กรุงเทพฯ 16 ก.ค. -วิโรจน์ ดีใจ สาธิต เปิดสาเหตุ แอสตราเซเนกา เลื่อนส่งวัคซีน จี้ พรรคประชาธิปัตย์ หยุดพายเรือให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่ง แนะเปิดความจริงเรื่องวัคซีนทั้งหมด
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุว่า สัญญาที่รัฐบาลได้ทำกับแอสตราเซเนกา ไม่ได้ระบุว่าต้องส่งมอบเมื่อใดนั้นว่า รัฐบาลไม่น่าจะได้รับวัคซีนเพื่อนำมาใช้ปกป้องชีวิตของประชาชนคนไทยจากโรคระบาด ได้ครบ 61 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564 นี้ ซึ่งถ้าสัญญา ไม่ได้ระบุ ระยะเวลาในการส่งมอบที่ชัดเจน ก็ไม่รู้ว่าจะถูกเลื่อนการส่งมอบอีกหรือไม่ แม้จะรู้สึกคับแค้น และเสียใจที่ได้รับทราบข่าวดังกล่าว แต่ก็ยังดีที่ได้รู้ความจริง จากปากของ นายสาธิต ที่กล้านำเอาความจริงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่ยอมบอกกับประชาชน เข้าใจว่านายสาธิต คงต้องเผชิญแรงกดดันจากทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน เป็นอย่างมาก ที่นำเอาความจริงมาเปิดเผยในครั้งนี้
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การกระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีน ตนและภาคประชาชน ได้เตือนรัฐบาลมาโดยตลอด ว่าหากรัฐบาลไม่กระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนเอาไว้ล่วงหน้า ถ้าเกิดปัญหาการส่งมอบวัคซีนล่าช้า หรือเกิดปัญหาประสิทธิผลของวัคซีนที่ไม่เพียงพอต่อการป้องกันการระบาด หรือเกิดปัญหาอาการไม่พึงประสงค์หลังรับการฉีดวัคซีนที่ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น หรือในกรณีที่ต้องเผชิญหน้ากับเชื้อกลายพันธุ์ แล้วรัฐบาลจะแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อปกป้องชีวิตของประชาชนได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ในเมื่อนายสาธิต กล้าที่จะนำเอาความจริงมาเปิดเผยแล้ว ก็ควรจะเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้กับประชาชนได้รับทราบ เพราะมีอีกหลายเรื่อง ที่ประชาชนอยากรู้ความจริง เช่น ในเมื่อเงื่อนไขการอุดหนุนวงเงิน 600 ล้านบาท ให้กับ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด มีเงื่อนไขที่ระบุในหนังสือจากคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ มีเงื่อนไขจำกัดการส่งออก และประเทศไทยจะมีสิทธิสั่งซื้อเป็นอันดับแรก แล้วเหตุใด ในรายละเอียดในหนังสือแสดงเจตจำนงในการทำสัญญา (Letter of Intent) ในวันที่ 12 ตุลาคม 2563 รัฐบาลจึงไปตกลงที่ยอมให้แอสตราเซเนกา สามารถส่งออกได้ โดยปราศจากเงื่อนไข
นายวิโรจน์ ยังกล่าวอีกว่า ตกลงแล้วสัญญาวัคซีนแอสตราเซเนก้า 26 ล้านโดส ที่ลงนามในวันที่ 12 มกราคม 2564 นั้นมีเงื่อนไขจำกัดการส่งออก และประเทศไทยมีสิทธิซื้อก่อน อยู่หรือไม่ แล้ว ณ วันนี้ ที่ประชาชนได้รับวัคซีนไม่เป็นไปตามแผน 10 ล้านโดสต่อเดือน รัฐบาลสามารถบังคับสัญญาได้หรือไม่ รวมถึงในกรณีที่ไม่มีเงื่อนไขการจำกัดการส่งออก และสิทธิการซื้อวัคซีนก่อน แล้วสัญญารับทุนอุดหนุนของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่ลงนามในวันที่ 18 ธันวาคม 2563 นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร และสัญญาที่เปิดเผย ณ วันนี้ นั้นเป็นสัญญาสั่งซื้อวัคซีน แอสตราเซเนกา ที่ปรากฏตัวเลขเพียง 26 ล้านโดส เท่านั้น จึงอยากจะสอบถามว่า ตัวเลขอีก 35 ล้านโดส เพื่อรวมเป็น 61 ล้านโดส นั้นอยู่ในสัญญาฉบับไหน และมีเงื่อนไขการสั่งซื้ออย่างไร
นายวิโรจน์ ยังทวงถามไปถึงนายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ว่า ปกติแล้วประชาชนทั่วไป จะสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลสต็อกวัคซีนโควิด-19 ได้ผ่านระบบการติดตามตรวจสอบย้อนกลับโซ่ความเย็นของวัคซีนโควิด-19 ซึ่งพัฒนาโดยกระทรวง อว. แต่ทำไม ในปัจจุบัน จึงมีการปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบได้ จึงขอเรียกร้องให้กระทรวง อว. กลับมาเปิดให้ประชาชนได้เข้าถึง โดยเร็ว เพราะยิ่งปิดกั้นประชาชนจะขาดความเชื่อถือในรัฐบาล “ผมขอตั้งคำถามเชิงให้กำลังใจ ไปยังนายสาธิตว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังจะยอมให้กับ รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชน ต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ จริงๆ หรือพรรคประชาธิปัตย์ ทำได้แค่เบือนหน้าหนี กัดริมฝีปากล่าง และแอบไปร้องไห้ปาดคราบน้ำตา กับภาพความทุกข์ยากสิ้นหวังของประชาชน ที่สาหัสขึ้นอยู่ทุกวัน ทำได้แค่นี้จริงๆ หรือ”นายวิโรจน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย