ยอดป่วยยังสูง พบคลัสเตอร์ใหม่ใน 4 จังหวัด

ทำเนียบรัฐบาล 13ก.ค.-ศบค.รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 8,685 ราย เสียชีวิต 56 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 3,042 ราย ขณะที่ กทม.ยังพบป่วยรายวันสูงสุด 2,631 ราย ยอดสะสมพุ่ง101,575 ราย ส่วนคลัสเตอร์ใหม่วันนี้ยังพบใน 4 จังหวัด รวม 5 จุด นนทบุรี ที่คลังห้างซุปเปอร์มาร์เก็ต บางบัวทอง พบ 312 ราย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน ประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 8,685 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 8,673 ราย แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 6,026 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 2,501 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 146 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 12 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 353,713 ราย วันนี้(13 ก.ค.) มีผู้เสียชีวิตอีก 56 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 2,847 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 3,797 ราย รวมยอดรักษาหาย 255,455 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 95,410 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.53,619 ราย รพ.สนาม 41,791 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 3,042 ราย ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 794 ราย

สำหรับการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 13 ก.ค.64 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 8,685 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 324,849 ราย รักษาหายเพิ่ม 3,797 ราย รวมรักษาหายแล้ว 228,029 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 95,410 ราย เสียชีวิต 55 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 2,753 ราย


ส่วนรายละเอียดผู้เสียชีวิต 56 ราย เป็นเพศชาย 25 ราย เพศหญิง 31 ราย เฉลี่ยอายุ 34-96 ปี อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 30 ราย นราธิวาส 4 ราย นครปฐม ปทุมธานี กำแพงเพชร ชลบุรี เพชรบุรี จังหวัดละ 2 ราย ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ชุมพร ตราด นครราชสีมา ภูเก็ต นครสวรรค์ ปัตตานี มุกดาหาร ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู จังหวัดละ 1 ราย  โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคปอด หลอดเลือดสมอง ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น  โดยในจำนวนนี้ เป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัว 5 ราย และคนอื่นๆ เพื่อน เพื่อนร่วมงาน 21 ราย ซึ่งยังมากเช่นเดิม และอาศัยและเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด ถึง 19 ราย และ ไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน 7 ราย อาชีพเสี่ยง 4 ราย

ขณะที่การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มีทั้ง 77 จังหวัดของประเทศไทย โดยยอดติดเชื้อรายใหม่สูงสุดยังคงเป็น กทม. ที่ 2,631 รายรวมสะสมทะลุ 101,575 ราย ภาคกลางยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุด ตัวเลข 3 หลักถึง 5 จังหวัดคือ สมุทรสาคร 561 นนทบุรี 537 สมุทรปราการ 528 ปทุมธานี 189 และนครปฐม 177 ตามด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง พบมี 4 จังหวัด ที่ยอดรายใหม่เกินหลักร้อย ได้แก่ อุดรธานี 126 สุรินทร์ 118 บุรีรัมย์ 109 และนครราชสีมา 101

ส่วนภาคใต้ มี 3 จังหวัดที่ยอดติดเชื้อรายใหม่เกินหลักร้อยได้แก่ นครศรีธรรมราช 178 สงขลา 150 ยะลา 112ภาคตะวันออก มี 1 จังหวัดที่ยอดติดเชื้อรายใหม่เกินหลักร้อยอย่างน่าเป็นห่วงได้แก่ ชลบุรี 459 ทั้งนี้ พบมีเพียง 2 ภาคคือ ภาคเหนือ และภาคตะวันตก จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในหลักสิบ และจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อน้อยที่สุด พบเพียง 1 ราย มี 2 จังหวัดคือ แม่ฮ่องสอน และภูเก็ต


ศูนย์ข้อมูล โควิด-19 ยังรายงานการระบาดกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่แต่ละจังหวัดที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นของวันนี้ (13 ก.ค.) พบว่าจังหวัดสมุทรสาคร ในพื้นที่อำเภอเมือง ที่โรงงานผลิตภัณฑ์จากโลหะ 9 ราย ที่โรงงานผลิตอุปกรณ์ล็อค 8 ราย จังหวัดนนทบุรี อำเภอบางบัวทอง ที่คลังห้างซุปเปอร์มาร์เก็ต 312 ราย  จังหวัดชลบุรี อำเภอบ้านบึง ที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ 14 ราย และจังหวัดปัตตานี ซึ่งกระจายไปสามจังหวัด  จากโรงเรียนสอนศาสนา พบ 29 ราย ส่วนยอดการฉีดวัคซีน โควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เวลา 18:00 น. สะสม 12,908,193 โดส  จำแนกเป็นเข็มที่หนึ่ง สะสม 9,598,949 ราย เข็มที่สองสะสม 3,309,244 ราย เฉพาะการเข้ารับวัคซีนในวันที่ 12 กรกฎาคมเพิ่มขึ้น 338,980 โดส แบ่งเป็นเข็มที่หนึ่ง 297,542 ราย เข็มที่สอง 41,438 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย