ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ เร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่ม ลั่นส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา เพื่อลดปัญหาเข้ารับการรักษาในพื้นที่กรุงเทพฯ แจงเป็นระบบปิด มีแพทย์รับส่ง รพ.สนาม
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับทุกส่วนในการดำเนินงานในการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดในชุมชนโดย 19 ทั้งหมด เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งการจัดสรรบุคลากรจัดสถานที่พักคอย จัดโรงพยาบาลสนาม และให้คณะแพทย์พยาบาลเข้ามาเพิ่มเติม รวมไปถึงการส่งผู้ป่วยกลับยังภูมิลำเนา ซึ่งได้มีการประชุมไปในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังให้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปยังหน่วยงาน ทั้งสังกัดกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ปรับสโมสรต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่สามารถดำเนินการใช้ประโยชน์อะไรได้อยู่ให้นำมาเป็นโรงพยาบาลสนาม จากนั้นให้เพิ่มขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ดูแลผู้ป่วยสีเขียว โดยจะให้มีการปรับเพื่อรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง รวมไปถึงมอบแนวทางให้ประชาชนได้ทราบถึงข้อชัดเจนในการปฏิบัติตน หากต้องดูแลรักษาตัวเองที่บ้านหรือการทำ Home isolation โดยหากไม่สามารถดูแลตนเองที่บ้านเนื่องด้วยปัญหาอุปสรรคต่างๆ ก็ให้กลับตัวภายใน community isolation เพื่อลดการแพร่ระบาดในครอบครัว และในชุมชน
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ อาสาสมัครต่างๆ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่กรุงเทพฯที่มีอยู่ ในการช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และจะส่งยา ทั้งฟ้าทะลายโจรหรือฟาวิพิราเวียร์ และการดูแลอาหารการกินให้กับผู้ป่วย และนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการให้ผู้ป่วยสามารถที่จะรักษาตัวที่ภูมิลำเนาได้ ตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่กำกับไว้ในเรื่องของการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เพื่อลดปัญหา การเข้ารับการรักษาในพื้นที่กรุงเทพฯซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องเตียงและบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมกับมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่มีความประสงค์กลับภูมิลำเนาโดยในปัจจุบันมีการจัดขบวนรถไฟ ในการจัดส่งผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ กลับไปรักษาตัวในจังหวัด 7 จังหวัด ถ้าตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทั่ง นครราชสีมา ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานีศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ โดยมีสถานีรถไฟต้นทางอยู่ที่รังสิต ปลายทางอุบลราชธานี โดยขบวนรถไฟเป็นระบบปิด โดยเมื่อถึงสถานีปลายทางจะมีรถพยาบาล มารับผู้ป่วยต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม
นอกจากนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะมีการสนับสนุนทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด -19 เชิงรุก หรือ CCRT ซึ่งจะเป็นหน่วยเคลื่อนที่ไปยัง 50 เขตภายในกรุงเทพฯ เพื่อตรวจคัดกรองเชิงลูกค้าผู้ติดเชื้อในชุมชน และจะสามารถช่วยยับยั้งในการติดเชื้อ
ขณะที่การรับเรื่องผู้ป่วยผ่านทางสายด่วนต่างๆ นายกรัฐมนตรีได้มีมาตรการให้ไปปรับปรุง เพื่อให้ความสะดวกทั้งผู้ติดเชื้อและญาติ เพื่อเข้ารับการรักษา รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องโทรเข้ามาในสายด่วนต่างๆซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้ดำเนินการให้สามารถติดต่อสายด่วนต่างๆได้ฟรี.-สำนักข่าวไทย