ชี้ ดารา Call Out เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญแต่ต้องไม่ละเมิดคนอื่น

กทม. 22 ก.ค. – อดีต กมธ.ยกร่าง รธน. ชี้ “สนธิญา” ร้องตำรวจสอบดาราได้ แต่ระวังถูกฟ้องกลับ ชี้ ดารา Call Out เป็นสิทธิตาม รธน. แต่ต้องไม่ละเมิดคนอื่น


นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมายฯ  และอดีตผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการติดตาม กำกับ ดูแล ตรวจสอบกรณีการ Call out ของดารา นักร้อง และผู้มีชื่อเสียง เรียกร้องเกี่ยวกับการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19ของรัฐบาล โดยไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีเป็นรายบุคคล  ว่า กรณีนี้ในทางกฎหมาย นายสนธิญา สามารถทำได้เหมือนเป็นการแจ้งเบาะแสทั่วไป แต่หากสิ่งดารา กระทำไม่ได้เป็นความผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง ก็ไม่สามารถไปเอาผิดอะไรได้ และหากดารา ที่ถูกร้องเรียนไม่ได้กระทำความผิดจริง ดาราก็สามารถฟ้องกลับได้ ฐานแจ้งความเท็จ แม้จะไม่ได้เป็นการแจ้งเพื่อดำเนินคดี แต่เป็นการแจ้งต่อเจ้าพนักงาน ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ก็สามารถฟ้องกลับได้

“โดยหลักการสามารถทำได้หากเป็นความผิดเรื่องเกี่ยวกับบ้านเมือง  เหมือนเราเจอคนขนของแล้วทำลับๆล่อๆน่าสงสัย ก็สามารถแจ้งตำรวจให้ตรวจสอบได้ แต่ในขณะเดียวกัน คนที่แจ้งตำรวจเลอะเทอะไปเรื่อยก็จะมีเรื่องความแจ้งเท็จควบคุม ไม่เช่นนั้นใครคิดจะแกล้งใครก็ทำได้ ทำให้เจ้าหน้าที่เสียเวลา ผู้ถูกแจ้งก็เดือดร้อน”นายเจษฎ์ กล่าว


อดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ยังกล่าวถึงการที่กลุ่มศิลปิน ดารา ออกมาแสดงความเห็นเรียกร้อ(Call Out)ในเวลานี้ ว่าสามารถทำได้เป็นการเรื่องของสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่อาจจะต้องคำนึงผลที่จะเกิดขึ้นในทางสังคมท่ามกลางสถานการณ์ที่เป็นอยู่ และการเรียกร้อง วิจารณ์ จะต้องไม่ไปทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งจะเกินจากการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย