ทำเนียบรัฐบาล 5 มิ.ย.-ศบค.ห่วงยอดต้องการเตียงจำนวนมาก เตรียมปรับระบบการรักษาแต่ละระดับสี ส่วนยอดจองห้องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เฉียดแสน คนไทยอาจไม่ได้รับความสะดวก อยู่ในช่วงทดสอบระบบรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. กล่าวว่า วานนี้(4 ก.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้หารือร่วมกับพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) โดยวิเคราะห์ผู้ป่วยที่เสียชีวิตในกรุงเทพฯ จากสถิติพบว่า เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจําตัว
โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในกทม.เป็นคลัสเตอร์ พบ 117 แห่ง ใน 46 เขตส่วนต่างจังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร พบคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานอาหารกระป๋อง 2 แห่ง 13 รายและ 14 ราย โรงงานเสื้อผ้า อ้อมน้อย 53 ราย ชลบุรี บริษัทโลจิสติกส์ศรีราชา 12 รายพระนครศรีอยุธยา ตลาดใหญ่วังน้อย 181 ราย ตาก โรงงานเสื้อผ้า แม่สอด 33 ราย ฉะเชิงเทรา แคมป์ก่อสร้าง 18 ราย
“ที่ประชุมศปก.ศบค. ห่วงใยกรณีผู้ป่วยจำนวนมากต้องการเตียง ซึ่งจะต้องปรับเตียงสีเหลืองและสีแดงให้ใช้อยู่กับโรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ ส่วนผู้ป่วยระดับสีเขียว จะต้องกลับไปแยกกักตัวที่บ้าน (home isolation) หรือ community isolation การแยกจากในชุมชนอีกประมาณ 20 แห่ง ที่จะดำเนินการเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ จะพิจารณาปรับเตียงโดยให้ผู้ป่วยปกติที่ไม่ใช่โควิด19 ที่จะเข้ารักษาตัวที่ห้อง ICU หากรอได้ให้รอไปก่อน เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด19 ที่มีระดับสีเหลืองย้ายเข้าไปอยู่ในวอร์ดไอซียูแทน จะสะดวกกว่า ICU สนาม” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษกศบค. กล่าวว่า มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อังกฤษเพิ่มขึ้น 1.4 เท่า ทำให้ต้องปรับเพื่อขยายเตียงผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดงมากขึ้น และแยกผู้ที่ยังไม่ได้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงออกจากผู้ป่วยให้มากที่สุด ย้ำว่าการฉีดวัคซีนส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตของผู้สูงอายุและผู้ป่วยเจ็บกลุ่มโรคมีสถิติลดลง แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณวัคซีนที่จะเข้ามาด้วย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการเปิดภูเก็ต sandbox mujมีคนติดเชื้อในพื้นที่หลายจุด ซึ่งสื่อมวลชนถามว่าจะมีผลต่อการเดินหน้าโครงการและจะทบทวนหรือไม่ ว่า ได้รับรายงานจากผู้ว่าฯ ภูเก็ต และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตยืนยันว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ค.มีคนติดเชื้อ 4 ราย วันที่ 2 ก.ค.7 ราย วันที่ 3 ก.ค. 2 และวันที่ 4 ก.ค. 2 ราย ซึ่งตัวเลขที่เกิดขึ้นไม่ได้สูงขึ้น รักษาหายไปแล้ว 703 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 48 รายเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา 4 วันมีชาวต่างชาติเข้าพัก 1,416 คนไทยที่มาจากต่างประเทศ 477 รวม 1,893 ตรวจไม่พบเชื้อ 1,764 รอผลอีก 129 จำนวนเที่ยวบินมี 20 เที่ยว
“ส่วนมาตรการการดูแลคนที่มาจากต่างประเทศ ต้องมีใบรับรองตามมาตรการอยู่แล้ว ส่วนคนไทยที่จะเดินทางเข้าภูเก็ต ทางคณะกรรมการโรคติดต่อได้ออกข้อกำหนดเหมือนกัน ต้องขออภัยในความไม่สะดวกในตอนนี้ ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็มใน 14 วัน เพื่อที่จะรักษาเกาะให้คลีน นอกจากนี้มีคนขับยานพาหนะ 1,756 คันไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ แต่ผ่านเข้าไปได้ 22,000 กว่าคัน รวมแล้ว 4,1524 คันและไม่ผ่านเพราะไม่ได้ฉีดวัคซีน 2,889 คน ดังนั้น ภูเก็ตพยายามเดินหน้าต่อไป แม้ภาพรวมการติดเชื้อของคนทั้งประเทศจำนวนมาก แต่ภูเก็ตจะะดูแลในจังหวัดของเขา” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมของการจองห้อง 7,347 พักค้างคืน 90,861 คืน ที่ป่าตองมากที่สุด ดังนั้น ช่วงเวลานี้เป็นการทดสอบของเกาะภูเก็ตที่ควบคุมการเข้าออก เพื่อความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยว เพื่อจะได้ดูว่าโมเดลอย่างนี้สามารถขับเคลื่อนต่อได้หรือไม่ ซึ่งถ้าทำได้ดีเกาะสมุย เกาะพงันรออยู่ เพื่อใช้ภาพเดียวกันในการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมา และจะได้เป็นนิวนอมอลจริง.-สำนักข่าวไทย