“กรณ์” เสนอรัฐรื้อแผนงบประมาณ ย้ำประชาชนต้องเข้าถึงการตรวจ

กรุงเทพฯ 17 ก.ค.-พรรคกล้า นำร่องตั้ง “ศูนย์กล้าดูแล” ตัดวงจรระบาดในชุมชน แยกผู้ติดเชื้อโควิดออกจากครอบครัว ให้ยา-ช่วยหาเตียง “กรณ์” ชี้ ปีนี้โควิดแรงกว่าปีที่แล้ว แต่เงินเยียวยาน้อยกว่าเดิม เสนอรัฐ รื้อแผนงบประมาณ ปรับแผนเยียวยา งดเว้นจัดเก็บภาษี ย้ำประชาชนต้องเข้าถึงการตรวจ ยอมรับผล Rapid Antigen Test เข้ารับการรักษาได้ ไม่ต้องตรวจซ้ำ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า นำทีมงานพรรคกล้าเขตบางกะปิ ลาดพร้าว วังทองหลาง และชลบุรี ร่วมกับชุมชนร่วมกันสร้าง ลาดพร้าว 101 แยก 40 เปิด “ศูนย์กล้าดูแล” นำร่องเป็นศูนย์แยกผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระดับสีเขียวออกจากครอบครัว ป้องกันการระบาดแบบทวีคูณ ตามที่เคยเสนอแนวคิดสถานกักตัวชุมชน Community Quarantine เพื่อยับยั้งการระบาดในชุมชน โดยผู้ติดเชื้อได้รับการดูแลโดยอาสาสมัคร บริการที่นอน อาหาร ยารักษาเบื้องต้น จนกว่าจะได้เตียงรักษาจากโรงพยาบาล และมีแผนจะร่วมกันทำในชุมชนต่อๆ ไปที่มีความพร้อม


นายกรณ์ ยังกล่าวถึงมาตรการเยียวยาด้านเศรษฐกิจในสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลจำนวนกว่า 4 หมื่นล้านบาทว่า สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ แต่ไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับความเดือนร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เพราะส่วนใหญ่ต้องการให้บริหารจัดการให้สามารถกลับไปทำมาหากินและใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว หากเทียบกับงบประมาณและมาตรการเยียวยาปีที่แล้ว พบว่าวันนี้ประชาชนมีความเดือดร้อนมากกว่า แต่เม็ดเงินเยียวยากลับน้อยกว่าเดิม ขณะที่แผนการฉีดวัคซีนคาดว่าน่าจะล่าช้าจากเดิมที่ตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสสิ้นปี รัฐบาลจึงต้องเตรียมเงินเยียวยาให้เพียงพอ จัดสรรให้ถูกต้อง รื้อแผนงบประมาณปี 2565 และ งบ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่กู้มาเพื่อโควิดโดยเฉพาะ ต้องตอบโจทย์ความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ได้รับผลโดยตรงจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งรัฐจะปฏิเสธภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาลไม่ได้

“มาตรการเยียวยาที่รัฐบาลจะเยียวยา 50% ของรายได้ สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคม สูงสุด 7,500 บาท รัฐบาลสมทบอีก 2,500 มองว่าเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำเท่านั้นเอง ซึ่งไม่เพียงพอถ้าเทียบกับโอกาสที่ประชาชนได้ออกไปทำมาหากินใช้ชีวิตปกติ มาตรการที่ช่วยเหลือ 1 เดือนไม่เพียงพอ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ขาดโอกาสทำมาหาค้าขายกว่า 1 ปีแล้ว จะมาชดเชย 3,000 บาท ต่อจำนวนลูกจ้างที่มีก็ไม่เพียงพออีก เพราะฉะนั้นมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลทำได้ โดยไม่ต้องเจรจากับใคร เช่น ควรงดเว้นการจัดเก็บภาษีย้อนหลัง เพิ่มเงินสดที่อยู่ในมือผู้ประกอบการ ลดค่าใช้จ่ายทั้งภาษีทั้งค่าจ้าง ซึ่งพรรคกล้าเคยแนะนำมาโดยตลอด ให้รัฐช่วยออกเงินเดือนให้ครึ่งหนึ่ง 3-4 เดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการวางแผนได้ จะได้ไม่ต้องปลดคนออก ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้และต้องเร่งทำ” นายกรณ์ กล่าว


หัวหน้าพรรคกล้า ยังย้ำถึงมาตรการล็อคดาวน์ของรัฐบาลว่า เป็นมาตรการที่เจ็บแต่ไม่จบ เพราะมาตรการไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชน ตราบใดที่ยังไม่ลงไปตรวจให้ทั่วถึง แล้วแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ที่ไม่ติดเชื้อ หากไม่ทำแบบนี้ จะไม่มีทางลดอัตราการแพร่เชื้อลงได้ นี่คือสาเหตุที่มาของศูนย์กล้าดูแลที่พรรคกล้ามาทำร่วมกันกับชุมชนโครงการร่วมกันสร้าง เพราะการแยกชาวบ้านออกจากผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ เป็นวิธีการตัดวงจรการแพร่เชื้อ ช่วยชาวบ้านที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบรักษาพยาบาล หรือเข้าถึงเตียงในระบบสาธารณสุขได้ ลดภาระระบบสาธารณสุข ที่ตอนนี้หนักมาก ในขณะเดียวกันยังสะท้อนให้เห็นความเข้มแข็งของชุมชน ซึ่งพรรคกล้าสนับสนุนระบบการบริหารจัดการ ปัจจัยต่างๆที่พี่น้องประชาชนร่วมบริจาคเพื่อให้เราสร้างศูนย์แบบนี้ขึ้นมา ตอบโจทย์ชุมชนเมือง เพราะที่อยู่อาศัย ไม่สามารถ Home Isolation หรือแยกตัวออกจากครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ติดเชื้ออยู่ห่างไกลจากครอบครัว ชาวชุมชนหรือสมาชิกครอบครัว สามารถทำอาหารมาส่งให้ที่หน้าศูนย์ ไม่มีความกังวลว่าต้องพลัดไปอยู่ศูนย์พักคอยหรือโรงพยาบาลสนามที่อยู่ห่างไกล และย้ำว่า พรรคกล้าพร้อมให้ความร่วมมือกับชุมชนที่สนใจทำโครงการนี้

นายกรณ์ ยังกล่าวถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย Rapid Antigen Test ที่พรรคกล้าเคยเสนอไปแต่แรกว่าต้องเปิดให้ประชาชนสามารถตรวจตัวเองได้ว่า ตอนนี้รัฐบาลเริ่มผ่อนคลาย เริ่มยอมรับเรื่องการตรวจ แต่ไม่ให้ตรวจด้วยตนเอง ต้องไปตรวจที่ศูนย์ของราชการ ซึ่งมองว่าไม่สมเหตุสมผล หากชาวบ้านมีอาการที่ส่อให้เห็นว่ามีโอกาสสูงที่อาจจะเป็นโควิด และตรวจด้วย Rapid Antigen ด้วยตนเองแล้วพบว่าผลเป็นบวก ทางราชการน่าจะยอมรับผลเพื่อนำเขาเข้าระบบรักษาพยาบาลได้ การบังคับไปตรวจที่ศูนย์อาจสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น อย่ากลัวจำนวนผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้น รู้ดีกว่าไม่รู้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จนท.ห้ามล่าสัตว์ป่า หายตัวปริศนา 3 วัน หลังไปขายลอตเตอรี่

อุทัยธานี 14 ก.ย.- แม่เศร้าลูกชาย ซึ่งเป็น จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา หายตัวปริศนา 3 วัน หลังออกเวรไปเร่ขายลอตเตอรี่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังติดต่อไม่ได้ นางจำรัส อายุ 57 ปี ชาวบ้านบึงเจริญ หมู่ 9 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นำเบาะแส เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด มอบให้สื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง ในการตามหาลูกชาย คือนายเอกฉัตร อายุ 39 ปี ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา ต.ระบำ อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนาน 3 วัน โดยภาพวงจรปิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน นายเอกฉัตรนำแผงลอตเตอรี่มาขาย ที่ร้านของชำของแม่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ สีแดงออกไป กระทั่งล่าสุด วันที่ 11 กันยายน กล้องอีกจุดจับภาพนายเอกฉัตร ขี่รถจักรยานยนต์ สีเขียว ทะเบียน 1ขอ […]

ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี

14 ก.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 30 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับนายณัฐพงษ์ อายุ 36 ปี นายวิเนตร อายุ 28 ปี และนายธีรวุฒิ อายุ 34 ปี ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมของกลางหลายรายการ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเครือข่ายเงินกู้นอกระบบเก็บดอกเบี้ยถึงร้อยละ 626.25 ต่อปี กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ผู้กู้ไม่ต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน โอนเงินให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ไปบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรก และงวดสุดท้ายไว้ก่อน หากผิดนัดชำระหนี้ ก็จะไประรานลูกหนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย. -สำนักข่าวไทย

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย กกต.คาดรู้ผลก่อน 3 ทุ่ม

เชียงราย 14 ก.ย.- กกต. คาดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย 65% เหตุอากาศเป็นใจ พบประชาชนตื่นตัวมารอใช้สิทธิแต่เช้า รู้ผลก่อน 3 ทุ่มคืนนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 จังหวัดเชียงราย ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมารอใช้สิทธิทั้ง 2 หน่วยภายในโรงเรียนบ้านสบคา ซึ่งวันนี้สภาพอากาศเป็นใจท้องฟ้าปลอดโปร่ง หากเป็นไปเช่นนี้จะมีส่วนทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อากาศเอื้ออำนวยในการออกเสียงเลือกตั้งวันนี้ ซึ่งมีตั้งเป้าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 65 แม้จะเป็นงานยาก เพราะมีเงื่อนไขในเรื่องของกำหนดเวลายุบสภา แต่ด้วยความร่วมมือของทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัคร และทางจังหวัดเชียงราย กกต.จังหวัดเชียงราย คาดว่าตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิจะใกล้เคียงเป้าที่ได้ตั้งเป้าไว้ สำหรับรายงานผล เมื่อปิดหน่วยในเวลา 17.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะมีการตรวจบัตรและนับคะแนน คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลาประมาณ 20.00 – 21.00 น. ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยระบุว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของชาวจังหวัดเชียงราย และเลขา กกต.ได้มาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขตเลือกตั้งที่ 7 พร้อมเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ เลือกคนดีเข้าสภาเป็นหน้าที่ของชาวจังหวัดเชียงราย […]

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยยังคงมีฝน ภาคใต้หนักสุด

กทม. 14 ก.ย.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง เตือนภาคใต้เตรียมรับมือฝนถล่ม ทะเลคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยา เผยภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่เนื่องจากมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงเหนือและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ส่วนประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง – สำนักข่าวไทย