กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – นายกฯ สั่งกองทัพเร่งจัดตั้ง รพ.สนามเพิ่ม และจัดกำลังร่วม กทม. เร่งค้นหาเชิงรุก ฉีดยากลุ่มเสี่ยงตามบ้าน และแยกผู้ป่วยออกจากชุมชน
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ประชุมหน่วยงาน กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อเร่งเข้าไปสนับสนุนรับมือกับวิกฤติโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ที่พบแนวโน้มการแพร่ระบาดในประเทศยังสูงต่อเนื่อง
ภาพรวมกองกำลังป้องกันชายแดน ทั้งทหาร ตำรวจ ยังตรึงกำลังเฝ้าระวังคัดกรองบุคคลผ่านเข้า-ออกชายแดน และจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายได้อย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ที่ผ่านมา จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองได้ถึง 248 คน (สปป ลาว 110 คน กัมพูชา 69 คน เมียนมา 25 คน และจีน 4 คน) โดยเจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง เพื่อหยุดและลดความเสี่ยงของการกระจายเชื้อสายพันธุ์ใหม่ในพื้นที่ชายแดน
ขณะเดียวกัน กำลังทหาร ตำรวจ ยังคงกระจายกันควบคุมดูแลแคมป์คนงาน 606 แห่ง ในพื้นที่ต่างๆ ของ กทม. พร้อมทั้งจัดตั้งจุดตรวจ/ด่านตรวจ 88 จุด ในพื้นที่ต่างๆ ทำความเข้าใจกับประชาชน และเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายตามข้อกำหนดควบคุมการเคลื่อนย้ายของประชาชน และการรวมกลุ่มในกิจกรรมเสี่ยง เพื่อให้เกิดผลทางปฏิบัติในการควบคุมโรคอย่างจริงจังร่วมกัน
ขณะที่ความร่วมมือเร่งหยุดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ กองทัพได้จัดกำลังร่วมกับ กทม. ทำหน้าที่ชุดตรวจค้นหาเชิงรุก (CCRT) จำนวน 69 ชุด และเตรียมจัดเพิ่มเป็น 188 ชุด เร่งเข้าชุมชนต่างๆ ใน 50 เขต ตรวจคัดกรองแยกผู้ป่วยออกจากบ้านและชุมชน เข้ารับการรักษาในระบบ พร้อมทั้งฉีดวัคซีนให้กับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงตามบ้านในคราวเดียวกัน ระหว่างวันที่ 15-25 ก.ค.64 เพื่อลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยถึงชีวิต
พล.อ.ชัยชาญ ได้ย้ำข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขอให้ทุกเหล่าทัพให้ความสำคัญ คงความเข้มข้นเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งขอให้สำรวจพื้นที่ในหน่วยทหาร ขยายผลจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ 10 จังหวัดสีแดงเข้ม และเตรียมบุคลากรทางการแพทย์แถวสองและอาสาสมัคร เพื่อดูแลรองรับผู้ป่วยที่มีแนวโน้มมากขึ้นให้เพียงพอ
นอกจากนี้ รมช.กลาโหม ยังได้กำชับทุกเหล่าทัพให้ความสำคัญสนับสนุนจังหวัดสีแดงเข้ม เร่งตรวจค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ เพื่อแยกผู้ป่วยออกจากชุมชน และให้ประสานทำงานร่วมกับศูนย์เอราวัณ ดำรงความต่อเนื่องสนับสนุนยานพาหนะและเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ยังมีในชุมชนเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็ว พร้อมกันนี้ ขอให้ทุกเหล่าทัพที่มีหน่วยทหารในพื้นที่สีแดงเข้ม ทำการตรวจเชิงรุกในชุมชนหน่วยทหาร และจัดตั้งพื้นที่คัดแยกผู้ป่วยออกจากชุมชน (CI) รองรับการดูแลกันเองในหน่วยทหาร ควบคู่ไปกับการสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมมือกันลดการแพร่ระบาดของโรคให้ได้โดยเร็ว. – สำนักข่าวไทย