ไทย-บาห์เรนพร้อมขยายร่วมมือทุกด้าน

ทำเนียบรัฐบาล 29 ก.ค.-นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตบาห์เรนกระชับสัมพันธ์ขยายความร่วมมือทุกมิติให้แน่นฟ้นยิ่งขึ้น ย้ำใช้ช่วงเวลานี้ขจัดอุปสรรคระหว่างกัน


นายอะห์มัด อับดุลเลาะฮ์ อัลฮาญะรี (H.E. Mr. Ahmed Abdualla Al-Hajeri) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับบาห์เรนที่ดำเนินมาอย่างราบรื่นและก้าวหน้าขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันของเอกอัครราชทูตฯ

นายกรัฐมนตรี กล่าวฝากความรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของอดีตนายกรัฐมนตรีของบาห์เรน ผู้ซึ่งวางรากฐานความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของเอกอัครราชทูตฯ คนใหม่อย่างใกล้ชิดเพื่อสานต่อความร่วมมือระหว่างกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ชื่นชมศักยภาพของบาห์เรนที่สามารถจัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


“ขอขอบคุณที่รัฐบาลบาห์เรนดูแลนักลงทุนและแรงงานไทยในบาห์เรนเป็นอย่างดี ซึ่งรัฐบาลไทยจะดูแลชาวบาห์เรนในไทยเช่นเดียวกัน พร้อมอวยพรให้เอกอัครราชทูตฯ ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรนประจำอินโดนีเซีย ภายหลังพ้นจากตำแหน่งในไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ ระหว่างการหรือ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี ให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกันในหลากหลายประเด็น ซึ่งในส่วนของความร่วมมือทวิภาคี นายกรัฐมนตรีขอบคุณบทบาทของเอกอัคราชทูตฯ ที่ช่วยผลักดันการประชุมติดตามผลกลางปีไทย-บาห์เรน (Mid-year Review) ปี 2561 เป็นกลไกติดตามความคืบหน้าความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านสาธารณสุข การค้าการลงทุน ความมั่นคงทางอาหาร พลังงาน และเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นโอกาสต่อยอดในสาขาความร่วมมือที่มีศักยภาพระหว่างกันอีกมาก

ในโอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายยังพูดคุยในหลายประเด็น ได้แก่ ด้านสาธารณสุข ที่เห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือทั้งวิชาการระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง โดยไทยยืนยันสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนทำธุรกิจศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและสินค้าเพื่อสุขภาพในบาห์เรน อาทิ อาหารสุขภาพ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร อาหารฮาลาล และสินค้าสำหรับผู้สูงวัย ทั้งสองฝ่ายยินดีและเชื่อมั่นว่าศูนย์ Thai mart จะช่วยเพิ่มพูนมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศยิ่งขึ้น ซึ่งนักลงทุนทั้งสองฝ่ายติดต่อกันทางช่องทางต่าง ๆ แม้ในสถานการณ์โควิด- 19


นายกรัฐมนตรีเห็นว่าควรใช้ช่วงเวลานี้ดำเนินการเพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน เมื่อสถานการณ์พร้อมจะได้เปิดฟื้นฟูได้อย่างเต็มความสามารถ โดยนายกรัฐมนตรีได้นำเสนอโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio – Circular – Green Economy Model) ซึ่งไทยให้ความสำคัญ และบาห์เรนก็มีศักยภาพ เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน ด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่ชาวบาห์เรนนิยมมาท่องเที่ยวและมาใช้บริการทางการแพทย์ นายกรัฐมนตรีได้แนะนำโครงการ Phuket Sandbox Model เชิญชวนนักท่องเที่ยวบาห์เรนที่สนใจและพร้อมปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขเดินทางมาไทย ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลตั้งใจดำเนินการให้สำเร็จ ควบคู่ทั้งได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความปลอดภัยด้านสาธารณสุข

นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณบาห์เรนที่สนับสนุนไทยใน กรอบองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organisation of Islamic Cooperation: OIC) มาโดยตลอด ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันพร้อมสนับสนุนบาห์เรนในเวทีอาเซียน และพหุภาคีต่างๆ ดังเช่นที่เคยปฏิบัติเช่นกัน

ด้านเอกอัครราชทูตบาห์เรนฯ กล่าวว่าได้นำความปรารถนาดีจาก มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรี เจ้าชายซัลมาน บิน ฮะมัด บิน อีซา อัลเคาะลีฟะฮ์ (His Royal Highness Prince Salman bin Hamad bin Isa Al Khalifa) ที่มอบให้นายกรัฐมนตรี และหวังว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองราชอาณาจักรจะราบรื่น แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทยที่ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ตลอดระยะเวลาการประจำการที่ไทย ซึ่งส่วนหนึ่งของความสำเร็จได้แก่ บาห์เรนได้เข้าเป็นอัครภาคีของสนธิสัญญาไมตรีและมิตรภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) การจัดตั้งศูนย์การค้าและบริการไทย (Thai Mart) ในบาห์เรน ได้สำเร็จ และฝ่ายไทยได้ช่วยสนับสนุนให้บาห์เรนดำรงตำแหน่งประธานกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ทั้งนี้ แม้จะหมดวาระในประเทศไทยจะระลึกถึงความซาบซึ้งที่ได้รับจากรัฐบาลและประชาชนไทยตลอดไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]