กระทรวงมหาดไทย 29 ก.ค.-รมว.มท.สั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์สภาพอากาศต่อเนื่อง ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ แจ้งเตือนประชาชนผ่านทุกช่องทาง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการติดตามการคาดหมายลักษณะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2564 บริเวณประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย และอาจมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้ามาใกล้ พาดผ่านประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม
“เพื่อให้การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ จึงสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้คณะทำงานติดตามสถานการณ์ของจังหวัด เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์สภาวะอากาศ และปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ในพื้นที่ เช่น ปริมาณฝนสะสม ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลอง การระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำ และสถานการณ์น้ำของจังหวัดต้นน้ำ ฯลฯ รวมถึงติดตามข้อมูลข่าวสารการพยากรณ์อากาศ การแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ และผลกระทบจากภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า หากประเมินสถานการณ์แล้วมีความเสี่ยงที่จะเกิดสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ให้แจ้งเตือนภัยไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ พร้อมทั้งสร้างการรับรู้กับประชาชน โดยติดตามสถานการณ์และการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่อง และแจ้งเตือนประชาชน อาสาสมัครเครือข่ายแจ้งเตือนภัย ผู้นำชุมชน ผู้ปกครองท้องที่ ทุกช่องทาง ทั้งรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ให้ผู้อำนวยการจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น พิจารณาใช้อุปกรณ์เตือนภัยที่มีในพื้นที่ เช่น หอเตือนภัย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน เสียงตามสาย รถประชาสัมพันธ์ เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องรวดเร็ว
“หากจังหวัดร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์แล้ว คาดว่าจะเกิดภัยพิบัติ ให้ใช้อุปกรณ์เตือนภัยในพื้นที่เพื่อแจ้งเตือนประชาชน นอกจากนี้ ให้ผู้อำนวยการจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น เตรียมความพร้อมบุคลากร ทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงที” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว.-สำนักข่าวไทย