ยอดโควิดยังสูง สั่ง กทม.ตั้งศูนย์กักตัวในชุมชน แก้ปัญหาเตียงวิกฤติ

ทำเนียบฯ 2 ก.ค.- ศบค.เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง 6,087 ราย ตาย 61 ราย กทม.ยังพบป่วยสูงสุด 2,267 ราย ตาย 28 ราย เจอคลัสเตอร์ใหม่ 2 แห่ง ในเขตคลองเตยและหนองแขม เป็นแคมป์ก่อสร้าง โรงงานผลิตกระสอบ พบผู้ติดเชื้อรวม 113 ราย ต่างจังหวัดเจออีก 7 แห่ง 5 จังหวัด ทั้งตลาด โรงงานลูกชิ้น ศูนย์พัฒนาเด็ก ขณะที่นายกฯ สั่ง กทม. ตั้งศูนย์กักกันคนติดโควิดในชุมชน แก้ปัญหาเตียงใน กทม.วิกฤติ


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 6,087 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 6,076 ราย แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 3,905 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 1,964 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 207 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 11 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 270,921 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 61 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 2,141 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 3,638 ราย รวมยอดรักษาหาย 214,340 ราย ยังรักษาอยู่ 54,440 ราย เป็นการรักษาอยู่ใน รพ. 26,025 ราย รพ.สนาม 28,415 ราย ทั้งนี้ มีผู้ป่วยอาการหนัก 2,002 ราย ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 579 ราย เฉพาะการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-2 ก.ค.64 พบผู้ป่วยรายใหม่ 6,087 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 242,058 ราย รักษาหายเพิ่ม 3,638 ราย รวมรักษาหายแล้ว 186,914 ราย ยังรักษาอยู่ 54,440 ราย เสียชีวิต 61 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 2,047 ราย

สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 61 ราย เป็นเพศชาย 29 ราย เพศหญิง 32 ราย อายุ 30-90 ปี โดยเป็นผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป คิดเป็น 70% อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 28 ราย นนทบุรี 9 ราย สมุทรปราการ 8 ราย ปัตตานี 5 ราย ยะลา ปทุมธานี นราธิวาส จังหวัดละ 3 ราย เชียงราย สงขลา นครปฐม นครนายก พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด อ้วน มะเร็ง หลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัวและคนอื่นๆ มากเช่นเดิม อาศัยและเดินทางเข้าไปในสถานที่ระบาด ไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน อาชีพเสี่ยง


ส่วน 10 อันดับจังหวัดที่พบผู้ป่วยภายในประเทศสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร 2,267 ราย อันดับ 2 สมุทรปราการ 522 ราย อันดับ 3 นนทบุรี 327 ราย อันดับ 4 สมุทรสาคร 289 ราย อันดับ 5 ปทุมธานี 284 ราย อันดับ 6 ชลบุรี 222 ราย อันดับ 7 ยะลา 201 ราย อันดับ 8 ปัตตานี 169 ราย อันดับ 9 สงขลา 167 ราย อันดับ 10 นราธิวาส 124 ราย

ส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ใน กทม. 28 ราย นนทบุรี 9 ราย สมุทรปราการ 8 ราย ปัตตานี 5 ราย ปทุมธานี นราธิวาส จังหวัดละ 3 ราย และเชียงราย สงขลา นครปฐม นครนายก พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย ค่ากลางของอายุอยู่ที่ 67 ปี โดยผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสัดส่วนสูงถึง 70% และปัจจัยเสี่ยงยังมาจากโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต หัวใจ โรคอ้วน ส่วนปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อส่วนใหญ่ยังมาจากคนในครอบครัว

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงคลัสเตอร์ใหม่ในกรุงเทพฯ ว่า วันนี้ (2 ก.ค.) พบที่เขตคลองเตย เป็นแคมป์ก่อสร้าง ซอยสุขุมวิท 50 พบผู้ติดเชื้อจำนวน 43 ราย และที่เขตหนองแขม เป็นโรงงานผลิตกระสอบพลาสติก พบผู้ติดเชื้อแล้ว 70 ราย จากการตรวจคัดกรองพนักงาน จำนวน 1,300 ราย หรือคิดเป็น 5.38%


“ตรงนี้สะท้อนให้เห็นภาพว่า นอกจากการบริหารจัดการเตียง กทม.ยังคงเน้นย้ำในเรื่องของการค้นหาเชื้อ คัดกรองเชิงรุกในชุมชนอย่างต่อเนื่องด้วย จากตัวเลขของ กทม.ที่วันนี้มีการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ จำนวน 2,267 ราย ในที่ประชุมของ ศบค.ชุดเล็ก รวมทั้ง EOC ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์แพทย์ หลายๆ สาขามีความเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อมีจำนวนมาก เทียบกับผู้ป่วยกลับบ้าน คือ เตียงที่ได้คืนมาจากคนกลับบ้านนั้น มีสัดส่วนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน” พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ผอ.ศบค. มีความเป็นห่วงกรณีที่ผู้ป่วยต้องรอเตียงที่บ้าน และอาจทำให้เกิดภาวะที่รุนแรงและทรุดลง จึงได้มีการสั่งการให้ทุกพื้นที่ ในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้มีการหารือเรื่องการจัดการผู้ป่วยเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการเตียงที่มีจำกัดในทุกเขตของกรุงเทพมหานคร และในสัปดาห์นี้จะมี 2 มาตรการสำคัญ ซึ่งที่ประชุมพูดถึง คือ การแยกกักกันในชุมชน หรือ community isolation คือ จะมีการเตรียมสถานที่แยกกักตัวในชุมชน ระหว่างที่ทราบผลว่าเป็นผู้ติดเชื้อแล้ว และอยู่ระหว่างรอการจัดสรรเตียง โดย กทม.จะเร่งรัดจัดการให้เร็วที่สุด ให้มี community isolation ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ (2 ก.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. จะมีการประชุมหารือ โดยกรมการแพทย์จะนำเสนอแนวทางการปฏิบัติ และมาตรการในการดูแลผู้ป่วย มาตรการดูแลตนเองในชุมชนอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปสู่คนอื่นหรือคนใกล้ชิด

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม EOC ของกระทรวงสาธารณสุข โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้พูดถึงศักยภาพในการเพิ่มเตียง โดยจะมีการเพิ่มทั้งสีเขียว เหลือง แดง ซึ่งในส่วนของ รพ.บุษราคัม ก็จะสามารถเปิดดำเนินการได้ทันที ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ปฐมนิเทศแพทย์จบใหม่สาขาต่างๆ 144 คน ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมกำลังดูแลสถานการณ์ใน กทม.

ส่วนคลัสเตอร์ใหม่ในต่างจังหวัด พญ.อภิสมัย กล่าวว่า พบเพิ่มขึ้นทั้งหมด 7 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ เป็นโรงงานเฟอร์นิเจอร์ พบเมื่อ 1 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 22 ราย, นนทบุรี ตลาดเทศบาล พบเมื่อ 1 ก.ค. พบผู้ติดเชื้อ 43 ราย และ อ.ปากเกร็ด ตลาดพิชัย พบเมื่อ 1 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 75 ราย, สมุทรสาคร อ.เมืองสมุทรสาคร 1. บริษัทผลิตภัณฑ์พลาสติก มีผู้ติดเชื้อ 12 ราย อ.กระทุ่มแบน โรงงานลูกชิ้น พบเมื่อ 1 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 11 ราย, สุราษฎร์ธานี อ.พุนพิน แคมป์ก่อสร้าง พบเมื่อ 1 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 11 ราย และขอนแก่น อ.สีชมพู ศูนย์พัฒนาเด็ก พบเมื่อ 1 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 45 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ส่วนผู้รับวัคซีน ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 1 กรกฎาคม 2564 มีผู้รับวัคซีนสะสมทั้งหมด จำนวน 10,227,183 โดส ทั้งนี้ ยังไม่รวมกับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม จึงต้องขอความร่วมมือศูนย์ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ให้ลงข้อมูลใน MOPH IC เพื่อรวมในยอดรวมประเทศ

ส่วนจังหวัดที่ได้รับวัคซีนจำนวนมากอย่างเห็นได้ชัด คือ ภูเก็ต ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 384,674 ราย คิดเป็น 70.25% และได้รับครบ 2 เข็มแล้ว 307,163 ราย คิดเป็น 56.09% รองลงมา คือ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ฉีดไปแล้ว 125,229 ราย คิดเป็น 59.32% แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 74,285 โดส และครบ 2 เข็มแล้ว 52,789 โดส

“ตัวเลขของเกาะสมุยขยับขึ้นเร็ว เพื่อรองรับนโยบายสมุยโมเดล ที่เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” พญ.อภิสมัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]