เชื่อแก้รธน.ไม่ล่ม ทันสมัยประชุมนี้

รัฐสภา 4ส.ค.-“ไพบูลย์” ยันแก้ รธน.ไม่ล่ม แม้มีคนจ้องขวาง เชื่อเสร็จทันสมัยประชุม รับปูทางเลือกตั้งครั้งหน้า มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม


นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะประธานในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ. …(แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ) กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังมีข้อถกเถียงข้อบังคับที่ 124 ว่าจะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่ามาตรการที่รับหลักมาวาระแรกมาหรือไม่ว่า อะไรที่อยู่ในหลักการเกี่ยวกับการเลือกตั้งบัตร 2 ใบสามารถดำเนินการได้

“ส่วนจะยื่นศาลรัฐธรรรมนูญตีความว่าสามารถทำได้หรือไม่นั้น เป็นอำนาจของรัฐสภา ซึ่งที่ประชุมกมธ.ไม่มีอำนาจตีความข้อบังคับการประชุม และตัดสิทธิผู้ที่เสนอแปรญัตติโดยพลการไม่ได้ มั่นใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงไม่ถูกคว่ำเหมือนร่างที่ผ่านมาเพราะแก้ไขรายมาตรา การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะไม่มีอุปสรรคสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และและย้ำว่าประเด็นนี้ไม่ต้องทำประชามติ” นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่การรวบรัดและเปิดช่องให้เตะถ่วงหรือใช้เกมการเมืองต่าง ต้องเดินหน้าตามข้อบังคับ ยอมรับว่ามีผู้ที่เสียประโยชน์ ไม่อยากให้แก้ไขระบบเลือกตั้ง และพยายามขัดขวางทุกวิถีทาง โดยคิดว่าคนอื่นไม่รู้ ซึ่งไม่มีทางขัดขวางได้ เพราะต้องเดินหน้าตามรัฐธรรมนูญและไปวัดกันในสภาฯ เสียงข้างมากว่าอย่างไรก็เป็นตามนั้น


“ผมพูดด้วยหลักประชาธิปไตย แต่มีพวกที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ต้องถามว่าเป็นประชาธิปไตยจริงหรือไม่ ส่วนกรอบเวลาคาดว่าสามารถดำเนินการเสร็จสิ้นวาระ 3 ในสมัยประชุมนี้ ก่อนวันที่ 18 ก.ย.นี้ จากนั้นเดินหน้าแก้ไขกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองและพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งคาดว่ากฎหมายลูกจะแล้วเสร็จในสมัยประชุมครั้งถัดไป” นายไพบูลย์ กล่าว

ส่วนเมื่อแก้ไขระบบเลือกตั้งแล้วเสร็จทั้งจะมีการยุบสภาหรือนายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจลาออกทันทีหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เพราะการยุบสภาเป็นอีกสถานการณ์หนึ่ง และต้องมีเหตุผล ซึ่งไม่ได้เขียนไว้ว่าเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนุญแล้วเสร็จต้องยุบสภาฯ แต่ยอมรับว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการเตรียมพร้อมไว้สำหรับการเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ แต่เป็นปี 2566 ตามวาระ โดยทุกอย่างเดินหน้าตามรัฐธรรมนูญที่ให้ทำงานครบวาระ ส่วนผู้ที่ออกมาเรียกร้องก็เป็นฝ่ายตรงข้าม ที่อยากเป็นรัฐบาล

“คนที่ออกมาเรียกร้องมีกี่คน เหตุใดจึงไม่เคารพเสียงของประชาชน 10 ล้านคน จึงอยากให้รอการเลือกตั้งในครั้งนี้มาพิสูจน์กัน ทำไมจะต้องให้เสียงคนนั้นคนนี้ จะมีความสำคัญมากกว่าเสียงประชาชนทั่วไป หรือผมหรือต่างคนก็มีคนละเสียงเท่ากัน ใครจะเสียงใหญ่กว่ากันนั้นไม่จริง ยิ่งบางคนมาแอบอ้างเป็นเพื่อนลูกสาวท่านนายกฯ ไปใช้ความเป็นอภิสิทธิ์ เที่ยวไปเรียกร้องเพื่อให้เสียงดังกว่าประชาชนคนอื่น หรือเป็นอภิสิทธิ์ชน ไม่ใช่นักประชาธิปไตย นักประชาธิปไตยต้องคำนึงว่ามีความเท่าเทียมกัน มีเสียงเท่ากัน 1 เสียง และเคารพเสียงคนอื่นด้วย” นายไพบูลย์ กล่าว


เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลมาก ยืนยันหรือไม่ว่าจะอยู่ครบเทอม นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่เห็นว่าจะมีผู้ชุมนุมมากเลย และไมได้เขียนในรัฐธรรมนูญว่า หากมีการชุมุนมแล้วรัฐบาลต้องทำตาม มันไม่มีผลอะไร ในทางตรงกันข้ามผู้ที่ออกมาต้องตระหนักว่าอย่ากระทำการผิดกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]

นายกฯ ถกปม ฮ.ตำรวจตก สั่งเร่งสำรวจอากาศยานทุกลำ

ทำเนียบ 28 พ.ค.- นายกฯ หารือ ผบ.ตร. รายงานข้อมูลอุบัติเหตุ ฮ.ตำรวจตก พบอากาศยานของกองบินตำรวจอายุใช้งานยาวนาน-ขาดการซ่อมบำรุงที่สมบูรณ์ สั่งเร่งสำรวจลำดับความสำคัญจัดงบฯ ซื้อใหม่ ห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของ ตร. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียภายหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า ว่า จากกรณีเครื่องบินของกองบินตำรวจประสบอุบัติเหตุตกในช่วงที่ผ่านมา วันนี้ดิฉันได้เรียนเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกองบินตำรวจ มารายงานข้อมูลถึงสาเหตุของเหตุการณ์ รวมถึงแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต จากรายงานพบว่า อากาศยานของกองบินตำรวจ ทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ จำนวนมากมีอายุการใช้งานยาวนาน และขาดการซ่อมบำรุงที่สมบูรณ์ จนอาจเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติภารกิจ ดิฉันได้สั่งการให้กองบินตำรวจเร่งสำรวจสถานะของอากาศยานทุกลำ ทั้งที่ยังใช้งานอยู่ อยู่ระหว่างซ่อมบำรุง หรือพิจารณาปลดประจำการ เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ รวมถึงการจัดหาเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ใหม่ให้เหมาะสมกับภารกิจในอนาคต เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน แต่ชีวิตความปลอดภัย และสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน .-316 -สำนักข่าวไทย