ประกาศปรับเพิ่ม 3 จังหวัดเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม

กทม. 18 ก.ค.-ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศปรับเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็น 13 จังหวัด โดยเพิ่มจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 28 ลงนามโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยปรับเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็น 13 จังหวัด จากเดิม 10 จังหวัด เพิ่มจังหวัดชลบุรี, ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 21.00 – 04.00 น. ต่อเนื่องอย่างน้อย 14 วัน


พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งสิ้น 13 จังหวัด
1.กรุงเทพมหานคร
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา
3.จังหวัดชลบุรี
4.จังหวัดนครปฐม
5.จังหวัดนนทบุรี
6.จังหวัดนราธิวาส
7.จังหวัดปทุมธานี
8.จังหวัดปัตตานี
9.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
10.จังหวัดยะลา
11.จังหวัดสงขลา
12.จังหวัดสมุทรปราการ
13.จังหวัดสมุทรสาคร

พื้นที่ควบคุมสูงสุด รวมทั้งสิ้น 53 จังหวัด
1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดกาญจนบุรี
3.จังหวัดกาฬสินธุ์
4.จังหวัดกำแพงเพชร
5.จังหวัดขอนแก่น
6.จังหวัดจันทบุรี
7.จังหวัดชัยนาท
8. จังหวัดชัยภูมิ
9. จังหวัดเชียงราย
10. จังหวัดเชียงใหม่
11. จังหวัดตรัง
12. จังหวัดตราด
13. จังหวัดตาก
14. จังหวัดนครนายก
15. จังหวัดนครราชสีมา
16. จังหวัดนครศรีธรรมราช
17. จังหวัดนครสวรรค์
18. จังหวัดบุรีรัมย์
19. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
20. จังหวัดปราจีนบุรี
21. จังหวัดพัทลุง
22. จังหวัดพิจิตร
23. จังหวัดพิษณุโลก
24. จังหวัดเพชรบุรี
25. จังหวัดเพชรบูรณ์
26. จังหวัดมหาสารคาม
27. จังหวัดยโสธร
28. จังหวัดร้อยเอ็ด
29. จังหวัดระนอง
30. จังหวัดระยอง
31. จังหวัดราชบุรี
32. จังหวัดลพบุรี
33. จังหวัดลำปาง
34. จังหวัดลำพูน
35. จังหวัดเลย
36. จังหวัดศรีสะเกษ
37. จังหวัดสกลนคร
38. จังหวัดสตูล
39. จังหวัดสมุทรสงคราม
40. จังหวัดสระแก้ว
41. จังหวัดสระบุรี
42. จังหวัดสิงห์บุรี
43. จังหวัดสุโขทัย
44. จังหวัดสุพรรณบุรี
45. จังหวัดสุรินทร์
46. จังหวัดหนองคาย
47. จังหวัดหนองบัวล าภู
48. จังหวัดอ่างทอง
49. จังหวัดอุดรธานี
50. จังหวัดอุทัยธานี
51. จังหวัดอุตรดิตถ์
52. จังหวัดอุบลราชธานี
53. จังหวัดอำนาจเจริญ


พื้นที่ควบคุม รวมทั้งสิ้น 10 จังหวัด
1. จังหวัดชุมพร
2. จังหวัดนครพนม
3. จังหวัดน่าน
4. จังหวัดบึงกาฬ
5. จังหวัดพังงา
6. จังหวัดแพร่
7. จังหวัดพะเยา
8. จังหวัดมุกดาหาร
9. จังหวัดแม่ฮ่องสอน
10. จังหวัดสุราษฎร์ธานี

พื้นที่เฝ้าระวังสูง รวมทั้งสิ้น 1 จังหวัด คือภูเก็ต .


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม