ศบค. เตรียมประเมิน 7 วันหลังออกมาตรการเข้ม

กรุงเทพฯ 18 ก.ค.- ผอ.ศปก.ศบค. เตรียมประเมิน7 วันหลังออกมาตรการเข้มฉบับล่าสุดมีผล 20 ก.ค.- 2 ส.ค.64 ยืนยันยังไม่ปิดตลาดสด –ซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะยังมีความจำเป็นต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน  


พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) เชิญผู้บริหารสื่อเข้าหารือและรับฟังความคิดเห็นการเสนอข่าวในช่วงวิกฤตโควิดระบาด ถึงข้อกำหนดมาตรการป้องกันโควิด-19 ฉบับล่าสุด มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม  โดยผู้ที่เข้าร่วมประชุมต้องผ่านการตรวจเชื้อโควิดก่อนทุกคน       

พล.อ.ณัฐพล เผยว่า ศปก.ศบค. ตั้งใจว่าจะประกาศใช้ประมาณ 30 วัน แต่เป็น 14 วันก่อนและจะประเมินผลย่อยช่วง 7 วัน เมื่อครบ 14 วันจะประเมินเป็นทางการอีกครั้ง   หาก 7 วันรอบแรกยังมีการติดเชื้อเพิ่ม อาจจะต้องมีการปรับมาตรการหลายอย่างเพิ่มทั้งส่วนจังหวัด กิจกรรมกิจการ ซึ่งมีหลายวิธีแต่ต้องฟังความเห็นด้านการแพทย์ ด้านสาธารณสุขเป็นหลัก จากนั้นทุกฝ่ายจะร่วมการพิจารณาว่าเมื่อได้มีมาตรการประกาศออกไปแล้วทำได้จริงหรือไม่ อะไรที่ประกาศแล้วทำไม่ได้จริงก็จะใช้มาตรการอื่น เช่น การกำกับใกล้ชิดมาใช้แทน


ยืนยันที่ประชุมยังคงการเปิดตลาดสด – ซูเปอร์มาร์เก็ตไว้ เนื่องจากยังมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน แม้ว่าหลายฝ่าย เช่น คณะแพทย์จะห่วงใยเรื่องการเว้นระยะห่าง แต่กำชับพื้นที่ให้เพิ่มมาตรการกำชับดูแลที่เข้มงวดขึ้น ส่วนกระแสข่าวว่าจะเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตลักษณะวันเว้นวันนั้นไม่เป็นความจริง เพราะอาจยิ่งทำให้เกิดความแออัดของประชาชนได้ การเปิดกระจายไป เพื่อให้เกิดการเฉลี่ยของประชาชนในการจับจ่ายใช้สอย และสามารถเว้นระยะห่างได้   

ขณะที่จังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัด 13 จังหวัด ในพื้นที่สีแดงเข้ม แต่เป็นจังหวัดที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอย่างจังหวัดพื้นที่สีแดง พื้นที่สีส้ม ยังสามารถรับประทาน

อาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ แต่ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจเรื่องเหตุผลที่ยังให้เดินทางข้ามจังหวัด ที่ ศบค. พยายามจะไม่ใช้มาตรการเข้มจนเกินไปที่ทำให้คนเดือดร้อน หากได้รับความร่วมมือก็จะคงมาตรการนั้นไว้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชน โดยกำชับ ศปก.ศบค. ให้กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและปราณี เพื่อให้สถานการณ์ค่อยๆ คลี่คลายโดยเร็ว 


ส่วนการเชิญสื่อมาทำความเข้าใจเป็นการเชิญมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หลังจาก ศปก.ศบค. ได้ติดตามสถานการณ์ทางสื่อในทุกๆ แขนง ซึ่งสื่อมวลชนได้ให้ข้อคิดเห็นหลากหลายซึ่งหลายอย่างเป็นประโยชน์ จึงอยากรับฟังความเห็นจากสื่อมวลชนมากกว่าการสั่งการ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน