ต่างชาติพอใจภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ วางแผนกลับมาเที่ยวซ้ำ

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.-โฆษก ศบศ. เผยต่างชาติพอใจภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ วางแผนเดินทางกลับมาเที่ยวซ้ำ มั่นใจกระตุ้นท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้ประเทศ “นายกฯ” กำชับคุมเข้มความปลอดภัย

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลได้เดินหน้ามาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกระตุ้นเศรษฐกิจและทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งตอนนี้เปิดได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมที่เดินทางเข้ามาเกือบหนึ่งหมื่นคน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 อันดับแรกที่เข้ามา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, อิสราเอล, เยอรมนี และฝรั่งเศส อัตราเฉลี่ยการเข้าพักต่อคนอยู่ที่ 11 คืน ประเมินค่าใช้จ่ายต่อทริปอยู่ที่ 70,000 บาท ได้แก่ค่าที่พัก ค่าตรวจ Swap ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าพาหนะเดินทางในจังหวัด ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เฉลี่ยการใช้จ่ายอยู่ที่ 5,500 ต่อคนต่อวัน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนอยู่ที่ 534.31 ล้านบาท


“นักท่องเที่ยวมีความประทับใจในอัธยาศัยไมตรีของชาวภูเก็ต และวางแผนเดินทางไปยังจังหวัดอื่น เช่น เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ต่อไป นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับไปแล้วยังได้วางแผนพาครอบครัวกลับมาเที่ยวไทยซ้ำอีกด้วย ซึ่งจากการประเมินความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวพบว่า พอใจคุณภาพของรถบริการรับ-ส่ง SHAพลัส ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต มากที่สุด รองลงมาคือ พอใจภาพรวมการให้บริการ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต และพอใจการตรวจคัดกรองเมื่อเดินทางมาถึง ซึ่งการเปิดประเทศครั้งนี้ถือเป็นการเตรียมตัวในการรองรับช่วงปลายปีที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอีก ทำให้เห็นว่าการเปิดประเทศครั้งนี้ประสบความสำเร็จไปส่วนหนึ่งแล้ว”นายธนกร กล่าว

นายธนกร กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงประโยชน์สูงสุดของพื้นที่ที่เปิดไปแล้ว อย่างภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัสโมเดล  ให้ได้ใช้ประโยชน์ก่อให้เกิดรายได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดประชุม การจัดแสดงสินค้า เป็นต้น แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้ทั้งจังหวัดภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี ได้เพิ่มมาตรการการคัดกรองนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างเคร่งครัด นายกฯ ได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำชับเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ที่ด่านหรือจุดตรวจอย่างเข้มงวดแล้ว  เพื่อที่ประชาชนชนในพื้นที่จะได้มีรายได้อย่างต่อเนื่องจากการเปิดประเทศในครั้งนี้


นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ปรับปรุงระบบลงทะเบียน COE ออนไลน์ใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาให้มีความสะดวก และ ททท. ในต่างประเทศยังได้ทำการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเจาะไปที่กลุ่มตลาดยุโรป เช่น ดูไบ แฟรงก์เฟิร์ต ลอนดอน กรุงปราก สตอกโฮล์ม และปารีส อีกด้วย โดยคาดว่า ต่อไปนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของฤดูกาลการท่องเที่ยว

โฆษก ศบศ. กล่าวด้วยว่า สำหรับแผนต่อไปคือการเดินหน้าเปิด 3 เกาะของจังหวัดกระบี่  ได้แก่ เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล  และ 3 เกาะของจังหวัดพังงา  ได้แก่ เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ โดยมีกำหนดเปิดในวันที่ 1 สิงหาคม 2564 นี้ โดยได้เน้นย้ำถึงแผน 7+7 ของการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องที่เปิดไปแล้ว เป็นการผ่อนคลายมาตรการให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาใน “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” อยู่ครบ 7 วัน (เดิม 14 วัน) และตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้งแล้ว สามารถเดินทางไปในพื้นที่เกาะสมุย พะงัน และเกาะเต่า (สุราษฎร์ธานี) รวมถึงเกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ (กระบี่) และเกาะยาวใหญ่ เกาะยาวน้อย และเขาหลัก (พังงา) ในรูปแบบซีลรูท (sealed routes) หรือ island hopping ได้ตั้งแต่วันที่ 8 เป็นต้นไป โดย ททท.ยังคงเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวรวมปีนี้ที่ 8.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากตลาดต่างประเทศ 3 แสนล้านบาทในจำนวนนักท่องเที่ยวราว 3 ล้านคน และรายได้จากตลาดภายในประเทศ 5.5 แสนล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่