“กรณ์” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ เสนอ 6 ข้อรับมือโควิด

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – “กรณ์” ทำจดหมายเปิดผนึกถึง “บิ๊กตู่” ออก 6 ข้อเสนอรับมือโควิด-19 ส่งต่อคนไข้เคสสีเหลืองไป รพ.ตจว., เพิ่มเจ้าหน้าที่รับสายตอบไลน์, สายด่วนต้องโทรฟรี, เปิดระบบลงทะเบียนคนไข้กลับบ้านทุกจังหวัด ป้องกันการระบาด, ฉีดวัคซีนให้อาสา กู้ภัย มูลนิธิ, ส่งยา อาหาร น้ำ หน้ากาก ให้ผู้กักตัวที่บ้าน


นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับข้อเสนอการรับมือโควิด-19 ว่า การเข้าถึงเตียงรักษาพยาบาลในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตอนนี้วิกฤติอย่างมาก ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ กลุ่มกล้าอาสาหาเตียงของพรรคกล้า ได้รับคำขอความช่วยเหลือหาเตียงให้ผู้ป่วยโควิดมากที่สุด ตั้งแต่เริ่มรับอาสาตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีผู้รอเตียงนานหลายวันจนเสียชีวิต เพราะไม่ได้รับการรักษา จากประสบการณ์ตรงของพวกเรา ขอเสนอประเด็นให้รัฐบาลพิจารณา เพื่อการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ป่วยโควิด-19 จะได้เข้ารับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้แก่

1.) ต้องมี “ระบบการส่งต่อคนไข้เคสสีเหลืองไปโรงพยาบาลต่างจังหวัด” อย่างมีประสิทธิภาพ ตามกฎการส่งต่อต้องอาศัยการประสานโดยโรงพยาบาลต้นสังกัด แต่ผู้ป่วยหลายคนเข้าไม่ถึง รวมทั้งสาธารณสุขพื้นที่ก็ยังไม่มีนโยบายให้ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง


ตอนนี้เคสสีเหลืองคือต้นตอของปัญหาคอขวด เพราะไป Hospitel ก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่วิกฤติถึงขั้นที่จะรับเข้าโรงพยาบาล จึงมีเคสสีเหลืองติดอยู่ที่บ้านจำนวนมาก และเป็นตัวการหลักในการแพร่เชื้อสู่ชุมชน การประสานและส่งต่อไปโรงพยาบาลในจังหวัดใกล้เคียง เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรีบพิจารณา เพราะคนไข้เคสเหลืองและเหลืองปนแดงเหล่านี้ มีโอกาสเปลี่ยนเป็นสีแดง อาการวิกฤติมากขึ้น จนเกิดความสูญเสียอีกมาก

2.) “เพิ่มจำนวนบุคลากร” รับสาย 1330, 1668, 1669, 1646 และไลน์ 1668.register, @sabaideebot เพื่อให้ผู้ป่วยหรือญาติสามารถลงทะเบียนข้อมูลจองเตียงได้สะดวกขึ้น เพราะสองวันนี้เวลาเฉลี่ยในการรอสายเกินกว่า 40 นาที และต้องเพิ่มข้อมูลให้บุคลากรรับสายสามารถช่วยผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที ต้องพัฒนาระบบติดตามผล ป้องกันการตกหล่น โดยรวมฐานข้อมูลของทุกเบอร์ Call Center เข้าด้วยกัน

และควรมีเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่ง ให้ข้อมูลการดูแลตัวเองที่บ้าน แนะนำการแยกตัวออกจากผู้อื่น และการรักษาอาการเบื้องต้น เพื่อให้ผู้ป่วยที่อาการน้อย สามารถบรรเทาอาการตัวเองที่บ้านได้และไม่กระจายเชื้อเพิ่ม การได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่และรับข้อมูลที่เชื่อถือได้ จะช่วยบรรเทาความกังวลของผู้ป่วยและญาติได้มาก


3.) สายด่วนจำเป็นอย่างยิ่งต้อง “โทรฟรีทุกเบอร์” จากทุกเครือข่ายและจากทุกปลายทาง อาสาของเราในต่างจังหวัดที่ช่วยโทรประสานหาเตียง เจอประสบการณ์รอสายจนเงินในโทรศัพท์หมด อย่าให้การโทรลงทะเบียนหาเตียงเป็นภาระเรื่องเงินกับผู้ป่วยอีกเลย

4.) ช่วงนี้ผู้ติดเชื้อและผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ทยอยเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาในต่างจังหวัด หวังจะได้รับการรักษามากขึ้นเรื่อยๆ อัตราการแพร่ระบาดในต่างจังหวัดจะเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะจะไม่มีทางทราบเลยว่าใครเดินทางไปที่ไหนบ้าง รัฐบาลควรต้อง :

  • เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแจ้งความประสงค์กลับไปรักษายังภูมิลำเนา เพื่อจะได้มีข้อมูลผู้ติดเชื้อที่ชัดเจน สามารถส่งตัวได้อย่างปลอดภัย ไม่เกิดความเสี่ยงแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่น แม้ปัจจุบันมีบางจังหวัดเริ่มเปิดลงทะเบียนในลักษณะนี้แล้ว แต่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนน้อย เมื่อเทียบกับภาพรวมทั้งประเทศ
  • ต้องประกาศเป็นนโยบายระดับประเทศ เพื่อให้แต่ละจังหวัดปฏิบัติในรูปแบบเดียวกันอย่างเคร่งครัด
  • รัฐบาลต้องรีบจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานและโรงพยาบาลในจังหวัด เพราะทุกการส่งต่อผู้ป่วย มีภาระค่าใช้จ่ายที่สูง

5.) รัฐบาลต้องดูแลการ “ฉีดวัคซีนและจัดอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมให้กับกลุ่มอาสาสมัคร กู้ภัย และมูลนิธิ” ที่ทำหน้าที่รับส่งผู้ป่วยอยู่ตลอดเวลา แทบไม่ได้พัก กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ รวมไปถึงหัวหน้าชุมชนที่คอยประสานงาน รวมถึงดูแลคนป่วยในพื้นที่ สิ่งที่จำเป็น ได้แก่ ชุด PPE Medical Grade ที่มีคุณสมบัติป้องกันการติดเชื้อได้, ถุงครอบรองเท้ายาว, แว่น Goggle, Face Shield, หน้ากากอนามัย Medical Grade รัฐควรจัดหาเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วให้กับทุกชุมชน เพื่อติดตามอาการและส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยแม่นยำมากขึ้น

6.) การดูแลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ได้รับผลติดเชื้อ เนื่องจากศักยภาพการรักษาในโรงพยาบาลจำกัดมาก รัฐบาลควรสร้างระบบติดตามอาการ ลงทะเบียนพิกัดจัดส่งอาหาร น้ำ และอุปกรณ์จำเป็นในการดูแลตัวเอง รวมถึงยาต้านไวรัส ให้ผู้ป่วยกักตัวที่บ้าน โดยแยกเป็น

  • เคสสีเขียว อาการไม่หนัก ไม่มีโรคประจำตัว เมื่อรู้ผลควรได้รับหน้ากาก N-95 สำหรับผู้ป่วยและคนในบ้าน แอลกอฮอล์/น้ำยาทำความสะอาดสำหรับฉีดพ่นพื้นที่สัมผัสร่วมในบ้านเรือน
  • เคสสีเหลือง กรณีผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูงมีโรคประจำตัว หรือเริ่มมีอาการระบบทางเดินหายใจมากขึ้น ควรมีที่วัดออกซิเจนปลายนิ้วให้ผู้ป่วยด้วย ซึ่งสามารถส่งคืนกลับมาใช้ในระบบเมื่อหายดีแล้ว

หากข้อเสนอของเราจะเป็นประโยชน์ในทางใดก็ตาม ผมและทีมงานกล้าอาสาทุกคน ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีนำข้อเสนอเหล่านี้ ซึ่งเป็นข้อเสนอโดยตรงจากการลงมือทำหน้างานไปปรับใช้โดยด่วน

พวกเราจากพรรคกล้าพยายามทุกทางในการบรรเทาความเดือนร้อนของผู้คนเท่าที่เราจะทำได้ในกำลังที่เรามี และจะทำหน้าที่ของเราเพื่อช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤติฉุกเฉินต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย