เตรียมยกระดับมาตรการคุมเข้ม หลังติดเชื้อยังสูง

ทำเนียบรัฐบาล 16 ก.ค.-ที่ประชุม ศบค. ประเมินสถานการณ์หลังล็อกดาวน์ 10 จังหวัด สถานการณ์ติดเชื้อยังสูง เตรียมยกระดับปิดกิจการบางอย่างเพิ่ม พร้อมเคาะปรับสูตรวัคซีนได้ เตือนประชาชนอย่าซื้ออุปกรณ์ตรวจโควิดทางออนไลน์หรือร้านสะดวกซื้อ


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค.วันนี้ (16 ก.ค.) ประเมินสถานการณ์หลังการประกาศล็อกดาวน์ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไปแล้ว 5 วัน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ แต่ยังพบการกระทำผิดคือออกนอกเคหสถานหลังเวลา 21.00 น. จำนวน 158 ราย และความผิดในลักษณะการรวมกลุ่มมั่วสุม 59 ราย ทำให้ได้ข้อสรุปว่าอาจจำเป็นต้องปรับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น และอาจจำเป็นต้องปิดกิจการบางอย่างให้มากขึ้น ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารและประกาศที่จะออกมาต่อไป

“ที่ผ่านมาเราปิดในพื้นที่ 10 จังหวัด เพราะต้องการให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด แต่เมื่อประเมิน 5 วัน พบว่าสถานการณ์ยังน่าห่วง ท่าน ผอ. ศบค.จึงให้ทบทวนและเสนอกลับมาเร่งด่วนว่าจะต้องมีมาตรการเข้มข้นขึ้นอย่างไร” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า จะตรวจหาเชื้อให้ครอบคลุมประชาชนให้มากที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เมื่อตรวจแล้วผลเป็นบวก ขอให้ประชาชนไปติดต่อกับสาธารณสุขใกล้บ้าน จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลประเมินอาการเบื้องต้น หากอาการอยู่ในระดับสีเขียวจะให้กักตัวอยู่ที่บ้าน หรือ home isolation แต่หากติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนจะจัดสถานที่พักคอยในชุมชน หรือ community isolation เพื่อลดการแพร่เชื้อในชุมชน ทั้งนี้ เพื่อสงวนเตียงให้กับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงในระดับสีเหลืองและสีแดง อย่างไรก็ตาม หากตรวจแล้วผลเป็นลบ แต่มีประวัติสัมผัสเสี่ยงสูงหรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง จะต้องตรวจซ้ำในวันที่ 3 หรือวันที่ 5 หลังจากตรวจครั้งแรกไปแล้ว

“สำหรับอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อ covid 19 เบื้องต้น (antigen test kit) ถือเป็นอุปกรณ์การแพทย์ ดังนั้น แนะนำให้ประชาชนไปตรวจเฉพาะโรงพยาบาล สถานพยาบาล หรือสามารถซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ได้ที่ร้านขายยาที่มีเภสัชกรดูแลร้าน และให้คำแนะนำที่ถูกต้อง แต่ไม่อนุญาตให้ขายในร้านสะดวกซื้อ หรือซื้อผ่านออนไลน์ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะต้องได้รับการตรวจมาตรฐาน” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่เป็นโรงงาน สถานประกอบการที่มีบุคลากรจำนวนมาก สนใจนำอุปกรณ์เหล่านี้ไปตรวจหาเชื้อในพนักงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชี้แจงว่าสถานประกอบการที่มีบุคลากรเกิน 50 คนขึ้นไป โดยกฎหมายจะมีสถานพยาบาล จึงเห็นว่าในส่วนของโรงงานน่าจะให้สถานพยาบาลของสถานประกอบการนั้นรับไปดำเนินการได้


ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนผู้ป่วยที่เข้าสู่ระบบกับตัวเองที่บ้าน หรือ home isolation อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า ผู้ป่วยจะได้รับอุปกรณ์ให้วัดอุณหภูมิตรวจวัดออกซิเจน และมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปพูดคุย ประเมินอาการ รวมทั้งจัดเครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร ยาฟาวิพิราเวียร์ ฟ้าทะลายโจร และอุปกรณ์ที่มีความจำเป็น เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเป็นมาตรฐานและปลอดภัย ซึ่งจะเป็นผู้ป่วยที่มีอาการในระดับสีเขียว คือไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับ community isolation จะใช้ในกรณีติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในชุมชนหรือโรงงาน หากมีพื้นที่แยกกักได้เองขนาดเล็กไม่เกิน 200 เตียง โดยส่วนของ กทม. จะมีศูนย์พักคอยรอการส่งต่อ 21 ศูนย์ รองรับผู้ป่วยได้ 2,950 เตียง อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเน้นย้ำว่าก่อนส่งผู้ป่วยจะต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี rt-pcr ก่อน และต้องจัดการสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น เรื่อง น้ำ และการจัดการขยะ และจะต้องได้รับการยอมรับจากชุมชน

“ที่ประชุมหารือเรื่องการฉีดวัคซีนกระตุ้นสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค ไปแล้ว 2 เข็ม ให้สามารถฉีดวัคซีน astrazeneca หรือวัคซีน mRNA เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ และผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกแล้ว สามารถใช้สูตรผสมเป็นวัคซีน astrazeneca เข็มที่ 2 ได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ศึกษาจากหลายหน่วยงาน พบว่าผลของการควบคุมโรคเป็นที่น่าพอใจ และองค์การอนามัยโลกให้การยอมรับ จึงเป็นข้อสรุปในที่ประชุมว่าสามารถใช้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวของ ศบค .วันนี้เลื่อนจากเวลา 12.30 น. เป็นเวลา 14.00 น. เพื่อรอผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก เพื่อประเมินสถานการณ์เนื่องจากผ่านไป 5 วันแล้ว แต่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากรกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีต รมว. สาธารณสุข และเป็นหัวหน้าทีมในการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้เอกชน นพ.อุดมคชินทร นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา นพ.ยง ภู่วรวรรณ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และพญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผู้บริหารด้านสาธารณสุข และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

แก๊งมอดไม้เหิม! โค่นป่า 40 ไร่ “เขาชะเมา” เหลือแต่ตอ

ระยอง 3 มิ.ย.- แก๊งมอดไม้เหิมเกริม ลักลอบโค่นป่าเกือบ 40 ไร่ กลางเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขาชะเมา จ.ระยอง เหลือแต่ตอไม้ ชาวบ้านโวยไร้เจ้าหน้าที่ดูแล ผู้สื่อข่าวรับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พิกัด ม.3 บ้านเขาพัง ถนนเขาชะเมา-แก่งหางแมว ช่วงหลัก รย.4060 กม.ที่ 8 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบภาพชวนสะเทือนใจ พื้นที่กว่า 37-40 ไร่ถูกโค่นต้นไม้จนโล่งเตียนเหลือเพียงตอไม้เบญจพรรณ ต้นยางพาราถูกโค่นราบเป็นหน้ากลอง พื้นที่กลายเป็น “เขาหัวโล้น” ไร้เงาไม้ยืนต้น ด้าน นายบุญธรรม ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า พื้นที่ทั้งหมดในหมู่บ้านรวมถึงจุดที่เกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามระเบียบให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ทำกินได้ ห้ามแพ้วถาง ตัดไม้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 ระยอง 1 (รย.1) สังกัดกรมป่าไม้ ซึ่งรับผิดชอบดูแลป่าทั่วทั้ง อ.เขาชะเมาและอ.แกลง ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ […]

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ​ชี้​ต้องยึดสันติวิธี ปมไทย-กัมพูชา

สนามหลวง 3 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ​ชี้​ปมไทย-กัมพูชา ต้องยึดสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง​ คำนึงถึงชีวิต-​ความสูญเสีย ขณะที่ทหารพร้อมยึดมั่นรักษาอธิปไตย ส่วนกัมพูชาเตรียมนำเรื่องขึ้นศาลโลก ให้เป็นเรื่องของการเจรจา ย้ำ​ใช้สงคราม​เป็นมาตรการสุด​ท้าย นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง จุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ ตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึงตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน “สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงคราม จะเป็นมาตรการสุดท้าย […]