กรุงเทพฯ 12 ก.ค. –“พิชัย” ชี้ล็อกดาวน์ทำเศรษฐกิจไทยสิ้นหวัง ห่วงเจ็บหนักแต่ไม่จบ วัคซีนขาด ทำคนเจ็บคนตายพุ่ง เชื่อจะยิ่งพัง แนะต้องสละเรือโดดออก
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า จากความผิดพลาดในการบริหารจัดการเรื่องวัคซีน ทำให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19อย่างหนัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจึงต้องประกาศล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เชื่อเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ถึง 1% และอาจจะถึงกับติดลบได้ถ้ายังไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโควิดได้ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกอย่างต่ำ 3-4 ปีเศรษฐกิจไทยจะฟื้น อีกทั้งความมั่นใจผู้บริโภคที่ต่ำสุดในรอบ 22 ปี 9 เดือน และความมั่นใจภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนที่ต่ำสุดๆแล้ว ความหวังที่จะเปิดประเทศใน 120 วันเป็นอันต้องฝันสลาย และ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์กำลังจะล้มเหลว
นายพิชัย กล่าวว่า การล็อกดาวน์จะทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินเพิ่มเพื่อเยียวยา ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้นทะลุเกินเพดานไปอีกมาก อีกทั้งจะทำให้การจัดเก็บรายได้ที่ลดลงพลาดเป้าอยู่แล้วยิ่งลดลงไปอีก ซึ่งจะส่งผลให้การจัดงบประมาณในปีต่อไปต้องลดลงอีก แต่จะออก พ.ร.ก. เงินกู้เพิ่มไม่ได้แล้ว หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90.5% แล้ว จะยิ่งพุ่งขึ้น คนจะจมหนี้ บริษัท ห้างร้าน จะปิดตัวกันอีกมาก คนตกงานจะพุ่งสูง หนี้เสียธนาคารจะกระฉูด แล้วไม่มีทางที่จะแก้ไขได้
“ที่น่าห่วงกว่าคือ เจ็บหนักแต่ไม่จบ การล็อกดาวน์แต่ไม่มีการสุ่มตรวจคัดแยกผู้ติดเชื้ออย่างทั่วถึง อีกทั้งวัคซีนที่มีคุณภาพขาดแคลน การล็อกดาวน์จะไม่สามารถลดการติดเชื้อได้ การติดเชื้อจะยิ่งมากขึ้น มีแนวโน้มที่จะมีคนเจ็บคนตายเพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งอาจจะต้องขยายการล็อกดาวน์ต่อไปอีก เศรษฐกิจก็จะยิ่งทรุด อาจถึงขั้นพังพินาศได้ การที่พลเอกประยุทธ์ยอมเสียสละเงินเดือน 3 เดือนจะไม่เท่าเศษเสี้ยวของความเสียหายทางเศรษฐกิจและการเจ็บป่วยล้มตายของประชาชน การประกาศไม่รับเงินเดือนได้ทำให้ความแตก โดยมีการเปิดเผยว่าพลเอกประยุทธ์ยังมีอีก 56 ตำแหน่ง หากพลเอกประยุทธ์ยังอยู่ต่อไป ปัญหาก็จะยิ่งมาก ทางที่ดีคือทุกคนในเรือแป๊ะต้องหาทางสละเรือและโดดออกเพื่อเอาตัวรอด หากยังอยู่ต่อไป รับรองได้ว่าจะต้องจมน้ำตายพร้อมเรือแป๊ะอย่างแน่นอน”นายพิชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย