รัฐสภา 9 ก.ค. – กมธ.ไอซีที วุฒิสภา หนุนโครงการดิจิทัลไอดี ของ ดีอีเอส ใช้แอป “ทางรัฐ” เชื่อมต่อข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของภาครัฐ แนะตั้งข้อมูลศูนย์ภัยเตือนภัยพิบัติในการแจ้งเตือนสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ เพื่อให้ประชาชนปรับตัวได้ทัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยี การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา ได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับตัวแทนสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA เป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) เป็นผู้กำกับดูแล ในการให้บริการส่งเสริมสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 รวมทั้งแนวทางการดำเนินการด้านดิจิทัลอื่น ๆ เป็นต้นว่า ระบบให้บริการงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ และระบบการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ได้นำเสนอข้อมูลและแผนงานล่าสุด นับว่าเป็นแนวทางพัฒนาดิจิทัลที่มีความสำคัญในการพัฒนาประเทศหลายประเด็นทำให้ทราบว่า หน่วยงานสำคัญของรัฐยังต้องการการพัฒนาทั้งทางด้านเทคโนโลยี และบุคลากรที่สนับสนุนกิจการในอนาคต ซึ่งในส่วนของกรรมาธิการ ได้ให้ความสนใจกับการพัฒนาระบบดิจิทัลไอดี ซึ่งโครงการดิจิทัลไอดี ขณะนี้ได้ทำออกมาเป็นแอปพลิเคชั่นชื่อ “ทางรัฐ” ซึ่งทางคณะกรรมาธิการได้แนะนำให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล รวมไอดีอื่น ๆ ที่สำคัญ ๆ เข้าไปด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความซับซ้อนของประชาชน เช่น เชื่อมกับใบอนุญาตขับขี่ หรือ หมายเลขใบรับรองการฉีดวัคซีน และการแจ้งเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติได้ทันที เช่น เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานสารเคมี ที่กิ่งแก้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ นายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ได้รับข้อเสนอแนะของกรรมาธิการเพื่อดำเนินการต่อไป
นายนิพนธ์ นาคสมภพ โฆษกคณะกรรมาธิการ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แนวคิดการเตือนภัยหรือ Emergency Alert ได้มีการก่อตั้งเป็นศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มาตั้งแต่หลังเหตุการณ์สึนามิ ในปี 2548 และปัจจุบันสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส และหากสามารถเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลจราจรและศูนย์เตือนภัยต่าง ๆ ผ่าน แอป ”ทางรัฐ” ก็จะทำให้ประชาชนที่อยู่ในที่เกิดเหตุหรือบริเวณใกล้เคียงได้รับข้อมูลข่าวสารและปรับตัวได้ทันท่วงที.-สำนักข่าวไทย.