ทำเนียบ 9 ก.ค.-ศบค.ให้วัคซีนไฟเซอร์ เข็ม3 กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า พร้อมเร่งเปิดจุดตรวจเชิงรุกให้ประชาชน
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค. ได้สรุปมาตรการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยมีข้อสรุปที่สำคัญ ได้แก่ 1.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดให้มีการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบการตรวจหาเชื้ออย่างเพียงพอ เรามีการเพิ่มสถานที่คัดกรอง เร่งเปิดจุดตรวจให้ประชาชนเข้าถึง เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน และแยกประชาชน ที่ติดเชื้อออกจากชุมชนให้เร็วที่สุด
2.สาธารณสุขปรับแผนการกระจายวัคซีน ใน กทม.และปริมณฑล เร่งฉีดให้กลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปี และผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค/โรคเรื้อรัง โดยจะต้องฉีดให้ได้ 1 ล้านโดสภายในเวลา 1-2 สัปดาห์ ส่วนการจัดสรรวัคซีนที่ได้รับการบริจาคจากต่างประเทศ ทั้ง วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสจากสหรัฐอเมริกา และ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1.05 ล้านโดสจากประเทศญี่ปุ่นที่มาถึงในวันนี้ (9 ก.ค.) โดยมุ่งเน้นไปยังผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ชาวต่างชาติที่อาศัยในไทย ที่อายุมากกว่า 60 ปีและมีโรคประจำตัว ผู้จำเป็นที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ได้แก่ นักเรียนนักศึกษา นักกีฬา นักการทูต
“ที่ประชุมมีข้อสรุปให้มีการจ่ายวัคซีนไฟเซอร์ เป็น บูทเตอร์โดส (booster dose) ให้บุคลากรทางการแพทย์ให้เร็วที่สุดด้วย” พญ.อภิสมัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย