ห่วงแผนเปิดประเทศ รัฐต้องชัดเจน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค.-เพื่อไทยจี้นายกฯ เร่งปล่อยกู้ 0% ธุรกิจท่องเที่ยว ห่วงแผนเปิดประเทศถ้าไม่แน่นอนจะยิ่งเสียหาย แนะ จัดหาวัคซีนคุณภาพเร่งกระจายให้ครบถ้วนโดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว


นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการคณะทำงานเศรษฐกิจ และประธานอนุกรรมการนโยบายด้านการท่องเที่ยวพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นห่วงธุรกิจท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก เพราะขนาดปีที่แล้วว่าแย่หนักแล้ว แต่พอโควิดระบาดระลอกใหม่นี้ ทำให้การท่องเที่ยวยิ่งทรุดหนัก ตัวเลขสะสม 5 เดือนตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค.64 ในภาพรวมประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพียง 1.25 แสนล้านบาท ติดลบถึง – 35.07% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน แยกเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 34,753 คน ติดลบ 99.48% และไทยเที่ยวไทย 23.60 ล้านคน ติดลบ 7.82% ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวที่แย่อยู่แล้วยิ่งทรุดลงหนัก และยังไม่รู้เลยว่าจะฟื้นกลับมาได้อีกเมื่อไหร่ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่ากว่าการท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นน่าจะเป็นปี 2566 หรืออีกปีครึ่งเลย ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเข้ามาช่วยให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทยสามารถประคองต้วได้ไปก่อนที่การท่องเที่ยวไทยจะเข้าสู่ภาวะปกติ

นายจักรพล กล่าวว่า แนวทางการให้ซอฟท์โลน 0% แก่ภาคธุรกิจ ที่คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยเสนอไว้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และพล.อ.ประยุทธ์เพิ่งจะนำมาใช้ จึงเป็นทิศทางที่ถูกต้อง แต่ต้องมีแผนงานในการให้ธุรกิจท่องเที่ยวได้เข้าถึงซอฟท์โลนนี้อย่างชัดเจนและทั่วถึง จากข้อมูลที่ได้รับสินเชื่อธุรกิจท่องเที่ยวในระบบธนาคารน่ามีประมาณ 4-5 แสนล้านบาท หนี้สินส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรม ซึ่งน่าจะมีปัญหาการชำระหนี้เกือบทั้งหมด เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มาเลยจากวิกฤติการณ์ไวรัสโควิด รัฐบาลต้องหาวิธีช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยรัฐบาลสามารถร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในการปล่อยซอฟท์โลน 0% โดยรัฐบาลสนับสนุนในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเท่านั้นที่ ธปท. สามารถลดอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำให้กับรัฐบาลได้ โดยรัฐบาลควรจะลดการแจกเงินแต่นำเงินมาสนับสนุนการอยู่รอดของธุรกิจมากกว่า เพราะจะเป็นรายได้ของประเทศในอนาคต และเป็นการรักษาการจ้างงานด้วย


นายจักรพล กล่าวว่า ส่วนแผนงานเปิดประเทศใน 120 วันจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ ถ้าดูสภาวะการณ์ปัจจุบันแล้ว น่าจะเป็นไปได้ยากมากเพราะไม่ทันท่วงที ถ้าทำไม่ได้ต้องรีบแจ้งประชาชน โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว เพราะธรรมชาติของธุรกิจนี้จะต้องรับการจองล่วงหน้า ไม่ใช่เปิดแล้วคนจะมาทันที ต้องทำการตลาดล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ บางครั้งก็เป็นปี ดังนั้น การกำหนดการเปิดประเทศต้องมีความแน่นอน เพราะหากรับจองแล้ว ไม่สามารถเปิดได้จะเสียหายอย่างมากและอาจถูกฟ้องร้องได้ อีกทั้งถ้าเปิดประเทศโดยไม่ทำการตลาดล่วงหน้าก็จะไม่มีใครมาอยู่ดี

“พล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นทหารมาตลอดชีวิตอาจจะไม่เข้าใจคนทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวนี้มีความละเอียดอ่อนมาก ยิ่งในอนาคตไทยต้องการต้อนรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก ยิ่งต้องมีระดับการบริหารที่ต้องยกสูงขึ้นไปอีก เพื่อชักจูงนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเข้ามาเที่ยวไทย โดยคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยได้มีนโยบายและเตรียมความพร้อมไว้แล้ว เชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยได้บริหารประเทศ จะสามารถชักจูงให้นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยได้ เพราะนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก 1 คนอาจจะสร้างรายได้มากกว่านักท่องเที่ยวปกติถึง 50-100 คนได้จากการใช้จ่ายและช้อปปิ้งตามฐานะ” นายจักรพล กล่าว

นายจักรพล กล่าวว่า เรื่องสำคัญที่สุดยังคงไม่พ้นเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ที่พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวซ้ำชาก ทั้งที่พรรคเพื่อไทยเสนอแนวทางแก้ไขมาเป็นเดือน ๆ แล้ว แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับไม่ยอมทำตาม และยังล้มเหลวเหมือนเดิม เหมือนบริหารไม่เป็นหรือฟังไม่เข้าใจ ทั้งไม่เปิดใจรับฟัง การที่ต้องมีวัคซีนที่มีคุณภาพมากระจายการฉีดอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในจังหวัดและพื้นที่ท่องเที่ยวเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องทำให้สำเร็จตั้งแต่ต้นปีแล้ว เพื่อจะได้เปิดประเทศรับการท่องเที่ยวได้ ถึงจะเป็นแบบแซนด์บ็อกซ์ ยังดีกว่าไม่มีนักท่องเที่ยวเลย จนกระทั่งฉีดได้ครบเมื่อไหร่ ก็สามารถเปิดทั้งประเทศได้ ปัจจุบันนอกจากวัคซีนจะล่าช้าแล้ว ยังมีปัญหาคุณภาพของวัคซีน จำนวนครั้งที่ต้องฉีดของวัคซีนแต่ละชนิด การตรวจภูมิของแต่ละคนอีกว่าขึ้นไหม และทั้งยังไม่แน่ใจว่าถึงฉีดครบ ก็ไม่รู้จะเปิดประเทศได้หรือไม่


“อยากให้พล.อ.ประยุทธ์คิดให้ครบกรอบ ไม่ใช่คอยแต่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ประเทศมีปัญหามากขึ้น ในภาวะวิกฤติไวรัสโควิดนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถการบริหารจัดการของผู้นำ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวในทุกด้านและทุกมิติ บริหารผิดพลาด พาประเทศไปผิดทิศผิดทางในทุกเรื่อง ถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะใช้สติพิจารณาตัวเอง จะพบว่าตนเองไม่ได้เหมาะสมที่จะมาบริหารประเทศนี้อีกต่อไปแล้ว ยิ่งบริหารก็จะยิ่งเสียหาย อย่าได้ฝืนดันทุรังอีกเลย ประชาชนจะยิ่งทนกันไม่ไหว ทุกวันนี้ก็ด่ากันทั้งเมืองอยู่แล้ว” นายจักรพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง