ยอดโควิดยังสูง สั่ง กทม.ตั้งศูนย์กักตัวในชุมชน แก้ปัญหาเตียงวิกฤติ

ทำเนียบฯ 2 ก.ค.- ศบค.เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง 6,087 ราย ตาย 61 ราย กทม.ยังพบป่วยสูงสุด 2,267 ราย ตาย 28 ราย เจอคลัสเตอร์ใหม่ 2 แห่ง ในเขตคลองเตยและหนองแขม เป็นแคมป์ก่อสร้าง โรงงานผลิตกระสอบ พบผู้ติดเชื้อรวม 113 ราย ต่างจังหวัดเจออีก 7 แห่ง 5 จังหวัด ทั้งตลาด โรงงานลูกชิ้น ศูนย์พัฒนาเด็ก ขณะที่นายกฯ สั่ง กทม. ตั้งศูนย์กักกันคนติดโควิดในชุมชน แก้ปัญหาเตียงใน กทม.วิกฤติ


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 6,087 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 6,076 ราย แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 3,905 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 1,964 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 207 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 11 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 270,921 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 61 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 2,141 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 3,638 ราย รวมยอดรักษาหาย 214,340 ราย ยังรักษาอยู่ 54,440 ราย เป็นการรักษาอยู่ใน รพ. 26,025 ราย รพ.สนาม 28,415 ราย ทั้งนี้ มีผู้ป่วยอาการหนัก 2,002 ราย ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 579 ราย เฉพาะการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-2 ก.ค.64 พบผู้ป่วยรายใหม่ 6,087 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 242,058 ราย รักษาหายเพิ่ม 3,638 ราย รวมรักษาหายแล้ว 186,914 ราย ยังรักษาอยู่ 54,440 ราย เสียชีวิต 61 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 2,047 ราย

สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 61 ราย เป็นเพศชาย 29 ราย เพศหญิง 32 ราย อายุ 30-90 ปี โดยเป็นผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป คิดเป็น 70% อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 28 ราย นนทบุรี 9 ราย สมุทรปราการ 8 ราย ปัตตานี 5 ราย ยะลา ปทุมธานี นราธิวาส จังหวัดละ 3 ราย เชียงราย สงขลา นครปฐม นครนายก พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด อ้วน มะเร็ง หลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัวและคนอื่นๆ มากเช่นเดิม อาศัยและเดินทางเข้าไปในสถานที่ระบาด ไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน อาชีพเสี่ยง


ส่วน 10 อันดับจังหวัดที่พบผู้ป่วยภายในประเทศสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร 2,267 ราย อันดับ 2 สมุทรปราการ 522 ราย อันดับ 3 นนทบุรี 327 ราย อันดับ 4 สมุทรสาคร 289 ราย อันดับ 5 ปทุมธานี 284 ราย อันดับ 6 ชลบุรี 222 ราย อันดับ 7 ยะลา 201 ราย อันดับ 8 ปัตตานี 169 ราย อันดับ 9 สงขลา 167 ราย อันดับ 10 นราธิวาส 124 ราย

ส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ใน กทม. 28 ราย นนทบุรี 9 ราย สมุทรปราการ 8 ราย ปัตตานี 5 ราย ปทุมธานี นราธิวาส จังหวัดละ 3 ราย และเชียงราย สงขลา นครปฐม นครนายก พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย ค่ากลางของอายุอยู่ที่ 67 ปี โดยผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสัดส่วนสูงถึง 70% และปัจจัยเสี่ยงยังมาจากโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต หัวใจ โรคอ้วน ส่วนปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อส่วนใหญ่ยังมาจากคนในครอบครัว

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงคลัสเตอร์ใหม่ในกรุงเทพฯ ว่า วันนี้ (2 ก.ค.) พบที่เขตคลองเตย เป็นแคมป์ก่อสร้าง ซอยสุขุมวิท 50 พบผู้ติดเชื้อจำนวน 43 ราย และที่เขตหนองแขม เป็นโรงงานผลิตกระสอบพลาสติก พบผู้ติดเชื้อแล้ว 70 ราย จากการตรวจคัดกรองพนักงาน จำนวน 1,300 ราย หรือคิดเป็น 5.38%


“ตรงนี้สะท้อนให้เห็นภาพว่า นอกจากการบริหารจัดการเตียง กทม.ยังคงเน้นย้ำในเรื่องของการค้นหาเชื้อ คัดกรองเชิงรุกในชุมชนอย่างต่อเนื่องด้วย จากตัวเลขของ กทม.ที่วันนี้มีการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ จำนวน 2,267 ราย ในที่ประชุมของ ศบค.ชุดเล็ก รวมทั้ง EOC ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์แพทย์ หลายๆ สาขามีความเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อมีจำนวนมาก เทียบกับผู้ป่วยกลับบ้าน คือ เตียงที่ได้คืนมาจากคนกลับบ้านนั้น มีสัดส่วนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน” พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ผอ.ศบค. มีความเป็นห่วงกรณีที่ผู้ป่วยต้องรอเตียงที่บ้าน และอาจทำให้เกิดภาวะที่รุนแรงและทรุดลง จึงได้มีการสั่งการให้ทุกพื้นที่ ในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้มีการหารือเรื่องการจัดการผู้ป่วยเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการเตียงที่มีจำกัดในทุกเขตของกรุงเทพมหานคร และในสัปดาห์นี้จะมี 2 มาตรการสำคัญ ซึ่งที่ประชุมพูดถึง คือ การแยกกักกันในชุมชน หรือ community isolation คือ จะมีการเตรียมสถานที่แยกกักตัวในชุมชน ระหว่างที่ทราบผลว่าเป็นผู้ติดเชื้อแล้ว และอยู่ระหว่างรอการจัดสรรเตียง โดย กทม.จะเร่งรัดจัดการให้เร็วที่สุด ให้มี community isolation ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ (2 ก.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. จะมีการประชุมหารือ โดยกรมการแพทย์จะนำเสนอแนวทางการปฏิบัติ และมาตรการในการดูแลผู้ป่วย มาตรการดูแลตนเองในชุมชนอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปสู่คนอื่นหรือคนใกล้ชิด

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม EOC ของกระทรวงสาธารณสุข โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้พูดถึงศักยภาพในการเพิ่มเตียง โดยจะมีการเพิ่มทั้งสีเขียว เหลือง แดง ซึ่งในส่วนของ รพ.บุษราคัม ก็จะสามารถเปิดดำเนินการได้ทันที ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ปฐมนิเทศแพทย์จบใหม่สาขาต่างๆ 144 คน ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมกำลังดูแลสถานการณ์ใน กทม.

ส่วนคลัสเตอร์ใหม่ในต่างจังหวัด พญ.อภิสมัย กล่าวว่า พบเพิ่มขึ้นทั้งหมด 7 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ เป็นโรงงานเฟอร์นิเจอร์ พบเมื่อ 1 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 22 ราย, นนทบุรี ตลาดเทศบาล พบเมื่อ 1 ก.ค. พบผู้ติดเชื้อ 43 ราย และ อ.ปากเกร็ด ตลาดพิชัย พบเมื่อ 1 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 75 ราย, สมุทรสาคร อ.เมืองสมุทรสาคร 1. บริษัทผลิตภัณฑ์พลาสติก มีผู้ติดเชื้อ 12 ราย อ.กระทุ่มแบน โรงงานลูกชิ้น พบเมื่อ 1 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 11 ราย, สุราษฎร์ธานี อ.พุนพิน แคมป์ก่อสร้าง พบเมื่อ 1 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 11 ราย และขอนแก่น อ.สีชมพู ศูนย์พัฒนาเด็ก พบเมื่อ 1 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 45 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ส่วนผู้รับวัคซีน ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 1 กรกฎาคม 2564 มีผู้รับวัคซีนสะสมทั้งหมด จำนวน 10,227,183 โดส ทั้งนี้ ยังไม่รวมกับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม จึงต้องขอความร่วมมือศูนย์ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ให้ลงข้อมูลใน MOPH IC เพื่อรวมในยอดรวมประเทศ

ส่วนจังหวัดที่ได้รับวัคซีนจำนวนมากอย่างเห็นได้ชัด คือ ภูเก็ต ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 384,674 ราย คิดเป็น 70.25% และได้รับครบ 2 เข็มแล้ว 307,163 ราย คิดเป็น 56.09% รองลงมา คือ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ฉีดไปแล้ว 125,229 ราย คิดเป็น 59.32% แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 74,285 โดส และครบ 2 เข็มแล้ว 52,789 โดส

“ตัวเลขของเกาะสมุยขยับขึ้นเร็ว เพื่อรองรับนโยบายสมุยโมเดล ที่เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” พญ.อภิสมัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]

พนังกั้นน้ำขาด ทะลักท่วมนาข้าว-ถนนถูกตัดขาด

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – ผลพวงอุทกภัยจากพายุหนองฟ้า ทำพนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทรุดตัวและขาด ส่งผลมวลน้ำทะลักท่วมนาข้าวเกือบพันไร่ เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ภาพนาทีน้ำจากตอนบนในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ทำให้พนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ ถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดและขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร และเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน 3 ตำบล คือ ต.ขวาว, ต.นางาม และ ต.นางาม ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต้องระดมเครื่องจักรกล ถุงบิ๊กแบ็ก เข้าอุดพนังที่ขาด เพราะวิตกว่ามวลน้ำจำนวนมากจะทำให้นาข้าวที่กำลังหว่านปุ๋ยรับรวง จำนวนเกือบ 1,000 ไร่ เสียหาย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเสริมกั้นน้ำ นำถุงบิ๊กแบ็ก 280 ถุง เข้า จัดวาง […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย