ขอทุกจังหวัดตรวจเข้มกันโควิดแพร่

ทำเนียบรัฐบาล 1 ก.ค.-ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มใน 71 จังหวัด เหตุเดินทางข้ามจังหวัด วอนทุกจังหวัดตรวจเข้ม ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,533 ราย เสียชีวิต 57 ราย


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้(1 ก.ค.) 5,533 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,788 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,689 ราย จากเรือนจำ / ที่ต้องขัง 44 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 12 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 235,971 ราย หายป่วยวันนี้ 3,223 ราย เสียชีวิต 57 ราย ผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ 52,052 ราย แบ่งเป็นป่วยรักษาในโรงพยาบาล 24,454 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนาม 27,598 ราย อาการหนัก 1,971 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 566 ราย

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมีจำนวน 71 จังหวัด มีเพียง 4 จังหวัด ที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการเดินทางข้ามพื้นที่ จะเห็นได้ว่าในหนึ่งสัปดาห์ จังหวัดที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เป็นผู้ที่เดินทางจาก กทม. และปริมณฑล ทำให้เกิดยอด การติดเชื้อไปยังจังหวัดปลายทางถึง 32 จังหวัด ในภาคเหนือ 20 ราย ภาคกลาง 23 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 84 ราย และภาคใต้ 2 ราย แต่ละพื้นที่จึงมีประกาศให้เฝ้าระวังเพื่อกักตัว โดยเฉพาะการเดินทางกลับไปยังบ้านที่มีผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ผู้ที่เดินทางกลับไปจึงควรต้องกักตัวและไม่ไปที่ชุมชน และเข้มงวดมาตรการ


“โรงพยาบาลปลายทางที่มีผู้เข้าไปรับการรักษา จะต้อง ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในทุกราย ที่มีอาการปอดอักเสบ มีไข้และไอ และผู้เข้าไปรับการรักษาขอให้ความร่วมมืออย่าปกปิดข้อมูล สำหรับ 10 จังหวัด ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ กทม. 1,960 ราย สมุทรปราการ 435 ราย ปทุมธานี 321 ราย สมุทรสาคร 298 ราย สงขลา 272 ราย ชลบุรี 261 ราย นครปฐม 231 ราย นนทบุรี 224 ราย ปัตตานี 180 ราย และยะลา 136 ราย โดยพบคลัสเตอร์ใหม่ที่จังหวัดนครปฐม พบที่โรงงานไก่ อำเภอดอนตูม จำนวน 104 ราย และที่จังหวัดสระแก้ว พบที่วิทยาลัยเทคนิค อำเภอวังน้ำเย็น จำนวน 11 ราย” พญ.อภิสมัย กล่าว

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนผู้เสียชีวิต 57 ราย ในกทม. 34 ราย สมุทรปราการ 9 ราย ปทุมธานี 3 ราย นครปฐม นครนายก จังหวัดละ 2 ราย เชียงราย ชัยภูมิ สงขลา นครศรีธรรมราช นราธิวาส สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี จังหวัดละ 1 ราย ซึ่งพบว่า ผู้เสียชีวิตร้อยละ 65 อายุเกิน 60 ปี การติดเชื้อยังเป็นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 3 โรคหลัก คือ ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ทาง ศบค.ได้เน้นย้ำ เร่งระดมฉีดวัคซีนให้ผู้มีความเสี่ยงสูง คือ ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี และมีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคหลัก

“ยอดในเดือนมิถุนายน พบผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี จำนวน 12,000,000 คนทั่วประเทศเข้ารับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 1.33 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 10.7 ส่วนกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 โรคหลัก มีจำนวน 5.35 ล้านคน ฉีดวัคซีนไปแล้ว 680,000 คน ร้อยละ 12.7 ยอดการฉีดวัคซีนวานนี้ ( 30 มิ.ย.) ทั่วประเทศ 254,992 โดส เข็มที่ 1 จำนวน 200,685 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 54,307 ราย รวมยอดสะสมผู้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 7,110,854 ราย ผู้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 2,816,844 ราย รวมมีผู้ฉีดวัคซีนแล้ว 9,927,698 โดส จะพบว่า กทม. มีผู้ฉีดวัคซีนมากที่สุด รองลงมาคือสมุทรสาคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี และนครปฐม ซึ่งกลุ่มจังหวัดเหล่านี้อยู่ในกลุ่มพื้นที่ระบาดสีแดงเข้ม ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กจะ พิจารณากระจายวัคซีนให้จังหวัดนครปฐมเพิ่มขึ้น” พญ. อภิสมัย กล่าว


ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อที่เดินทางไปต่างประเทศ 12 ราย มาจากมัลดีฟส์ 1 ราย เมียนมา 2 ราย และ กัมพูชา 9 ราย โดยขอเรียนย้ำคนไทยที่เดินทางผ่านทางช่องทางธรรมชาติ มาจากเมียนมา 2 ราย กัมพูชา 9 ราย 7 รายเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งกลุ่มที่ใช้ช่องทางธรรมชาติพบว่ามีอาการตั้งแต่ตรวจพบในวันแรก ถ้าไม่สามารถสกัดจับได้ก็จะมีการแพร่กระจายไปยังครอบครัว ผู้ใกล้ชิดของบุคคลเหล่านี้ ส่วนการติดเชื้อทั่วโลกประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือ อเมริกา อินเดีย บราซิล อังกฤษ โดยจะเห็นได้ว่าอังกฤษซึ่งมีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนประชากร ยังพบมีการแพร่ระบาดและล็อกดาว ทั้งนี้ในส่วนของประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 72 ของโลก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]