กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-“องอาจ” ชื่นชมกองทัพบกช่วยเคลื่อนย้ายคนป่วยกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา หนุนใช้หน่วยทหารเป็นรพ.สนาม –จัดพักคอย รวมศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด-19 ทุกเหล่าทัพเป็นหนึ่งเดียว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์โควิดว่า เฟซบุ๊กศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบกได้เผยแพร่ข้อมูลระบุว่า กองทัพบกได้ริเริ่มตั้งศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด-19 เพื่อเป็นสื่อกลางช่วยผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบรักษาไปยังศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิดของรัฐบาล (อาคารนิมิบุตร) หรือสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงช่วยเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อไปยังโรงพยาบาลสนามที่จัดเตรียมไว้และยินดีเคลื่อนย้ายประชาชนทุกกรณีเมื่อได้รับการร้องขอ สามารถติดต่อที่ศูนย์ฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่โทรศัพท์ 02-270-5685-9 และ Line ID : @covidtv5hd1
“กองทัพบกได้เตรียมโรงพยาบาลสนาม ทบ. 18 แห่งทั่วประเทศ โรงพยาบาลค่าย ทบ. 29 แห่ง และศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19 ของ กทม. 17 แห่ง รวมถึงฌาปนสถานของ ทบ. อีก 4 แห่งไว้รองรับ จึงนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่กองทัพบกได้ริเริ่มเข้ามาช่วยรับ-ส่งฟรี 24 ชั่วโมง ทั้งผู้ป่วยติดเชื้อ ผู้หายป่วยเคลื่อนย้ายศพและฌาปนกิจศพ เพราะจากการแพร่ระบาดของโควิดระลอก 3 ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ป่วยประสบความยากลำบากในการหาเตียง หาที่รักษาตัว จนศบค.ต้องหันมาใช้มาตรการให้รักษากักตัวที่บ้านและหาจุดพักคอยเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอและไม่คล่องตัวเท่าที่ควร จนปรากฏข่าวว่าผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรอคอยสถานที่รักษา หาเตียงไม่ได้ จนต้องตายคาบ้าน ตายข้างถนนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินการสามารถช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิดได้เพิ่มมากขึ้นเพราะแนวโน้มการแพร่ระบาดยังไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง จึงขอเสนอนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดังนี้ 1. ควรนำค่ายทหารทั่วประเทศ โดยเฉพาะค่ายทหารในกทม.มาทำเป็นโรงพยาบาลสนามและจุดพักคอยเพิ่มขึ้น 2. ควรแปรสภาพศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด-19 ของกองทัพบกให้เป็นศูนย์ของกองทัพไทย และประสานให้กองทัพเรือ กองทัพอากาศเข้ามาทำงานช่วยเหลือประชาชนด้วย 3. ควรสนับสนุนงบประมาณให้เพียงพอต่อการทำงานอย่างจริงจัง ไม่ควรปล่อยผู้นำหน่วยไปหางบทำงานกันเอง เชื่อมั่นว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทำตามข้อเสนอนี้ได้ จะช่วยผู้ป่วยติดเชื้อและครอบครัวได้อีกจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยทำให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนของภาครัฐดีขึ้นอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย