“ภราดร” ดันแก้ รธน.ฉบับกินได้ เพิ่มหลักประกันรายได้พื้นฐาน

รัฐสภา 23 มิ.ย.- “ภราดร” อภิปรายต่อที่ประชุมรัฐสภา กับแนวคิด รธน.ฉบับกินได้ เพิ่มหลักประกันรายได้พื้นฐานถ้วนหน้าให้ประชาชน ยันควรแก้ไขมาตรา 272 ย้อนถาม ส.ว. เพียงพอหรือยังกับการดำรงตำแหน่งมาหลายปี


นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวอภิปรายและเสนอร่างรัฐธรรมนูญว่า จุดยืนของการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคภูมิใจไทย คือ ตั้งใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตอบโจทย์ของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด จึงออกแบบรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนให้มากที่สุด จึงเป็นที่มาของการเสนอร่างรัฐธรรมนูญเมื่อคราวก่อน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 โดยเปิดช่องให้มีการตั้ง ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน แล้วให้ส.ส.ร. เขียนกติกา และไปรับฟังความคิดเห็นพี่น้องประชาชน ว่าอยากจะเห็นกติกาบ้านเมืองเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ดี ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนั้นไม่ผ่านสภา จึงเป็นที่มาของร่างรัฐธรรมนูญอีก 3 ฉบับ ที่พรรคภูมิใจไทยได้ร่วมลงชื่อกันกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา ยื่นต่อประธานรัฐสภาเพื่อที่จะนำมาสู่การพิจารณา โดยแนวคิดทั้ง 3 ร่างของพรรคภูมิใจไทย ยังคงเหมือนเดิม คือ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่หนึ่ง คือ เสนอแก้ไขในหมวดที่ 5 หมวดหน้าที่ของรัฐในมาตรา 55 โดยเพิ่มเป็นมาตรา 55/1 เรียกว่า หลักประกันรายได้พื้นฐานถ้วนหน้า (UBI : Universal basic Income ) หลักคิดคือ ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน เชื่อว่าประชาชนทุกคนควรที่จะต้องมีหลักประกันรายได้ต่อปีที่เพียงพอสำหรับพวกเขาในการที่จะดำรงชีวิตในสภาพสังคมต่างๆ


“ใครก็ตามที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน คนกลุ่มนั้นเรียกว่าคนจน ปี 2562 เกณฑ์การแบ่งแยกระหว่างคนจน สภาพัฒน์ได้ขีดเส้นเอาไว้ คนต่างจังหวัดอยู่ที่ 2,700 กว่าบาทต่อคนต่อเดือน ส่วนคนกรุง อยู่ที่ 3,200 กว่าบาทต่อคนต่อเดือน เป็นรายได้ขั้นต่ำที่คนพึงจะมีสำหรับดำรงชีวิตอยู่ได้ หรือเฉลี่ยทั้งต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯ 36,000 บาทต่อคนต่อปี นี่เป็นหน้าที่ของรัฐที่เชื่อว่ารัฐจะต้องสนับสนุนคนกลุ่มนี้ให้มีรายได้เพียงพอในการดำรงชีวิต ส่วนเรื่องหลักประกันสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชน ควรที่จะบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ และเป็นหน้าที่ของรัฐเช่นกัน ที่จะต้องทำให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ใต้เส้นความยากจนมีรายได้ขั้นพื้นฐานให้เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต ถ้าบรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญ เชื่อว่ารัฐสามารถที่จะหาเงินเพื่อที่จะมาตอบโจทย์ประชาชนได้”

ส่วนร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 เรื่องการแก้ไขในมาตรา 65 เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ การวางแผนในระยะยาวกับประเทศจำเป็นที่จะต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน แต่ร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 65 เขียนกว้างเกินไป สามารถที่จะเฉพาะเจาะจงให้ชัดเจนมากกว่านี้ได้ในเรื่องของความเป็นพลวัต และควรที่จะถามประชาชนว่า เขาอยากเห็นประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างไร นี่คือสิ่งที่ต้องมาร่วมกันคิด การวางยุทธศาสตร์ชาติควรที่จะต้องวางให้รอบด้าน ไม่ใช่เฉพาะด้านความมั่นคง แต่ยังมีด้านอื่นๆ อีกมากมายที่จะต้องอาศัยผู้รู้มาร่วมกันคิดในเรื่องนี้

“ในวันนี้การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เราต้องการความอ่อนตัวมากกว่านี้ เพื่อให้สามารถที่จะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ของประเทศและของโลกในขณะนั้นๆ”


ส่วนร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 เสนอให้มีการแก้ไขมาตรา 272 รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ในตัวบทหลักที่เป็นเรื่องหน้าที่ และอำนาจเรื่องบทบาทของสมาชิกวุฒิสภา ไม่มีให้สมาชิกวุฒิสภาเลือกหรือกำหนดนายกรัฐมนตรีตลอดกาล หรือตลอดช่วงอายุของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หากแต่เพียงกำหนดเอาไว้ในบทเฉพาะกาลเท่านั้น ซึ่งบทเฉพาะกาลกำหนดเอาไว้ 5 ปี

“ที่ผ่านมา 2 ปีกว่า เกือบจะ 3 ปี เพียงพอหรือยังกับการเปลี่ยนถ่าย กับบทเฉพาะกาลที่ว่า ผ่านการเลือกตั้งมา 1 ครั้ง และวุฒิสมาชิกได้ใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 272 ไปแล้ว เพียงพอหรือยัง ถ้าถามตนเองก็ตอบว่าเพียงพอแล้ว ถ้าถามพี่น้องประชาชนก็คงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเพียงพอแล้ว ถ้าหากจะย้อนกลับไปถามวุฒิสภาว่าเพียงพอหรือยัง ก็ไม่แน่ใจกับคำตอบ พรุ่งนี้จะมีคำตอบร่วมกันว่า เวลา 2 ปีกว่าเกือบ 3 ปี เพียงพอหรือยังกับอำนาจพิเศษ ตามมาตรา 272”

สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 เรื่องการเปลี่ยนและแก้ไขกติกาการเลือกตั้ง จากบัตร 1 ใบ เป็นบัตร 2 ใบ จาก 350 เขต 150 ปาร์ตี้ลิสต์ จะเปลี่ยนเป็น 400 เขต 100 ปาร์ตี้ลิสต์ หรือจะมีระบบใหม่ บัตร 2 ใบ แต่จัดสรรปันส่วนเหมือนกับบัตร 1 ใบ ที่เราใช้กติกากันอยู่ในขณะนี้ หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่พรรคภูมิใจไทยว่าจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย แต่ในฐานะเป็นนักการเมือง พรรคการเมืองเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงไม่สมควรที่จะเขียนหรือพิจารณากติกาให้ตัวเอง หรือเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายการเมือง นักการเมือง พรรคการเมือง แต่กติกาควรจะถูกเขียนโดยกรรมการ นั่นคือประชาชน นี่เป็นหลักคิดของพรรคภูมิใจไทย

“ขอย้ำว่ารัฐธรรมนูญใดก็ตาม ที่เป็นผลประโยชน์กับพี่น้องประชาชนโดยตรง พวกเราพร้อมที่จะสนับสนุน แต่ร่างรัฐธรรมนูญใดที่แก้ไขแล้วจะถูกครหาว่าพรรคการเมือง หรือนักการเมือง แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไม่ขอร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว และการแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้ โจทย์ของพรรคภูมิใจไทยคือ ต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ว่า แก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วประชาชนได้ประโยชน์อะไร จึงเป็นที่มาของการเสนอร่างรัฐธรรมนูญที่กินได้ เสนอรัฐธรรมนูญหลักประกันรายได้พื้นฐานถ้วนหน้า พวกเราขอเป็นไม้ขีดไฟก้านแรก พวกเราขอเป็นไม้ขีดไฟแห่งความหวัง ให้กับพี่น้องประชาชนในการที่จะเข้าถึงหลักประกันรายได้พื้นฐานที่พวกเขาพึงจะมี ” นายภราดร กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]