โฆษก ศบศ. ปลื้มคนแห่ใช้สิทธิมาตรการลดค่าครองชีพ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- โฆษก ศบศ. ปลื้มประชาชนแห่ใช้สิทธิมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แนะระวังการใช้จ่ายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ


นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. กล่าวว่า หลังจากที่มีการเปิดใช้โครงการคนละครึ่งไปแล้ว 2 วัน บรรยากาศการใช้สิทธิโครงการต่างๆ เริ่มคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในต่างจังหวัด มีประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยตามสิทธิที่ได้รับในแต่ละโครงการ ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าต่างบอกว่า ช่วยกระตุ้นให้ขายของได้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ผู้ประกอบกิจการ ผู้ค้าขาย และประชาชนหลายฝ่ายเห็นว่า โครงการทั้ง 4 เป็นโครงการที่ดี ทำให้ประชาชนมีกำลังจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นในช่วงที่กำลังลำบากกัน ในส่วนของผู้ประกอบกิจการร้านค้าก็จะได้รับเงินจากประชาชนที่เข้าร่วมโครงการที่มาจับจ่ายใช้สอย ทำให้ธุรกิจสามารถหมุนเวียนต่อไปได้

โฆษก ศบศ. กล่าวต่อว่า มาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ระหว่างวันที่ 1 และ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีผู้มาใช้สิทธิซื้อสินค้าและบริการต่างๆ แล้ว รวมกว่า 14 ล้านราย และมียอดใช้จ่ายกว่า 3.6 พันล้านบาท โดยแต่ละโครงการมีการใช้จ่ายแล้ว ดังนี้ 1.โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิแล้ว จำนวน 7.6 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายรวม 2,230 ล้านบาท 2.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 7,867 ราย โดยเป็นยอดการใช้จ่ายรวม 25 ล้านบาท 3.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 6.6 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 1,308 ล้านบาท และ 4.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิจำนวนกว่า 1.9 แสนราย มียอดการใช้จ่ายรวม 37 ล้านบาท


ทั้งนี้การใช้สิทธิซื้อสินค้าและบริการระหว่างประชาชนผู้ใช้สิทธิและร้านค้าจะต้องเป็นการจ่ายเงินแบบ face-to-face หรือแบบพบหน้าเท่านั้น และต้องไม่มีกระบวนการใดๆ รองรับการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใดที่เป็นการหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว เช่น การนำ QR Code ไปคัดลอกส่งต่อแก่บุคคลอื่นเพื่อสแกนจ่ายเงิน จึงขอให้ทั้งร้านค้าและประชาชนระมัดระวังการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งประชาชนสามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน