fbpx

นายกฯ กำชับเร่งจัดการขยะติดเชื้ออย่างเป็นระบบ

กรุงเทพฯ 12 ส.ค. – นายกฯ ห่วงใยสถานการณ์ขยะติดเชื้อ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการอย่างเป็นระบบ พร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจต่อประชาชนให้ทิ้งอย่างถูกต้อง


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยสถานการณ์ขยะติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนมีความต้องการใช้หน้ากากอนามัยสูงขึ้น เป็นที่มาของขยะติดเชื้อ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งล้อม กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร ให้ปฏิบัติตามมาตรการจัดเก็บและกำจัดขยะติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย กระดาษทิชชู ชุดตรวจ Antigen Test Kit ไปจนถึงขยะติดเชื้อจากสถานพยาบาล ฯลฯ อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง เพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชน ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อันเกิดจากขยะดังกล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี กำชับให้เน้นย้ำระบบการจัดการขยะติดเชื้อตั้งแต่ต้นทาง โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงวิธีการทิ้งขยะติดเชื้ออย่างถูกต้องตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด กลางทางคือกระบวนการจัดเก็บ ทั้งจากแหล่งชุมชน โรงพยาบาล โรงพยายามสนาม รวมถึงสถานที่กักตัวในชุมนุม (Community Isolation) โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการการจัดเก็บอย่างเคร่งครัด มีระบบการป้องกันอย่างรัดกุม ก่อนจะไปถึงปลายทางคือกระบวนการทำลาย ซึ่งต้องทำอย่างถูกต้องตามขั้นตอน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร รายงานปริมาณขยะติดเชื้อพบว่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลย้อนหลัง 5 วัน พบปริมาณขยะติดเชื้อ ดังนี้ วันที่ 10 ส.ค.  มีปริมาณขยะติดเชื้อรวม 125,072 กิโลกรัม เป็นมูลฝอยติดเชื้อทั่วไป 61,114 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อโควิด 63,958 กิโลกรัม, วันที่ 9 ส.ค. มีปริมาณ 118,150 กิโลกรัม เป็นมูลฝอยติดเชื้อทั่วไป 60,161 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อโควิด 57,989 กิโลกรัม, วันที่ 8 ส.ค. มีปริมาณ 126,700 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อทั่วไป 70,380 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อโควิด 56,320 กิโลกรัม, วันที่ 7 ส.ค. มีปริมาณ 109,070 กิโลกรัม เป็นมูลฝอยติดเชื้อทั่วไป 67,113 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อโควิด 41,957 กิโลกรัม และวันที่ 6 ส.ค มีปริมาณ 112,310 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อทั่วไป 68,386 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อโควิด 43,924 กิโลกรัม   

ดังนี้ รัฐบาลจึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้มีการคัดแยกขยะติดเชื้อตั้งแต่ต้นทาง สำหรับการทิ้งหน้ากากอนามัย ให้พับแล้วใช้สายรัดพันให้แน่น นำหน้ากากอนามัยใส่ถุงแล้วรัดปากถุงให้แน่น เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อ เขียนกำกับบนถุงว่าขยะติดเชื้อ ทิ้งลงถังรองรับหน้ากากอนามัยใช้แล้ว (ถังสีส้ม) เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือสบู่ทันทีหลังทิ้งหน้ากากอนามัย


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนชุดตรวจ Antigen Test Kit กระทรวงสาธารณสุข แนะนำวิธีกำจัดไว้ 2 กรณี 1) ชุมชนที่มีระบบการเก็บขยะติดเชื้อ ให้เก็บรวบรวมขยะติดเชื้อเป็นประจำทุกวัน โดยใส่ถุงขยะ (ถุงแดง) 2 ชั้น มัดปากถุงชั้นในและชั้นนอกด้วยเชือกให้แน่น และฉีดพ่นบริเวณปากถุงด้วยสารฆ่าเชื้อ ก่อนเคลื่อนย้ายไปไว้ยังจุดพักขยะที่จัดไว้เฉพาะ เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป

2) ชุมชนที่ไม่มีระบบการเก็บขนมูลฝอยติดเชื้อ ให้เก็บรวบรวมและทำลายเชื้อ โดยใส่ถุงขยะ 2 ชั้น ถุงใบแรกที่บรรจุมูลฝอยติดเชื้อแล้ว ให้ราดด้วยสารฆ่าเชื้อหรือน้ำยาฟอกขาว เช่น ไฮเตอร์ จากนั้นมัดปากถุงให้แน่นแล้วฉีดพ่นบริเวณปากถุงด้วยสารฆ่าเชื้อ ซ้อนด้วยถุงขยะอีก 1 ชั้น มัดปากถุงชั้นนอกด้วยเชือกให้แน่น และฉีดพ่นด้วยสารฆ่าเชื้อบริเวณปากถุงอีกครั้ง จากนั้นให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อนำไปกำจัดต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบจุดที่ ฮ.ปธน.อิหร่านตกแล้ว

เตหะราน 20 พ.ค.- สื่อทางการอิหร่านรายงานอ้างแหล่งข่าวภาคสนามว่า ผลการตรวจตราทางอากาศในพื้นที่ที่เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีเอบราฮิม เรซี ประสบเหตุตก สามารถกำหนดพิกัดการตกที่แม่นยำได้แล้ว เว็บไซต์สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ (IRNA) ของทางการอิหร่านรายงานว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยกำลังเดินทางไปยังจุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากทางการ ขณะเดียวกันโดรนของทูร์เคียหรือตุรกีได้ตรวจพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก ผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านยืนยันว่า โดรนทูร์เคียพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นซากเฮลิคอปเตอร์ ไออาร์เอ็นเอรายงานว่า แม้ว่าสภาพอากาศเลวร้ายหมอกลงจัดและมีฝนตก ทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีไรซีโดยสารมาพร้อมกับคณะและหายไปเมื่อวันอาทิตย์ขณะบินอยู่เหนือภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยได้ค้นหาอย่างละเอียดตามพื้นที่เทือกเขาและเนินเขาใกล้เมืองวาร์ซากานในจังหวัดอาร์เซอร์ไบจานตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย

เร่งวิจัยยาฉีดพ่นรักษามะเร็งปอด คาดสำเร็จใน 3 ปี

การรักษามะเร็งมีความหวังมากขึ้น หลังนักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใช้เทคโนโลยีรักษามะเร็งสมองได้สำเร็จ และนำมาวิจัยต่อยอดรักษามะเร็งกระดูกอ่อนและมะเร็งตับแนวใหม่ได้ผล ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการวิจัยยารักษามะเร็งปอดแบบฉีดพ่น

รวบแล้วหนุ่มปากี-เมียคนไทย ลวงชายอินเดียฆ่าทิ้งศพ

ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมชายปากีสถาน พร้อมภรรยาชาวไทย ลวงชายอินเดียมาฆ่าแล้วทิ้งศพริมถนน พุ่งเป้าปมขัดแย้งธุรกิจ โดยมีหลักฐานสำคัญจากวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ ขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา

Made in Thailand แดนไทยเท่ : จากเมืองเก่าภูเก็ตสู่แพ็กเกจกล่องชิโนโปรตุกีส

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปดู มนต์เสน่ห์ของตึกรามบ้านช่องในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ถูกถ่ายทอด ไปสู่กล่องขนมรูปแบบชิโนโปรตุกีส กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ภูเก็ตและไทยที่โดนใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ข่าวแนะนำ

“พิชิต” ยื่นลาออก รมต.ประจำสำนักฯ ให้นายกฯ บริหารประเทศต่อไปได้

“พิชิต” ยื่นหนังสือลาออก รมต.ประจำสำนักฯ แล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ ยืนยัน ไม่ยึดติดตำแหน่ง

ตรวจสอบเรือยอชต์ถูกเพลิงไหม้ ขณะจอดลอยลำหน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต

เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ประสานตำรวจตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้เรือยอชต์เสียหายทั้งลำ ขณะผูกทุ่นลอยลำอยู่หน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต คาดเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าฤดูฝนเป็นทางการแล้ว

กรุงเทพฯ 21 พ.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเริ่มฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วตัั้งแต่ 20 พ.ค. โดยพบว่า ปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทุกปัจจัย ฤดูฝนปีนี้อาจมีพายุหมุนเขตร้อน 1 – 2 ลูกเท่าค่าเฉลี่ยปกติ สภาวะเอลนีโญจะสิ้นสุด แล้วพลิกกลับเป็นลานีญา ทำให้ฝนตกชุก ดังนั้นช่วงปลายฤดูฝนจะตกชุกหนาแน่นทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในบางพื้นที่ นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ได้ออกประกาศรื่อง การเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2567 โดยประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูร้อนและเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (วันที่ 20 พฤษภาคม) เนื่องจากบริเวณประเทศไทยตอนบน สภาพอากาศมีฝนตกชุกหนาแน่นครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 และต่อเนื่อง 3 วันขึ้นไป ประกอบกับลมชั้นบนที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับความสูงประมาณ 1.5 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดนำความชื่นจากะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนลมชั้นบนที่ระดับความสูงประมาณ 10 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก เมื่อปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทั้ง 3 ปัจจัยจึงถือว่า เป็นการเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยในปีนี้ ทั้งนี้ฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีผนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม สำหรับปรากฏการณ์เอนโซ (ENSO) ขณะนี้อยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อน โดยเป็นช่วงท้ายของสภาวะเอลนีโญ คาดการณ์ว่า จะเข้าสู่สภาวะเป็นกลางหรือ Neutral ในเดือนมิถุนายน […]