ย้ำ รบ.ต้องเร่งหาวัคซีนเอง อย่าหวังพึ่งเอกชน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค.- “พิชัย” เตือนนายกฯ อย่าปล่อยคนไทยตามยถากรรม ต้องมองเศรษฐกิจล่วงหน้าและเร่งแก้ไข  ย้ำรัฐบาลต้องเร่งหาวัคซีนเอง อย่าหวังพึ่งเอกชน


นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือการขยายตัวเพียง 0.7% ในขณะที่ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวติดลบถึง -1.5% ซึ่งเป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยเตือนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และคาดสถานการณ์อาจย่ำแย่กว่านี้ได้อีก จากสภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทะลุวันละ 2 หมื่นราย และน่าจะต้องล็อกดาวน์อีกหลายเดือน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจทรุดลงไปอีก ดังนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะต้องฝึกคิดล่วงหน้าและหาวิธีป้องกันแก้ไข ไม่ใช่ตามแก้รายวันเหมือนที่เป็นอยู่

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ปัจจุบันดูเหมือนนายกรัฐมนตรีจะปล่อยประเทศและประชาชนให้เป็นไปตามยถากรรม ไม่มีแนวทาง หลักการ ไม่สร้างความมั่นใจว่า ประเทศไทยจะก้าวพ้นจากสภาวะวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร และไม่รู้เลยว่าวัคซีนที่มีคุณภาพจะเข้ามาเมื่อไหร่และจะต้องล็อกดาวน์ไปอีกกี่เดือน ซึ่งไม่มีคำตอบจากรัฐบาล และไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ความพยายามที่จะหลอกตนเองและเชื่อเอง จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ขณะที่ทั้งนักวิชาการ นักธุรกิจ พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีข้อแนะนำแต่ก็ไม่ฟังและไม่ปฏิบัติตาม


“เตือนพลเอกประยุทธ์ว่าสถานการณ์ข้างหน้าจะยิ่งเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ การแพร่ระบาดจะมีมากยิ่งขึ้น คนจะติดเชื้อมากขึ้น มีคนตายเพิ่มขึ้น และยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ถ้าวัคซีนคุณภาพยังไม่มา การระบาดก็จะยังไม่จบ เศรษฐกิจจะทรุดหนัก การส่งออกแม้จะเพิ่ม แต่การนำเข้าก็เพิ่มสูงขึ้นมากเช่นกัน และการขาดดุลบัญชีภาคบริการเพิ่มสูงขึ้นมาก ค่าเงินบาทจะยิ่งอ่อนค่าลงอีก สภาวะการคลังของรัฐบาลจะมีปัญหา การเก็บรายได้จะลดลงอีกมาก สภาพคล่องในระบบธนาคารจะลดลง รัฐบาลจะมีปัญหาการกู้เงินเพื่อเยียวยาและการฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันคนงงกันว่าเงินที่กู้เพิ่ม 5 แสนล้านบาท และของเดิมบอกมีเงินเยียวยาเหลือ 3.5 แสนล้านบาท เงินหายไปไหนหมด หรือนำเงินไปใช้เรื่องอื่นแล้ว นอกจากนี้ หนี้ภาคครัวเรือนจะพุ่งถึง 93% ของจีดีพี และการว่างงานได้พุ่งขึ้นถึง 1.95% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 5 ปี พร้อมกับหนี้เสียในภาคธนาคารจะพุ่งขึ้น นี่เป็นเพียงบางเรื่องที่นายกฯ จะต้องศึกษาและเตรียมรับมือ” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวถึงเรื่องวัคซีนที่ยังเป็นปัญหาหลัก ที่ยังหาทางแก้ไม่ได้ โดยล่าสุด นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุจะร่วมกับเอกชนหาวัคซีนเพิ่ม แสดงถึงความสิ้นหวังของรัฐบาล ดังนั้นอยากให้พิจารณาการยืมวัคซีนจากประเทศที่มีวัคซีนสำรองเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีหลายประเทศ และนำไปคืนเมื่อบริษัทผลิตวัคซีนส่งไทยได้ โดยล่าสุด ประเทศอิสราเอลยังต้องทำลายวัคซีนไฟเซอร์ 8 หมื่นโดสทิ้งเพราะหมดอายุ ดังนั้นหลายประเทศที่มีสำรองวัคซีนจำนวนมากน่าจะยินดีให้ไทยยืมก่อนที่จะหมดอายุ ซึ่งหากรัฐบาลมีคนมีคอนเนคชั่นที่ดีพอก็น่าจะเร่งทำ หรือให้นายทักษิณ ช่วยอย่างเป็นทางการ ก็น่าจะเป็นทางออกได้

“การขาดความรู้ความสามารถ ความไม่มีประสิทธิภาพและความไม่รู้เรื่อง ปรากฏให้เห็นได้อย่างเด่นชัดพร้อมกับความล้มเหลวในทุกด้าน และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยนคนไม่เก่งให้เป็นคนเก่งได้ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ทางเดียวที่ทำได้คือต้องเปลี่ยนคนเก่งเข้ามาแทน ประเทศไทยถึงจะไปรอด อย่าให้ประเทศต้องล่มสลายคามือคนที่พิสูจน์แล้วว่าล้มเหลวเลย ประชาชนจะยิ่งโกรธแค้นและจะทนความลำบากกันไม่ไหว”  นายพิชัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม