เกษตรดีใจ ลุงป้อม ลุยช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ทำกินหลุดมือ ช่วงโควิดระบาด

กรุงเทพฯ 7 ส.ค.-“พล.ประวิตร” สั่งการ บจธ. ติดตามโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีที่ดินทำกิน และโครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน จากการจำนอง ขายฝาก และถูกบังคับคดี ได้มีที่ดินของตนเองกลับคืนมา


7 สิงหาคม 2564 พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. กล่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล บจธ. มีความห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีแนวโน้มว่าเกษตรกรและผู้ยากจนอาจจะสูญเสียสิทธิในที่ดินทำกินสูงขึ้น จึงสั่งการให้ บจธ. ดำเนินการติดตาม โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วจำนวนพื้นที่ 1,234-2-17.7 ไร่ ช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้มีที่ดินทำกิน จำนวน 482 ครัวเรือน และโครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน จากการจำนอง ขายฝาก และถูกบังคับคดี ได้มีที่ดินของตนเองกลับคืนมาจำนวน 334 ราย และในปี 2565 ที่แม้ บจธ. มีภารกิจสำคัญต้องผลักดันกฎหมายแต่เบื้องต้นคณะรัฐมนตรีพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้ บจธ. แก้ปัญหาเกษตรกรที่ยังเดือดร้อนหนักอีกจำนวนหนึ่งให้แล้วเสร็จ

นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการ บจธ. เปิดเผย บจธ. ได้เตรียมความพร้อมในกระบวนการเพื่อพิจารณาให้ช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของพี่น้องเกษตรกรและชุมชน ให้พึ่งพาตัวเองได้ และแบ่งปันผู้เดือดร้อน ในช่วงการระบาดโควิด-19 โดยพบว่าวิสาหกิจชุมชน 11 พื้นที่ สหกรณ์การเกษตร 1 พื้นที่ ครอบคลุมทั้ง 4 ภาค (ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือ) มีความเข้มแข็ง มีผลผลิตและผลิตภัณฑ์การเกษตรปลอดสารพิษเพื่อบริโภคและจำหน่าย สร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ทำให้สามารถจ่ายค่าเช่าที่ดิน และค่าเช่าซื้อที่ดินกับ บจธ.


“จากการระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย ทำให้ที่ดินหลุดมือเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเกษตรกรมีภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ ไม่สามารถชำระหนี้สินได้ ปัจจุบันเกษตรกรรายย่อยมีปัญหาที่ดินจะหลุดมือ หรือหลุดมือไปแล้ว ได้ขอความช่วยเหลือจาก บจธ. จำนวน 900 กว่าราย เข้าหลักเกณฑ์จำนวน 630 ราย และมีเกษตรกรผู้ยากจนอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน หน่วยงานของรัฐและเอกชนได้ ทำให้ไปใช้บริการเงินกู้นอกระบบ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยแพงมากเกินกฎหมายกำหนด จึงมีแนวโน้มจะถูกยึดที่ดินทำกิน ในปีงบประมาณ 2565 แม้ บจธ. จะได้รับการพิจารณางบประมาณแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน เพียง 25 ล้านบาท ซึ่งในงบประมาณในส่วนนี้ บจธ. สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้เพียง 25 ราย ก็ตาม นายกุลพัชรกล่าว

ระหว่างปี 2559 – 2562 บจธ. ได้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจนไปแล้ว 334 ราย รวมเนื้อที่ 2,319 ไร่เศษ ซึ่งยังอยู่ในช่วงการชำระสินเชื่อ

ลุงสำรวย อายุ 53 ปี เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน พื้นที่ภาคเหนือ อาศัยอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลท่าขมิ้น อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่มันสำปะหลัง ปลูกพืชผสมผสาน และเผาถ่าน ได้ทำสัญญาค้ำประกันสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี ต่อมาลุงสำรวยฯ กับญาติ ถูกฟ้องบังคับชำระหนี้ และถูกบังคับยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด และขอความช่วยเหลือกับหลายหน่วยงาน สุดท้าย บจธ. ให้ความช่วยเหลือจนได้ที่ดินกลับคืนมา


“ขอขอบคุณทุกหน่วยงานเลยครับ และ บจธ. ที่มาช่วยเหลือคนที่ที่ดินหลุดมือโดยไม่ได้ตั้งใจ เข้ามาช่วยได้ทันท่วงที ปัจจุบัน ลุงก็มีรายได้ไม่มาก แต่ก็พออยู่ได้ พอส่งให้ บจธ. ไหวครับไม่แพง เหลือก็เก็บไว้ ชีวิตไม่เครียดไม่อะไรแล้ว อยากให้คนที่เจอแบบกับลุงนี่นะ ได้รับการช่วยเหลือ ขอบคุณมากเลยครับ” ลุงสำรวยกล่าว

เช่นเดียวกับลุงวิสูติ อายุ 51 ปี เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ภาคกลาง ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม ทำนา และรับจ้างทั่วไป อาศัยอยู่ที่ หมู่ที่ 3 ตำบลนางบวช อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ได้เช่าที่นา และประสบปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดในนาข้าว ทำให้ขาดทุน ประกอบกับส่งบุตรเรียนหนังสือ ต้องนำที่ดินไปขายฝาก แต่ไม่มีเงินชำระหนี้ จึงยื่นร้องขอความช่วยเหลือมายัง บจธ. ทำให้ที่ดินที่หลุดขายฝากได้กลับคืนมา

“ ขอสินเชื่อไม่ได้ เราไม่มีหลักประกัน วันนั้นหน่วยงานเค้ามีหนังสือตอบกลับมา บอกว่าเราได้รับการช่วยเหลือแล้ว แทบพูดไม่ออกเลย ตื้นตันใจ ที่ยังมีหน่วยงานที่ยังมองเห็นคุณค่าของเรา” ลุงวิสูติ กล่าว

ป้าอุทัย อายุ 58 ปี เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ภาคอีสาน อาศัยอยู่ที่ หมู่ที่ 8 ตำบลหนองบัว อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ไร่อ้อย มันสำปะหลัง เลี้ยงวัว ค้าขาย และรับจ้าง เมื่อปี 2558 ทำสัญญาขายฝากที่ดินแปลงดังกล่าว จนกระทั่งปี 2560 ป้าอุทัย ประสบปัญหาขาดทุนจากการทำไร่อ้อย ไม่มีเงินชำระดอกเบี้ยจึงทำให้ที่ดินหลุดไป จึงเดินทางมายัง บจธ. เพื่อขอรับความช่วยเหลือจาก บจธ. จำนวนเนื้อที่ 6-1-47.1 ไร่ และ 7-0-00 ไร่ แล้วจัดให้ป้าอุทัยฯ เข้าทำประโยชน์ในที่ดินโดยการเช่าซื้อ

“ถ้า บจธ. ไม่มาช่วยป้าก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว ไปมาหลายหน่วยงาน เค้าบอกเค้าช่วยไม่ได้ ที่ดินอยู่กับเจ้าหนี้แล้ว ป้าไม่มีหลักประกันที่ไหนมาค้ำประกันแล้ว ไม่คิดว่าจะมีหน่วยงานแบบ บจธ. ที่ช่วยเราได้ ป้าไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรดี ตอนนี้ป้าก็ปลูกผักสวนครัว เก็บเงินส่ง บจธ. ไหวสิ ไหวอยู่แล้วโควิดมาเราก็ต้องรับสภาพเหมือนกันหมด” ป้าอุทัย กล่าว

ป้าพรทิพย์ อายุ 50 ปี เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำสวนยาง สวนมะม่วง และสวนปาล์มน้ำมัน อยู่ที่ หมู่ 10 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้ทำสัญญายืมเงินและทำหนังสือสัญญาขายฝากที่ดิน พร้อมบ้านพักอาศัย ไว้กับผู้รับซื้อขายฝาก เพื่อนำเงินมาลงทุนและรับซื้อของเก่ามาขาย แต่รายได้จากการรับซื้อของเก่ามีไม่เพียงพอ ซ้ำโรงงานที่ตนเองไปรับจ้างผลิตผลไม้กระป๋องก็ปิดกิจการ สุดท้ายที่ดินของป้าจึงต้องตกเป็นของเจ้าหนี้ บจธ. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในกรณีดังกล่าว โดยได้ติดต่อประสานงานกับป้าและเจ้าของที่ดินในปัจจุบันเพื่อขอซื้อที่ดินดังกล่าวคืน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่เจ้าของที่ดินได้ยินยอมให้ความอนุเคราะห์ขายที่ดินคืนให้แก่ ป้าพรทิพย์

“ที่ดินตรงนี้เป็นที่ของพ่อแม่ เป็นที่ผืนสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่มีที่ตรงนี้แล้วเราก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน หลังจากที่ป้าได้รับหนังสือตอบกลับ ป้าก็ดีใจมากๆ ชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้ที่ดินของตัวเองคืน ทีแรกไม่คิดว่าจะมีหน่วยงานไหนช่วยเราได้ เพราะเราไม่มีหลักประกัน ไม่รู้ว่าจะพูดขอบคุณยังไงดี ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณ บจธ. จริงๆ อยากให้คนที่ตกทุกข์ได้ยากแบบป้าได้รับความช่วยเหลือจาก บจธ. โครงการนี้ดีมากๆ อยากให้คนรู้จักเยอะๆ ขยายความช่วยเหลือไปทั่วประเทศจะดีมากๆ เลย” ป้าพรทิพย์กล่าว

ทั้งนี้ เกษตรกรและผู้ยากจนที่ประสบปัญหาเรื่องที่ดินทำกินสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องที่ดินทำกินได้ที่ โทร 02-278-1648 ต่อ 115, 02-278-1244 ต่อ 610 หรือ 063-214-7844 อีเมล์ saraban@labai.or.th”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถกเหตุ “ภูเก็ต-พังงา” ขอมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- นายกฯ เรียก ผบ.ตร.-ผบช.ทท.-ปลัดท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์ลอบวางระเบิด “ภูเก็ต-พังงา” ขอประชาชน-นักท่องเที่ยวมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี ขณะที่ “ภูมิธรรม” เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความภายหลังเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) และน.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา วันนี้ (27 มิ.ย.) ดิฉันได้เชิญท่าน ผบ.ตร. ท่านผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ดิฉันได้ย้ำทุกภาคส่วนให้มีการสืบสวนติดตามสถานการณ์นี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ดำเนินทุกมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามค่ะ รัฐบาลจะไม่ประมาท ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานต่อไปอย่างเข้มงวด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเร่งออกมาตรการที่เด็ดขาดต่อไป ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ […]

“ชัยเกษม” ลั่นหากจำเป็น พร้อมเป็นนายกฯ เพื่อชาติบ้านเมือง

27 มิ.ย. – “ชัยเกษม” ลั่นพร้อมทำเพื่อชาติ หากจำเป็นต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้แข็งแรง ไม่มีปัญหา ท่ามกลางกระแสการเมืองร้อนแรง ปมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทำให้บุคคลที่ถูกจับตามองตอนนี้ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจถูกมองว่ามีปัญหาด้านสุขภาพแต่ล่าสุด มีภาพนายชัยเกษม โชว์สวิงออกรอบตีกอล์ฟ แสดงให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรง ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD ว่า “ตอนนี้แข็งแรง เรียบร้อยหมดทุกอย่าง เพราะก้อนเลือดที่ท้ายทอย สลายไปหมดแล้ว ชีวิตก็ปกติ ไม่มีปัญหา ตอนไปพบหมอครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าโชคดีมหาศาลที่หายแล้ว เมื่อวานไปตีกอล์ฟได้สบายเลย ตอนนี้สุขใจ สบายใจแล้ว” เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายชัยเกษม ตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหรอก ถ้าเลี่ยงได้ ก็ให้คนอื่นเขาทำเถอะ ผมทำมาเยอะแล้ว แต่ถ้าจำเป็นก็ได้เพราะไม่มีอะไร แต่อย่าให้จำเป็นเลย คนอื่นก็มีเยอะแยะ […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-แม่ทัพภาคที่2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง บอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดการเอง ยันขอทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เคยหวั่นไหว ชี้สถานการณ์ชายแดน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง​ ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธ​ ขอรอกัมพูชาตัดสินใจร่วมวงเจรจา RBC เชื่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จบก่อนเกษียณ พลโทบุญสิน​ พาด​กลาง​ แม่ทัพ​ภาค​ที่​ 2 กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์พาดพิงประเทศไทยได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วหรือไม่ ว่า คงเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่ต้องไปแก้ไข ส่วนกองทัพก็ดูแลเรื่องของความมั่นคง พื้นที่ตามชายแดนเป็นหลัก​ เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนขณะนี้เป็นเช่นไร​ พลโทบุญสิน​ กล่าวว่า เราก็ตรึงกำลังอยู่ ส่วนทางกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อรอความชัดเจนจากทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ต้องยึดตามนโยบายของผู้นำทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน ว่าจะคุยกันอย่างไรต่อ ส่วนทหารก็ต้องทำหน้าที่ของทหารต่อไป คือการควบคุมกำกับดูแลตามแนวชายแดน ให้เป็นปกติดีที่สุด เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณบวกจากทางกัมพูชาบ้างหรือไม่ พลโทบุญสิน​ ระบุว่า ก็ดีมีการพูดคุยกันตลอด มีสัญญาณบวกตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก​ อำเภอน้ำยืน​ จังหวัดอุบลราชธานี แต่รอการเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศ ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน มีการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุด […]

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย