แนะรับฟังประชาชน ตามหลักประชาธิปไตย ไม่ใช่ไล่ฟ้อง

อสมท . 23 ก.ค. – นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ระบุ กระแสคนดัง Call Out รัฐบาล ควรเปิดพื้นที่สาธารณะรับฟังประชาชน ตามหลักประชาธิปไตย ไม่ใช่การไล่ฟ้องร้องดำเนินคดี ชี้ควรให้ข้อมูลข้อเท็จจริงสร้างความเข้าใจหักล้างเฟคนิวส์ หวั่นพัฒนาความขัดแย้ง


นายยุทธพร อิสรชัย อาจาร์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงกรณีดารา นักแสดง นักร้องและผู้มีชื่อเสียงออกมาแสดงความเห็นวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลต่อการแก้ปัญหาโควิด 19 หรือ CALL OUT ว่า การแสดงออกทางการเมืองโดยเฉพาะเรื่องเสรีภาพในการแสดงความเห็นในสังคมที่เป็นประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ปกติ  ซึ่งตามหลักรัฐศาสตร์หรือทางกฎหมายมหาชนถือว่าเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักนิติธรรม ดังนั้นในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญจะมีการรับรองเรื่องสิทธิเสรีภาพ และสังคมที่เป็นประชาธิปไตยที่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งคือผู้ที่ใช้อำนาจสาธารณะแทนมหาชน เฉะนั้นการจะถูดวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบของประชาชนถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการมาไล่ฟ้อง ไม่ว่าจะบอกว่าเป็นตัวแทนรัฐบาล มีความใกล้ชิด  หรือถูกปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลก็ตาม ตรงนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมที่ควรเคารพเสรีภาพซึ่งกันและกัน

นายยุทธพร กล่าวอีกว่า เรื่องการวิพากวิจารณ์รัฐบาลหรือกระทบกับข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลข้อเท็จจริงก็มีเส้นแบ่งการพิจารณา 2 ส่วน คือ ส่วนบุคคล ที่ถือเป็นสิทธิสามารถฟ้องร้องได้ทางศาลได้ แต่ในทางสถานะยังเป็นเรื่องการใช้อำนาจสาธารณะ ทั้งการบริหารงาน การดำเนินนโยบายต่างๆอันนี้ไม่ใช่ความเสียหายส่วนบุคคล  ดังนั้นเส้นแบ่งตรงนี้ที่จะชี้ให้เห็นว่า ตรงไหนคือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น  เรื่องไหนเป็นสิ่งที่ควรจะได้รับการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล ดังนั้นหากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบริหารงานของรัฐบาลในสถานการณ์โควิด-19 หรือ การบริหารงานด้านเศรษฐกิจ การเมืองของรัฐบาล ถือเป็นสิทธิของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้และได้รับการคุ้มครองด้วย  ทั้งนี้ในประเทศไทยจะมองในลักษณะเอารัฐเป็นตัวตั้ง หรือรัฐล้อมสังคม เพราะฉะนั้นรัฐจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของความมั่นคงมากกว่าการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน หากย้อนกลับไปในอดีตก็จะเห็นว่ามีการควบคุมการใช้สื่อ จนปัจจุบันก็มีการกำกับเรื่องสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆเข้ามา ตั้งแต่การร่างกฎหมายคอมพิวเตอร์2550-2560 และรัฐยังมีการตั้งศูนย์เฟคนิวส์ หรือแนวคิดว่าสุดที่จะให้ลงทะเบียนสำหรับผู้จะใช้สื่อออนไลน์ในอนาคต สิ่งเหล่านี้เป็นการมองแบบเอารัฐเป็นตัวตั้ง  ซึ่งขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตยที่ต้องเอาสังคมเป็นตัวตั้ง หรือมุ่งคุมครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากกว่าการให้ความสำคัญกับการความมั่นคงของรัฐเท่านั้น


นายยุทธพร ยังกล่าวว่า การบริหารงานในภาวะวิกฤตจะเห็นได้ว่ากระบวนการที่จะสร้างประสิทธิภาพทางการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตอนนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาที่ยังไม่มีทางออกและยังเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต จนเกิดสิ่งที่เป็นวิกฤตจากฝีมือมนุษย์ เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องการระบาดแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการที่ยังไม่ดีนักจึงเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต ดังนั้นในภาวะแบบนี้สิ่งที่ต้องทำคือการเร่งแก้ปัญหา และต้องเปิดพื้นที่ในการมีส่วนร่วม หรือการแสดงความคิดเห็น การวิพากษ์วิจารณ์ในมุมคิดที่ต่างจากรัฐมอง นี่คือสิ่งที่รัฐต้องทำไม่ใช่เรื่องการมาไล่จับคน หรือใช้อำนาจรัฐในการปิดกั้นกดทับ รัฐต้องเปิดมุมมองเชิงสร้างสรรค์มากขึ้นที่จะใช้คนได้แสดงความคิดเห็น  เพราะมีเส้นแบ่งอยู่แล้ว ว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล หรือเรื่องไหนเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับเรื่องสาธารณะ ถ้าเป็นเรื่องส่วนบุคคลแน่นอนว่าทุกคนมีสิทธิแต่บุคคลนั้นจะเป็นคนที่อยุ่ในอำนาจรัฐ เป็นนักการเมือง เป็นประชาชนทั่วไปทุกคนมีสิทธิคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ส่วนการใช้อำนาจสาธารณะสิ่งนี้ต้องเปิดกว้างในฐานะที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาให้เป้นตัวแทนของประชาชนในการใช้อำนาจสาธารณะก็เป็นสิทธิที่ประชาชนจะแสดงความคิดเห็น ในทางกลับกันรัฐต้องมองย้อนกลับมาด้วยว่า อะไรที่ทำให้เกิดการวิพากวิจารณ์ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการ การสื่อสารทางการเมืองในภาวะวิกฤตที่ทำให้เกิดข้อมูลความสับสนกับประชาชน  ดังนั้นการสื่อสารกับประชาชนในภาวะวิกฤต  และประชาชนมีทางเลือกในการรับข้อมูลข่าวสาร ซึ่งก็มีข้อมูลทั้งที่เป็นข่าวจริง และข้อมูลข่าวปลอมก็มี ซึ่งเป็นไปที่ประชาชนจะเข้าใจผิด และอาจนำข้อมูลที่เป็นข่าวปลอมมาวิพากวิจารณ์ได้

“หน้าที่ของรัฐจึงไม่ใช่การติดตาม ตรวจสอบดำเนินคดีกับประชาชน แต่ต้องชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงให้ประจักษ์  เพราะหากข้อมูลที่ออกมาจากรัฐที่ไม่เหมือนกันจึงทำให้เกิดปัญหา รัฐจึงต้องทำข้อมูลให้ปรากฎเพื่อนำไปต่อสู่กับข่าวปลอมต่างๆ ไม่ใช่เรื่องการใช้กฎหมายไปตรวจสอบ หากยังมีการเดินหน้าดำเนินการลักษณะนี้อยู่จะเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากว่า จะมีการพัฒนาเรื่องความขัดแย้งเกิดขึ้น มีการขัดแย้งเชิงขั้วอุดมการณ์ และยังมีความขัดแย้งที่เกิดจากความเดือดร้อนของประชาชนจะกลายเป็นความขัดแย้งที่ไร้ขั้วอุดมการณ์ ถ้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้รัฐบาลจะไร้ความชอบธรรมในการบริหาร”นายยุทธพร กล่าว นายยุทธพร กล่าวอีกว่า รัฐในสังคมประชาธิปไตย ต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงของมนุษย์ มากกว่าความมั่นคงของรัฐ  ดังนั้นสิ่งที่รัฐต้องทำวันนี้จึงเป็นเรื่องความมั่นคงของมนุษย์ เช่น การจัดหาวัคซีนที่ดีมีคุณภาพ การมีระบบสาธารณสุขที่เข้าถึงได้ การเร่งแก้ปัญหาเยียวยาเศรษฐกิจเพื่อการดำรงชีพของประชาชน ไม่ใช่การให้ความมั่นคงกับรัฐเช่นการดำเนินคดีความเพื่อปกป้องรัฐเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย