กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.-โฆษกภูมิใจไทย ยันพรรคภูมิใจไทยพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการเพิ่มหลักประกันรายได้พื้นฐานทั่วหน้า แม้ร่างแก้รธน.ประเด็นนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบ ส่วนปมปิดสวิตซ์ ส.ว.ให้สังคมตัดสิน
นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีมติที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาผ่านการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่า ที่ประชุมมีมติรับหลักการวาระ 1 เพียงร่างเดียวคือร่างที่ 13 ที่เสนอโดยพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องการแก้ไขบัตรเลือกตั้งให้เป็นแบบสองใบ ส่วนร่างแก้ไขของพรรคภูมิใจไทยที่เสนอเรื่องหลักประกันรายได้พื้นฐานทั่วหน้า ไม่ผ่านการรับหลักการในที่ประชุมนั้น ก่อนอื่นต้องขอบคุณเพื่อนสมาชิกรัฐสภาที่ช่วยลงมติสนับสนุนให้กับร่างแก้ไขของพรรคภูมิใจไทย
“แม้ว่าการเพิ่มหลักประกันรายได้พื้นฐานทั่วหน้า ยังไม่ถูกบรรจุในรัฐธรรมนูญ แต่พรรคภูมิใจไทยจะเดินหน้าขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าวต่อไป เบื้องต้นในสัปดาห์หน้าจะจัด Workshop โดยเชิญผู้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการ และนักวิชาการและนักการเงินการคลังมาร่วม Workshop และเสวนาร่วมกัน” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
นายภราดร กล่าวถึงการปิดสวิตช์ส.ว.ในมาตรา 272 ที่ไม่ผ่านมติในที่ประชุมร่วมรัฐสภาว่า ก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยได้แสดงจุดยืนถึงอำนาจที่ไม่พึงมีนี้ของวุฒิสภาตั้งแต่ต้น ดังนั้น จึงยังคงยืนยันจุดยืนเดิมว่าวุฒิสภาไม่ควรเข้ามามีส่วนร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยรัฐธรรมฉบับที่ผ่านมาไม่เคยมีบทบัญญัติหลักให้อำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
“มีเพียงรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 นี้เท่านั้นที่มีบทเฉพาะกาลกำหนดให้วุฒิสภาร่วมการเลือกนายกรัฐมนตรีใน5 ปีแรก ซึ่งขณะนี้ผ่านมากว่า 3 ปีแล้วคิดว่า ส.ว.น่าจะควรเพียงพอกับช่วงเปลี่ยนผ่านต่าง ๆ ได้แล้ว ที่ได้อ้างมาจากรัฐธรรมนูญ ส.ว.ควรจะคืนอำนาจให้กับประชาชนได้มีโอกาสเลือกนายกรัฐมนตรีของตนเองโดยผ่านพรรคการเมืองและผ่านทางนโยบายของพรรค” โฆษกพรรคภุมิใจไทย กล่าว
นายภราดร กล่าวว่าจากการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าทางสภาผู้แทนราษฎรมีความเห็นพ้องต้องกันในการปิดสวิชต์ ส.ว.แต่ทางวุฒิสภาไม่เห็นด้วยกับการตัดอำนาจของตนเอง จึงเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับสังคมว่าพิจารณาตัดสินใจต่อไปอย่างไร.-สำนักข่าวไทย