ทำเนียบรัฐบาล 6 ก.ค.- ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 5,420 ราย กทม.เจออีก 1 คลัสเตอร์ที่สถาบันประสาทวิทยา สายพันธุ์เดลต้าแนวโน้มพุ่งสูง แนะสวมหน้ากาก 2 ชั้น แม้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า ผู้ติดเชื้อใหม่ 5,420 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 4,070 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,305 ราย จากเรือนจำ / ที่ต้องขัง 37 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 294,790 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 3,586 ราย สะสม 227,023 ราย กำลังรักษาอยู่ 65,297 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 32,906 ราย และโรงพยาบาลสนาม 32,391 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 2,350 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 643 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 57 ราย รวมเสียชีวิต 2,333 คน
โฆษกศบค. กล่าวว่า รายละเอียดผู้เสียชีวิต 57 ราย เป็นเพศชาย 35 ราย เพศหญิง 22 ราย อายุ 25-91 ปี อยู่ในพื้นที่กทม.มากที่สุด 33 ราย สมุทรปราการ 4 ราย นครปฐม ระยอง ปทุมธานี ชลบุรี สงขลา สระบุรี จังหวัดละ 2 ราย เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก สมุทรสงคราม นราธิวาส ปัตตานี สกลนคร นครพนม จังหวัดละ 1 ราย โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด มะเร็ง หลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น เป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัว 11 ราย และคนอื่น ๆ 20 ราย ซึ่งยังมากเช่นเดิม และอาศัยและเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด ถึง 15 ราย ไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน อาชีพเสี่ยง
“สำหรับการฉีดวัคซีน จะเน้นการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเพียง 15-1% ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปฉีดเข็มแรก 12.5% รวม 2 กลุ่ม ประมาณ 17.8 ล้านคน ฉีดได้แค่ 2 ล้านกว่าคนยังต่ำมากแต่ยังมีจำนวนน้อยอยู่ ขณะนี้วัคซีนกำลังจะกระจายไปยังทุกที่ในเดือนก.ค.นี้ ฝากว่ากลุ่มอื่น ๆ ขอให้ 2 กลุ่มนี้รับวัคซีนต้น ๆ ก่อน เพื่อให้มีภูมิคุ้มกัน ลดการใช้เตียง ลดการป่วยและเสียชีวิต เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ต้องปรับเดี๋ยวนี้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วน 10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันที่ 6 ก.ค. 2564 คือ 1. กรุงเทพมหานคร 1,492 ราย 2. สมุทรสาคร 398 ราย 3. สมทุรปราการ 318 ราย 4. ชลบุรี 266 ราย 5. ปัตตานี 262 ราย 6. นนทบุรี 242 ราย 7. ปทุมธานร 208 ราย 8. นครปฐม 206 ราย 9. ยะลา 135 ราย 10. สงขลา 132 ราย ส่วนการกระจายตัวของเชื้อในช่วงนี้ พบการกระจายตัวไปในพื้นที่ภาคอีสานเป็นส่วนใหญ่ และพบการติดเชื้อภายในครอบครัวมากขึ้น ในกลุ่มก้อนของผู้ที่เดินทางกลับจากกทม. ดังนั้นการกลับบ้าน กลับภูมิลำเนา ขอให้แยกตัว และกักตัวเอง เพื่อป้องกันการระบาดในครอบครัว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงสถานการณ์ในกทม. มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง 116 แห่ง พบคลัสเตอร์ใหม่ 1 คลัสเตอร์ จากเขตราชเทวีคือสถาบันประสาทวิทยาฯ เนื่องจากมีการทำ Active case finding หรือการค้นหาเชิงรุกในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ทำให้พบผู้ป่วยเพิ่มเติมในกลุ่มที่เป็นพนักงานที่เป็นแรงงานต่างชาติในศูนย์อาหาร และเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์หลายแผนก จำนวน 47 ราย โดยมีคลัสเตอร์ที่ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มในรอบ28 วันเพิ่มขึ้น 2 คลัสเตอร์ รวมอยู่ในระดับสีเขียวแล้ว 29 คลัสเตอร์
โฆษกศบค. กล่าวว่า แนวโน้มในกทม.และปริมณฑลยังพบผู้ป่วยในระดับสูง การพบผู้ป่วยในต่างจังหวัดอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ผลการตรวจหาสายพันธุ์ของเชื้อ พบการติดเชื้อ 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์อัลฟ่าและสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งในส่วนของสายพันธุ์เดลต้า พบว่ากระจายในหลายจังหวัด โดยเริ่มต้นที่กทม. และกระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ จากการเคลื่อนย้ายของแรงงานที่กลับไปยังภูมิลำเนา
“ส่วนสายพันธุ์ที่ยังเป็นกังวล อย่าง สายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) จะพบการกระจุกตัวการแพร่เชื้ออยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และขึ้นมา จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ชลบุรี ในบางพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในการเฝ้าระวังของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และขอให้ทุกคนเฝ้าระวังและปรับตัวมากขึ้น รวมถึงใส่หน้ากาก 2 ชั้น แม้จะฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้วก็ตาม เนื่องจากไวรัสปรับตัวและแพร่พันธุ์เร็ว” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับภาพรวมทั้งในประเทศขณะนี้ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสายพันธุ์อัลฟา เป็นหลัก มีพบสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มขึ้น ในกทม. สายพันธุ์เดลต้ามีจำนวนมากขึ้น ขณะที่ต่างจังหวัด ยังคงเป็นสายพันธุ์อัลฟ่าเป็นส่วนใหญ่ แนวโน้มการพบสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเชื้อเริ่มแพร่จากกรุงเทพมหานคร เขตหลักสี่ และจากการที่รัฐบาลได้มีมาตรการคุมเข้มแคมป์ก่อสร้าง ทำให้คนงานเริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อไปรับการรักษาตัว ดังนั้น ควรเพิ่มและระมัดระวังป้องกันตัวเองให้มากขึ้น เนื่องจากเชื้อระบาดได้เร็วขึ้น แนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ไม่มีอาการและมีอาการเบา การพบผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการรายงานกลุ่มคลัสเตอร์ในต่างจังหวัดที่พบเพิ่มขึ้น ได้แก่สมุทรสาคร อ.เมืองสมุทรสาคร จากโรงงานผ้าอ้อม พบผู้ติดเชื้อ 9 ราย ชลบุรี อ.บางละมุง จากแคมป์ก่อสร้าง พบผู้ติดเชื้อ 12 ราย นนทบุรี อ.ปากเกร็ด จากชุมชนหลังเมเจอร์ พบผู้ติดเชื้อ 44 ราย ปทุมธานี อ.ธัญบุรี จากโรงงานอะลูมิเนียม พบผู้ติดเชื้อ 19 ราย และ อ.ลาดหลุมแก้ว จากโรงงานผลิตภัณฑ์อาหาร พบผู้ติดเชื้อ 15 ราย ตาก อ.แม่สอด จากโรงงานเสื้อผ้า พบผู้ติดเชื้อ 61 ราย
โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก พบยอดผู้ติดเชื้อรวม 184,923,557 ราย อาการรุนแรง 77,740 ราย รักษาหายแล้ว 169,292,139 ราย เสียชีวิต 4,000,520 ราย ส่วนอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 34,598,361 ราย 2. อินเดีย จำนวน 30,618,939 ราย 3. บราซิล จำนวน 18,792,511 ราย4. ฝรั่งเศส จำนวน 5,786,999 ราย 5. รัสเซีย จำนวน 5,635,294 ราย โดยประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 65 จำนวน 294,653 ราย.-สำนักข่าวไทย