ทำเนียบ 6 ก.ค.-รัฐบาล ยืนยันจัดหาวัคซีนหลายแพลตฟอร์มเสริมศักยภาพการป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ย้ำเดินหน้ามาตรการเข้มควบคู่ดูแลมิติทางเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการที่มีแพทย์ออกมาระบุให้ใช้วัคซีนชนิด MRNA เป็นวัคซีนหลักของไทยนั้น รัฐบาลมีการหารือกันในวันนี้(6ก.ค.)ถึงความเหมาะสมทั้งหมด โดยย้ำว่าปัจจุบันไทยมีวัคซีนอยู่หลายแพลตฟอร์ม เช่น วัคซีนชนิดเชื้อตายได้แก่ ซิโนแว็คและซิโนฟาร์ม ขณะที่มีวัคซีนชนิด ไวรัล แวกเตอร์ คือ วัคซีนของ แอสตร้าเซเนก้า และในวันนี้(6ก.ค.)คณะรัฐมนตรีก็ได้เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงนามในสัญญาจัดซื้อวัคซีนชนิด MRNA ของบริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 20 ล้านโดส รวมทั้งจะได้รับวัคซีนชนิดนี้จากการรับบริจาคของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ทั้งนี้เชื่อว่าการที่รัฐบาลเดินหน้าจัดหาวัคซีนที่ครอบคลุมทั้ง 3 แพลตฟอร์มก็จะสามารถช่วยเสริมความมั่นใจให้กับประชาชนได้มากขึ้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคาดหวังที่หลายคนต้องการให้รัฐบาลหยุดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้ได้ภายใน 1 เดือน ด้วยการใช้มาตรการต่างๆควบคู่ไปกับการดูแลด้านเศรษฐกิจนั้น ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลด้านสาธารณสุขควบคู่กับการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ เช่นจากมาตรการที่ใช้กับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก็ทำให้เห็นว่ารัฐบาลดูแลทั้งสองมิติ และพร้อมที่จะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งในด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตอย่างเต็มที่อีกทั้งยังผลักดันการเข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของธุรกิจขนาดเล็กและประชาชนที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย
