กรุงเทพฯ 5 ส.ค.-“อรรถวิชช์” ค้านโยกงบที่ถูกตัดไปไว้งบกลาง หนุนส่งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องแก้โควิดโดยตรงดีกว่า
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวถึงมติที่ประชุมกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ที่ตัดงบประมาณ 16,300 ล้านบาทจากรายการอื่น ๆ แล้วไปเพิ่มในงบกลางของรัฐบาล ว่า ไม่สมควรอย่างยิ่ง เหมือนการให้เงินไปใช้ทั้งที่ไม่มีแผนงานโครงการ เพราะเวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมานี้รัฐบาลมีเงินจากพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว และกู้เพิ่มอีก 5 แสนล้านบาท แต่ปัญหาขณะนี้คือระบบราชการรวมศูนย์ เงินมีแต่ใช้ไม่เป็น ระบบล่าช้า ระเบียบรุงรัง ไม่ตอบโจทย์สถานการณ์วิกฤต จึงอยากเสนอให้แปรญัตติงบประมาณไปไว้ในองค์กรที่เกี่ยวข้องโดยตรง 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย 1. สภากาชาดไทย 2. ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ 3. กรมควบคุมโรค 4. องค์การเภสัชกรรม 5. สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
“หน่วยงานทั้ง 5 มีอำนาจทะลุกรอบปกติในยามวิกฤติโควิดตามที่ศบค. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งงานจัดหาวัคซีน การผลิตและส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้กับผู้ติดเชื้อ ถ้ามีงบชัดด้วย เชื่อว่าจะทำให้งานเดิน โดยเฉพาะสภากาชาดไทยที่มีวัฒนธรรมจิตอาสา มีประสบการณ์รับมือวิกฤติทั้งสงครามและโรคระบาดมา 128 ปีแล้ว ตั้งแต่วิกฤติการณ์ร.ศ. 112 ไทย-ฝรั่งเศส โรคระบาดอหิวาตกโรค ไข้ทรพิษ กาฬโรค” นายอรรถวิชช์ กล่าว
เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า เป็นเรื่องเหลือเชื่อว่าในวิกฤติโรคระบาด แต่องค์กรเหล่านี้กลับถูกปรับงบลดลงจากปีที่แล้ว ได้แก่สภากาชาดไทย ถูกปรับลด 606 ล้านบาท ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ถูกปรับลด 1,990.9 ล้านบาท กรมควบคุมโรค ถูกปรับลด 478.9 ล้านบาท สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ถูกปรับลด 1.2 ล้านบาท และองค์การเภสัชกรรม มีเงินทุนหมุนเวียนปี 2564 เพียง 2,650 ล้านบาทเท่านั้น จึงอยากให้ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ที่อยู่ในกรรมาธิการงบประมาณฯ ทบทวนมติแล้วจัดสรรงบให้องค์กรที่มีความพร้อมอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย