน้อยมาก ดังนั้นขอฝากภาครัฐให้ช่วยวางแผนจัดการให้โรงงานสามารถทำงานต่อไปได้ เพื่อช่วยทำให้การส่งออกของไทยเติบโตเป็นกำลังสำคัญ พยุงเศรษฐกิจไทยให้อยู่ได้ภายใต้วิกฤติโควิด – 19 ที่ยังเป็นปัญหาถาโถมอยู่ในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ช่วยผู้รอดชีวิตรายแรก เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ ถล่ม

กทม. 28 มี.ค. – ช่วยได้แล้ว 1 ราย ผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่ม เป็นคนงานที่ติดอยู่ในช่องลิฟต์ เร่งนำส่ง รพ. อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิต ณ เวลา 19.25 น. เพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย สูญหาย 117 ราย .-สำนักข่าวไทย

ระดมค้นหา 94 ชีวิต เหตุตึกถล่มย่านจตุจักร

เกาะติดเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่มจากแผ่นดินไหว จนท.ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ตัวเลข ปภ. คาดมีคนงานติดอยู่ในซาก 94 ราย ยังไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ยืนยันผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3 ราย ด้านนายกฯ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ก่อนเดินทางไปยังศูนย์บัญชาการแผ่นดินไหว กทม.

กรมอุตุฯ เฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก เขย่าแล้ว 21 ครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 21 ครั้ง นักวิชาการระบุ พลังงานของแผ่นดินไหวลดลงตามลำดับ แต่ที่น่าห่วงคือ โครงสร้างของอาคารต่างๆ โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน ต้องมีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง

นายกฯ ยันไม่เกิดสึนามิแน่ เหตุเป็นแผ่นดินไหวบนบก

นายกฯ เผยสถานการณ์แผ่นดินไหวคลี่คลาย ประชาชนกลับเข้าที่พัก-อาคารสูงได้ พร้อมเปิดพื้นที่สวนสาธารณะให้อยู่ ขณะรถไฟฟ้าเปิดให้ บริการอีกครั้งวันพรุ่งนี้ สั่งเร่งทยอยนำคนออกจากตึกถล่ม จตุจักร ก่อนลงพื้นที่ด่วน ยันไม่เกิดสึนามิแน่ เหตุเป็นแผ่นดินไหวบนบก