ภท.สวน “สิระ” หลังซ้อมตายไล่อ.ควบคุมโรค

กรุงเทพฯ 20 ก.ค.-“ศุภชัย” งัดคำสั่งนายกฯ สวน “สิระ ” หลังซ้อมตายลงนอนในโลง ชี้คนรับผิดชอบคุมโควิด-19 คือผู้ว่าฯกทม. แทนที่จะฉีดวัคซีนให้กลุ่มคนสูงอายุ และ 7 โรคเสี่ยงก่อน กีดกันสธ.เข้าร่วม ส่งผลให้เสียชีวิตเพียบ


นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว กรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐลงนอนในโลงศพ และเรียกร้องให้ปลดนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ออกจากตำแหน่ง เพราะคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่กทม.ไม่ได้ โดยนำเอกสารคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 6/2564 เรื่องจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 โดยนำภาพนายสิระนอนในโลงศพมาเป็นภาพประกอบ พร้อมระบุว่า วันนี้เห็นข่าว ส.ส.กทม.นายสิระ ลงโลงซ้อมตาย กล่าวหาระบบสาธารณสุขล้มเหลว กล่าวพาดพิงถึงตนและคุณหมอในกระทรวงสาธารณสุขที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก แต่ไม่ถือสาหาความกับคนพรรค์นี้

“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ผมจะขอแจมพูดสิ่งที่อึดอัดขัดข้องใจเรื่องนี้ด้วยก็แล้วกันคือเรื่องการบริหารจัดการโควิดในกรุงเทพฯที่เละเทะอยู่ในวันนี้ เพราะเรื่องการบริหารจัดการในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น นายกฯประยุทธ์ ท่านได้ออกคำสั่งแต่งตั้ง ตามคำสั่งที่ 6/2564 เรื่องจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งคำสั่งนี้มีท่านนายกฯ เป็นผู้อำนวยการศูนย์เอง มีเลขาสภาความมั่นคงฯ ผู้ว่าฯ กทม.อัศวิน ปลัดกระทรวงหลายกระทรวง เป็นรองผู้อำนวยการ มีอธิบดีจากสาธารณสุขมาเป็นกรรมการ และแน่นอนไม่มีรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขอยู่ในคณะนี้ ซึ่งกรณีเช่นนี้คนสธ.จะคิดกันอย่างไรจะคิดเห็นอย่างไรไม่ทราบ แต่ก็ก้มหน้าทำ ด้วยจิตวิญญาณของแพทย์และคนสาธารณสุข” นายศุภชัย ระบุ


นายศุภชัย กล่าวว่า เมื่อดูหน้าที่และอำนาจคณะกรรมการ 3 ข้อ จะเห็นว่าครอบจักรวาลทั่วฟ้ากทม. กทม.ที่อยู่ใต้อำนาจนายกฯ ในฐานะผอ.ศบค. และ หัวหน้าศูนย์ควบคุมโควิด กทม.และปริมณฑล แต่ทำงานไม่ได้ ล้มเหลว จนประชาชนตายคาบ้าน อย่างที่เห็น และคนถูกด่าก็คือกระทรวงสาธารณสุข ด่านายอนุทิน ชาญวีรกูล ทั้งที่ไม่มีหน้าที่ไม่มีอำนาจตามคำสั่งดังกล่าว เวลานี้หนักที่สุดคือกทม.

“กทม.ที่ไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของสธ. แต่เป็นผู้ว่าฯ อัศวิน คนกทม. ตายมากที่สุด ติดเชื้อมากที่สุดเพราะใคร? แต่คงจะเปล่าประโยชน์ที่จะพูดว่าเพราะคณะกรรมการชุดนี้ ที่มี นายกฯ เป็นผอ.ศูนย์ มีผู้ว่าฯกทม. เป็นรองผอ. แต่เป็นคณะที่ไม่มีคนดูแลระบบสาธารณสุขของประเทศเป็นกรรมการ เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่นายกฯ กับ ศบค. และ กทม. ตัด กระทรวงสาธารณสุขออกจากการแก้ปัญหาโควิด ในกทม. แน่นอนว่าการแก้ปัญหาในรายละเอียดไม่ควรจะเป็นหน้าที่ของนายกฯ แต่ควรเป็นเรื่องของ ผู้ว่า กทม อัศวิน แต่ถามว่าวันนี้ ผู้ว่า กทม.หายไปไหน แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีหรือไม่ หรือเดินตามหลังสถานการณ์อยู่กี่ก้าวรู้หรือไม่” นายศุภชัย ระบุ

นายศุภชัย ระบุว่า กทม.มีรพ.ของตัวเอง ทำไมปล่อยให้คนไปนอนรอหน้าวัดพระศรีฯ แบบน่าอนาจใจ สธ.พยายามคุมเชื้อเต็มที่แต่วันหนึ่ง นโยบาย ศบค. ซึ่งรับผิดชอบโดย เลขาฯสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก็ไล่คนกลับไปตจว. ด้วยการปิดแคมป์คนงาน ปิดร้านอาหาร คนจนจากชนบท ที่มาหากินในเมือง ต้องกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด เอาเชื้อไปติดมากมาย รพ.ตจว. รับไม่ทัน รับไม่ไหว เชื้อกระจายทั่วประเทศ คุมไม่ได้ เรื่องการฉีดวัคซีน สธ.เสนอให้ฉีด คนแก่ คนป่วยก่อน


“แต่กทม.เอาไปฉีดให้คนไม่แก่ ไม่ป่วย รัฐบาลเอาไปฉีดแรงงานในระบบประกันสังคม ผลคือ คนแก่ คนป่วย ตายเยอะมาก เพราะอยู่บ้านเฉยๆ ก็มีคนเอาเชื้อมาให้ แบบ พ่อแม่พี่เป็ด เชิญยิ้ม คนตรังบ้านผม ซึ่งน่าเศร้ามาก หรือเพราะคิดแต่จะเล่นการเมือง จะหาเสียงกับโควิด และ วัคซีน แต่สุดท้าย เอาไม่อยู่ ทำให้ กทม. เป็นรังของโรค เป็นศูนย์กลางการระบาดของโคิดในประเทศไทย อ่านราชกิจจาที่ออกมาเรื่อง Lockdown วันนี้ เขียนชัดว่า ต้นเหตุคือ กทม.และปริมณฑล ที่ควบคุมโรคไม่ได้ เกิดการระบาดหนัก จนกระจายไปทั่วประเทศ” นายศุภชัย ระบุ

นายศุภชัย ระบุว่า วันนี้ต้องเรียกร้องต่อ ผู้บริหารกทม. ทำไมปล่อยให้คนป่วยตายคาบ้าน รอจนตาย ไม่ไปรับตัว กทม. เละทุกวันนี้ ก็เพราะผู้บริหารกทม. กีดกัน สกัดกั้น ไม่ให้กระทรวงสาธารณสุข เข้าไปทำงานในพื้นที่ กทม. เวลานี้ สธ.กำกับดูแล 76จังหวัด จะเห็นว่าสามารถจัดการได้ดี เพราะคนสาธารณสุขทุ่มเทหัวใจทำงานอย่างมืออาชีพเพราะรู้งานเข้าใจงาน การจัดการเรื่องสาธารณสุข ไม่ต้องใช้อำนาจ แต่ต้องใช้สมอง และหัวใจ ต้องได้รับความร่วมมือ ความไว้วางใจจากประชาชน ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือก็พัง สิ่งที่ประชาชนอาจไม่รู้ก็คือสธ.ไม่อาจนิ่งดูดายเห็นความยากลำบากของพี่น้องประชาชนได้

“สุดท้ายกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องมาตั้งรพ.สนามชื่อว่า บุษราคัม ขนาด 4000 เตียง เพื่อช่วยกรุงเทพมหานครของผู้ว่าฯอัศวิน ช่วยคน กทม. แต่ต้องมาตั้งที่ เมืองทองธานีจังหวัดนนทบุรี และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในการแก้ปัญหาโควิดในกรุงเทพมหานคร และอยากบอกคน กทม.ว่า ท่านควรรู้ว่า หากอยากด่าอนุทินก็ด่าไป แต่การด่าอนุทิน เป็นการด่าผิดคน ยิงผิดตัว เพราะอนุทิน ถูกตัดออกจากการทำงาน การแก้ปัญหาใน กทม. ไปตั้งแต่ต้นแล้ว เปล่าประโยชน์ที่ ส.ส.ชื่อ สิระจะซ้อมลงโลง แสร้งตาย แล้วแถลงข้อมูลผิดๆบิดเบือนตามสติปัญญาที่มี ส.ส.ไปถามผู้ว่า ฯ กทม.เถิดว่าจะแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างไร ก่อนเชื้อจะลามมาติดเข้าจริงๆ แล้วอาจตายจริงแล้วเอาไปเผาจริง ต้องเลือกตั้งซ่อมกันอีกคนจะบ่นเสียดาย ส.ส.คนดีว่าไม่น่าตายเล้ย??” นายศุภชัย ระบุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]