แนะรับฟังประชาชน ตามหลักประชาธิปไตย ไม่ใช่ไล่ฟ้อง

อสมท . 23 ก.ค. – นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ระบุ กระแสคนดัง Call Out รัฐบาล ควรเปิดพื้นที่สาธารณะรับฟังประชาชน ตามหลักประชาธิปไตย ไม่ใช่การไล่ฟ้องร้องดำเนินคดี ชี้ควรให้ข้อมูลข้อเท็จจริงสร้างความเข้าใจหักล้างเฟคนิวส์ หวั่นพัฒนาความขัดแย้ง


นายยุทธพร อิสรชัย อาจาร์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงกรณีดารา นักแสดง นักร้องและผู้มีชื่อเสียงออกมาแสดงความเห็นวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลต่อการแก้ปัญหาโควิด 19 หรือ CALL OUT ว่า การแสดงออกทางการเมืองโดยเฉพาะเรื่องเสรีภาพในการแสดงความเห็นในสังคมที่เป็นประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ปกติ  ซึ่งตามหลักรัฐศาสตร์หรือทางกฎหมายมหาชนถือว่าเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักนิติธรรม ดังนั้นในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญจะมีการรับรองเรื่องสิทธิเสรีภาพ และสังคมที่เป็นประชาธิปไตยที่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งคือผู้ที่ใช้อำนาจสาธารณะแทนมหาชน เฉะนั้นการจะถูดวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบของประชาชนถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการมาไล่ฟ้อง ไม่ว่าจะบอกว่าเป็นตัวแทนรัฐบาล มีความใกล้ชิด  หรือถูกปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลก็ตาม ตรงนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมที่ควรเคารพเสรีภาพซึ่งกันและกัน

นายยุทธพร กล่าวอีกว่า เรื่องการวิพากวิจารณ์รัฐบาลหรือกระทบกับข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลข้อเท็จจริงก็มีเส้นแบ่งการพิจารณา 2 ส่วน คือ ส่วนบุคคล ที่ถือเป็นสิทธิสามารถฟ้องร้องได้ทางศาลได้ แต่ในทางสถานะยังเป็นเรื่องการใช้อำนาจสาธารณะ ทั้งการบริหารงาน การดำเนินนโยบายต่างๆอันนี้ไม่ใช่ความเสียหายส่วนบุคคล  ดังนั้นเส้นแบ่งตรงนี้ที่จะชี้ให้เห็นว่า ตรงไหนคือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น  เรื่องไหนเป็นสิ่งที่ควรจะได้รับการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล ดังนั้นหากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบริหารงานของรัฐบาลในสถานการณ์โควิด-19 หรือ การบริหารงานด้านเศรษฐกิจ การเมืองของรัฐบาล ถือเป็นสิทธิของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้และได้รับการคุ้มครองด้วย  ทั้งนี้ในประเทศไทยจะมองในลักษณะเอารัฐเป็นตัวตั้ง หรือรัฐล้อมสังคม เพราะฉะนั้นรัฐจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของความมั่นคงมากกว่าการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน หากย้อนกลับไปในอดีตก็จะเห็นว่ามีการควบคุมการใช้สื่อ จนปัจจุบันก็มีการกำกับเรื่องสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆเข้ามา ตั้งแต่การร่างกฎหมายคอมพิวเตอร์2550-2560 และรัฐยังมีการตั้งศูนย์เฟคนิวส์ หรือแนวคิดว่าสุดที่จะให้ลงทะเบียนสำหรับผู้จะใช้สื่อออนไลน์ในอนาคต สิ่งเหล่านี้เป็นการมองแบบเอารัฐเป็นตัวตั้ง  ซึ่งขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตยที่ต้องเอาสังคมเป็นตัวตั้ง หรือมุ่งคุมครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากกว่าการให้ความสำคัญกับการความมั่นคงของรัฐเท่านั้น


นายยุทธพร ยังกล่าวว่า การบริหารงานในภาวะวิกฤตจะเห็นได้ว่ากระบวนการที่จะสร้างประสิทธิภาพทางการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตอนนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาที่ยังไม่มีทางออกและยังเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต จนเกิดสิ่งที่เป็นวิกฤตจากฝีมือมนุษย์ เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องการระบาดแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการที่ยังไม่ดีนักจึงเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต ดังนั้นในภาวะแบบนี้สิ่งที่ต้องทำคือการเร่งแก้ปัญหา และต้องเปิดพื้นที่ในการมีส่วนร่วม หรือการแสดงความคิดเห็น การวิพากษ์วิจารณ์ในมุมคิดที่ต่างจากรัฐมอง นี่คือสิ่งที่รัฐต้องทำไม่ใช่เรื่องการมาไล่จับคน หรือใช้อำนาจรัฐในการปิดกั้นกดทับ รัฐต้องเปิดมุมมองเชิงสร้างสรรค์มากขึ้นที่จะใช้คนได้แสดงความคิดเห็น  เพราะมีเส้นแบ่งอยู่แล้ว ว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล หรือเรื่องไหนเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับเรื่องสาธารณะ ถ้าเป็นเรื่องส่วนบุคคลแน่นอนว่าทุกคนมีสิทธิแต่บุคคลนั้นจะเป็นคนที่อยุ่ในอำนาจรัฐ เป็นนักการเมือง เป็นประชาชนทั่วไปทุกคนมีสิทธิคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ส่วนการใช้อำนาจสาธารณะสิ่งนี้ต้องเปิดกว้างในฐานะที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาให้เป้นตัวแทนของประชาชนในการใช้อำนาจสาธารณะก็เป็นสิทธิที่ประชาชนจะแสดงความคิดเห็น ในทางกลับกันรัฐต้องมองย้อนกลับมาด้วยว่า อะไรที่ทำให้เกิดการวิพากวิจารณ์ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการ การสื่อสารทางการเมืองในภาวะวิกฤตที่ทำให้เกิดข้อมูลความสับสนกับประชาชน  ดังนั้นการสื่อสารกับประชาชนในภาวะวิกฤต  และประชาชนมีทางเลือกในการรับข้อมูลข่าวสาร ซึ่งก็มีข้อมูลทั้งที่เป็นข่าวจริง และข้อมูลข่าวปลอมก็มี ซึ่งเป็นไปที่ประชาชนจะเข้าใจผิด และอาจนำข้อมูลที่เป็นข่าวปลอมมาวิพากวิจารณ์ได้

“หน้าที่ของรัฐจึงไม่ใช่การติดตาม ตรวจสอบดำเนินคดีกับประชาชน แต่ต้องชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงให้ประจักษ์  เพราะหากข้อมูลที่ออกมาจากรัฐที่ไม่เหมือนกันจึงทำให้เกิดปัญหา รัฐจึงต้องทำข้อมูลให้ปรากฎเพื่อนำไปต่อสู่กับข่าวปลอมต่างๆ ไม่ใช่เรื่องการใช้กฎหมายไปตรวจสอบ หากยังมีการเดินหน้าดำเนินการลักษณะนี้อยู่จะเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากว่า จะมีการพัฒนาเรื่องความขัดแย้งเกิดขึ้น มีการขัดแย้งเชิงขั้วอุดมการณ์ และยังมีความขัดแย้งที่เกิดจากความเดือดร้อนของประชาชนจะกลายเป็นความขัดแย้งที่ไร้ขั้วอุดมการณ์ ถ้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้รัฐบาลจะไร้ความชอบธรรมในการบริหาร”นายยุทธพร กล่าว นายยุทธพร กล่าวอีกว่า รัฐในสังคมประชาธิปไตย ต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงของมนุษย์ มากกว่าความมั่นคงของรัฐ  ดังนั้นสิ่งที่รัฐต้องทำวันนี้จึงเป็นเรื่องความมั่นคงของมนุษย์ เช่น การจัดหาวัคซีนที่ดีมีคุณภาพ การมีระบบสาธารณสุขที่เข้าถึงได้ การเร่งแก้ปัญหาเยียวยาเศรษฐกิจเพื่อการดำรงชีพของประชาชน ไม่ใช่การให้ความมั่นคงกับรัฐเช่นการดำเนินคดีความเพื่อปกป้องรัฐเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]