ทำเนียบฯ 11 ส.ค.-โฆษก ศบค. วอนเร่งพา “ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง-หญิงตั้งครรภ์” ฉีดวัคซีนด่วน ลดอัตราการติดเชื้อ ป่วยหนัก และเสียชีวิต เผยคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงาน 3 จังหวัด ต้องเร่งทำ bubble and seal
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า จากผลการตรวจโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ Antigen Rapid Test Kit ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.64 พบอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ร้อยละ 8.85 ส่วนรายงานผลบวกทั้งประเทศ ข้อมูลวันที่ 11 ส.ค.64 อยู่ที่ 2,081 ราย
ส่วนการรายงานการพบคลัสเตอร์ใหม่ พบในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร อำเภอเมืองสมุทรสาคร เป็นบริษัทปิโตรเลียมติดเชื้อ 19 ราย , จังหวัดราชบุรี ที่อำเภอเมือง เป็นบริษัทอาหารสำเร็จรูปติดเชื้อ 32 ราย และจังหวัดปราจีนบุรี ที่อำเภอบ้านสร้าง เป็นบริษัทเครื่องดื่มติดเชื้อ 26 ราย ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโรงงานจึงต้องเร่งดำเนินการทำ Bubble and Seal โดยขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับนายจ้าง ปรับตัวในการทำงาน หากพบการติดเชื้อต่อจำนวนพนักงานมากก็อาจจะต้องดำเนินการปิดโรงงาน แต่หากไม่มากก็จะมีการแยก เพื่อเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ ต้องแยกผู้ติดเชื้อออกมา แต่ต้องเน้นย้ำว่าจะต้องทำการ Bubble and Seal
ขณะที่รายงานทีม CCRT มีการลงพื้นที่ชุมชน จำนวน 153 แห่ง มีผู้เข้ารับบริการ 4,628 ราย ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 3,373 ราย แบ่งเป็นผู้สูงอายุ 875 ราย ผู้มีโรคประจำตัว 2,483 ราย และหญิงตั้งครรภ์ 15 ราย นอกจากนี้ ยังมีการตรวจค้นหาเชิงรุกแบบ Antigen Rapid Test Kit จำนวน 1,347 ราย พบติดเชื้อ 126 ราย แบ่งเป็นทำ Home isolation 116 ราย และส่งต่อโรงพยาบาล 10 ราย
โฆษก ศบค. ยังกล่าวว่า การฉีดวัคซีนในประเทศไทยรวม 21,717,954 โดส สะสมแบ่งเป็นฉีดวัคซีนเข็มแรก 16,701,428 ราย เพิ่มขึ้น 364,685 ราย เข็มที่สองจำนวน 4,692,030 ราย เพิ่มขึ้น 125,685 รายและเข็มที่สามสะสมจำนวน 324,496 ราย เพิ่มขึ้น 56,474 ราย ซึ่งวัคซีนที่ได้มาส่วนใหญ่ให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ในส่วนของประชาชนทั่วไปเน้นย้ำฉีดให้กับผู้สูงอายุ, ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรคและหญิงตั้งครรภ์ โดยกลุ่มนี้ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนช่วยพามาฉีดวัคซีนโดยด่วน ซึ่งการฉีดวัคซีนกว่าจะออกผลจะใช้เวลาสร้างภูมิ 2-4 สัปดาห์หากจะลดอัตราการติดเชื้อป่วยหนักหรือเสียชีวิตจึงต้องช่วยกัน .-สำนักข่าวไทย