นายกฯ ขอบคุณเอกชนมอบเงินสิ่งของช่วยโควิด

ทำเนียบ 21 ก.ค.- นายกฯ ขอบคุณกลุ่มบริษัท ปตท. และ คิง เพาเวอร์ มอบสิ่งของและเงินบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ย้ำรัฐนำไปใช้ประโยชน์กับบุคลากรทางการแพทย์และที่จำเป็น


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในนามผู้อำนวยการ ศบค. ให้ภาคเอกชน ได้แก่ คณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นำโดยนายทศพร ศิริสัมพันธ์ กรรมการอิสระและประธานกรรมการฯ และคณะผู้บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ โดย น.ส.อรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน พร้อมคณะ เข้าพบเพื่อมอบสิ่งของและเงินบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมีนายอุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้รับมอบยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) จำนวน 2,000 ขวด จากคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อนำไปใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และเพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณสำรองยาในประเทศให้เพียงพอกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ ซึ่งจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้ ซึ่งยาเรมเดซิเวียร์ เป็นหนึ่งในยาที่ได้รับการอนุมัติและบรรจุในบัญชียาสำหรับใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (เมื่อ พ.ศ. 2563) สำหรับใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย อินเดีย สิงค์โปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้น ทั้งยังสามารถใช้รักษาหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการแพ้จากการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ในการรักษา ช่วยลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ ผู้บริหารกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ขอเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาลในการทำงาน และจะอยู่เคียงข้างสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อให้คนไทยและประเทศก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน


นายกรัฐมนตรี ยังรับมอบเงินจากคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายเสื้อสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้โครงการ THAILAND SMILES WITH YOU โดยไม่หักค่าใช้จ่าย จำนวน 25,000,000 บาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยแบ่งเงินสำหรับการสนับสนุน ดังนี้ 1) โครงการวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาล จำนวน 20 ล้านบาท และ 2) โครงการพัฒนาวัคซีนของมูลนิธิรามาธิบดีฯ จำนวน 5 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวในนามของรัฐบาล คณะรัฐมนตรี ศบค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ได้ร่วมกันมอบสิ่งของและเงินบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่จำเป็นที่ทุกฝ่ายจะได้มาร่วมกัน ทั้งประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชนที่ได้เข้ามาสนับสนุนในสิ่งต่าง ๆ รวมถึงการสนับสนุนเงินบริจาคด้วย ความร่วมมือของทุกภาคส่วน แสดงให้เห็นถึงน้ำใจและจิตใจแห่งความรักสามัคคีของคนไทยที่จะจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเป็นกำลังใจที่สำคัญสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันจะนำเงินที่ได้รับมอบดังกล่าวไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด รวมถึงนำไปใช้ประโยชน์กับบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการแก้ไขปัญหาโควิด-19.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย