กทม.ฉุดไม่อยู่เร่งขยายเตียง


ทำเนียบฯ 25 มิ.ย. – ศบค.เร่งขยายเตียงรับโควิด หลังฉุดไม่อยู่ กทม.พบอีก 8 คลัสเตอร์ใหม่ สะสม 107 แห่ง ไม่รวมต่างจังหวัด พบใหม่ อีก 6 แห่ง


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า กทม. มีรายงานคลัสเตอร์ใหม่ 8 คลัสเตอร์ ที่บางขุนเทียน มีรายงาน 3 cluster ใหม่ คือ บริษัทผลิตถังแก๊สปิโตรเลียม 49 ราย, บริษัทขนมขบเคี้ยว 33 ราย, บริษัทผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอาง 80 ราย /เขตบางบอน เป็นบริษัทผลิตเสื้อผ้า /เขตบางแค เป็นบริษัทผลิตจำหน่ายพลาสติกบรรจุภัณฑ์ภาชนะ/เขตคลองสามวา มี 2 cluster เป็น แคมป์คนงาน ถนนพระยาสุเรนทร์ 40 ราย, แคมป์ก่อสร้างคู้บอน 15 ราย /เขตสวนหลวง แคมป์ก่อสร้าง พัฒนาการ 38 ผลตรวจยืนยัน 198 ราย จากการตรวจคนงานทั้งหมด 233 ราย
นอกจากนี้ยังมีรายงานคลัสเตอร์ใหม่ ในจังหวัดอื่นๆ อีก 6 คลัสเตอร์ ได้แก่ โรงงานขนมจังหวัดปทุมธานี 56 ราย และ บริษัทผลิตลวดโลหะ ติดเชื้อ 7 ราย, สมุทรปราการ บริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ที่บางพลี 129 ราย , นนทบุรี บริษัทผลิตภัณฑ์พลาสติก 9 ราย , นครปฐม โรงฆ่าสัตว์ ที่สามพราน 5 ราย และฉะเชิงเทรา บริษัทผลิตสี ที่บางปะกง 12 ราย



พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กทม. รายงานว่ายังมีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง 107 คลัสเตอร์ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นแคมป์คนงาน โรงงาน ตลาด ชุมชน สถานประกอบการ ที่ประชุมมีการหารือในรายละเอียดพบว่า คลัสเตอร์ใหม่ที่สมุทรปราการ บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ พบว่าเกี่ยวพันหลาย cluster ที่รายงานในวันนี้ เป็นนักศึกษาช่างฝีมือที่จบการศึกษา และอยู่ระหว่างการฝึกงาน มีการเชื่อมต่อไปหลายโรงงาน ทำให้เกิดการแพร่ระบาดหลาย cluster/ ชลบุรี แคมป์คนงานก่อสร้าง 2 แห่ง/นนทบุรี โรงงานสาหร่ายแปรรูป, โรงงานผลิตภัณฑ์พลาสติก บางกรวย/ สงขลา ร้านอาหารทะเลกระป๋อง รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม 45 ราย /นครปฐม โรงงานเสื้อผ้าสามพราน เป็น cluster เดิมพบเพิ่มอีก 14 ราย


พญ.อภิสมัย ยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศบค. กังวลเรื่องเตียงใน กทม. ปริมณฑล จึงพยายามจะขยายศักยภาพของโรงพยาบาล เพื่อรองรับเตียงของผู้ป่วยระดับสีเหลือง สีแดง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ มณฑลทหารบก แจ้งวัฒนะ ได้เชิญภาคเอกชนดูพื้นที่ ปรับให้เป็นพื้นที่โรงพยาบาลสนาม ดูแลผู้ป่วยระดับสีเหลือง และสีแดง โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียนจะปรับเตียงระดับสีเหลืองเพิ่มอีก 70 เตียง สีแดง 16 เตียง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เพิ่มเตียงสีเหลือง 100 เตียง สีแดง 40 เตียง โรงพยาบาลธนบุรี เพิ่มเตียงสีเหลือง 200 เตียง สีแดง 55 เตียง คาดว่า ประมาณ 1 สัปดาห์ จะสามารถปรับพื้นที่ ระดมบุคลากรเข้าพื้นที่และให้บริการได้ รวมทั้งขอความร่วมมือภาคเอกชน ให้ขยายเตียง เท่าที่ศักยภาพจะทำได้ ผอ.ศบค. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และย้ำให้เร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด


ส่วนการปิดสถานประกอบการต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะกระทบหลายส่วน เช่น ร้านค้าเล็กๆ ที่อยู่หน้าร้าน รวมถึงพนักงานในร้าน เช่น ลูกจ้างและพนักงานเสิร์ฟ นอกจากนี้ในภาพรวมสำหรับการล็อกดาวน์ หากไม่ใช้วิธีติดทั้งจังหวัด แต่จะปิดเฉพาะส่วน เช่น ในตำบลที่มีการติดเชื้อ หรือ พบยังมีแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้าย หรือแคมป์ หรือ ตลาด เพราะที่สุดเห็นว่ากรณีปิดกิจการ หรือให้ปิดไปเลยอาจไม่ตอบโจทย์ เป็นชนวนทำให้เกิดการลุกลามไปในพื้นที่อื่น เช่น กรณีโรงเรียนมาลากัส ซึ่งเมื่อโรงเรียนปิดก็มีการเคลื่อนย้ายนักเรียน ไปยังจังหวัดอื่นๆ และเกิดการขยายวง


พร้อมยกตัวอย่างแก้ปัญหาในตลาดสี่มุมเมือง ที่มีลูกค้าหมุนเวียนละ 30,000 คน มีแรงงานต่างด้าว 500 คน มีแผงค้า 4,000 แผง และยังเชื่อมโยงถึงเศรษฐกิจภายนอก รถพุ่มพวง ร้านอาหารตามสั่ง รถเข็นผลไม้ที่มาจับจ่าย ซึ่งหากติดตลาดจะกระทบหลายภาคส่วน และเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ทางจังหวัดจึงพยายามที่จะประคับประคองให้ดำเนินการได้ ตั้งการควบคุมโรคอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันให้ผ่อนผันให้การดำเนินธุรกิจของตลาดยังไปต่อได้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้ตั้งศูนย์ย่อยเสมือน ศบค. สี่มุมเมือง มีอำนาจตัดสินใจ และดำเนินการเบ็ดเสร็จ เช่น ด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ ส่วนราชการ ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เจ้าของตลาดและผู้ค้า ประชาชน แรงงาน ซึ่งรูปแบบที่ใช้ คือ การแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที เมื่อเจอเมื่อตรวจเจอ พบกลุ่มเสี่ยงก็มีรถตรวจโรคตรวจพื้นที่ทันที และส่งไปยังโรงพยาบาลสนาม ซึ่งอยู่ภายในตลาดที่แยกส่วนออกไป ซึ่งตัวอย่างของตลาดสี่มุมเมือง อาจเป็นส่วนหนึ่ง ของการหารือเกี่ยวกับมาตรการล็อกดาวน์ มีการพูดคุยกันใน วันนี้ (25มิ.ย.)


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนทหารกองประจำการ หรือทหารเกณฑ์ ที่จะเข้ากองประจำการในวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งมีทุกเหล่าทัพรวมกันประมาณ 60,000 นาย ศบค. ได้รับรายงานว่า มีการวางมาตรการเข้มข้นในการป้องกันโรคตั้งแต่ต้นทางที่มารายงานตัวที่อำเภอ มีการเว้นระยะห่าง และเมื่อรับรายงานตัวระหว่างเดินทาง จะเป็นระยะห่างและแวะพักให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เมื่อถึงหน่วยทหารก็จะคัดแยก หรือเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าทหารทั้งหมดที่เข้าประจำการจะไม่มีเชื้อ พร้อมกันนี้ครูฝึกและบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง รับการฉีดวัคซีนด้วย ขณะเดียวกัน มีการขออนุมัติวัคซีนเพื่อชีวิตให้กับทหารทุกนายที่เข้าประจำการด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับทหารที่อยู่ระหว่างกับตัวหรือติดเชื้อ ขอให้นำเอกสารหลักฐานมาแจ้ง ก็จะไม่ผิดกฎหมายและให้ไปรายงานตัวภายหลังได้ หลังจากรักษาตัว หรือค้นระยะกับตัวแล้ว



ผู้ช่วยโฆษก ศบก. ระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนบางส่วน โดยเฉพาะที่ฉีดวัคซีนแล้ว เริ่มการ์ดตก จึงอยากย้ำและยกตัวอย่างในต่างประเทศ อิสราเอลที่มีการฉีดวัคซีนแล้วกว่าร้อยละ 60 แต่ก็ยังพบการติดเชื้อ ทั้งนั้นจึงขอย้ำมาจากได้รับการฉีดวัคซีนแล้วแต่ขอให้เคร่งครัดต่อมาตรการป้องกันตัวเอง คือ การสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย