fbpx

สภารับม็อบไม่กดดันการลงมติรธน.

รัฐสภา 23 มิ.ย.- รัฐสภาพร้อมเปิดพื้นที่กลุ่มเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมราษฎร บริเวณหน้ารัฐสภา เชื่อรวมตัวสงบ-สันติ ไม่กดดันการลงมติ 13 ญัตติแก้ไขรธน.


นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เผยถึงมาตรการความปลอดภัยภายในรัฐสภาวันลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ วาระรับหลักการพรุ่งนี้(24 มิ.ย.) ภายหลังมี 5 กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง นัดชุมนุมและจะเคลื่อนไหวมายังหน้ารัฐสภาว่า นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษาหรือ ไผ่-ดาวดิน ได้ประสานมายังรัฐสภาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งจุดยืนคือต้องการยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นฉบับภาคประชาชนแท้จริง โดยคาดว่ายื่นหนังสือช่วงเวลา 13.00 น. ก่อนที่จะมีการหารือเป็นการภายในระหว่างตัวแทนผู้เรียกร้อง ตัวแทนวิปฝ่ายค้าน และตัวแทนวิปรัฐบาล พร้อมกับรับปากว่าจะไม่กดดันการลงมติญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แต่จะชุมนุมอย่างสงบ สันติ โดยหลังจากแสดงเจตจำนงต่อรัฐสภาแล้วก็จะเคลื่อนขบวนกิจกรรมไปยังสกายวอล์ก แยกปทุมวัน ขณะที่การลงมติจากเดิมคาดการณ์ไว้เวลาประมาณ 16.00 น. ก็น่าจะล่าช้าออกไปเล็กน้อย เนื่องจากมีการอภิปรายของสมาชิกจำนวนมาก ส่วนมาตรการความปลอดภัยนอกรั้วรัฐสภา ขอให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ซึ่งคาดว่าทุกอย่างน่าจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาของรัฐสภาและการเดินทางโดยรอบแต่อย่างใด

ส่วนความกังวลกรณีการนัดรวมตัวจัดกิจกรรมท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 นั้นได้รับข้อมูลจากไผ่ ดาวดินว่าจะมีผู้เข้าร่วมจำนวน 1,000 คน เชื่อว่าทางกลุ่มย่อมเข้าใจสถานการณ์ดีว่าต้องเคลื่อนไหวภายใต้กฎหมาย ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 50 คน การสวมใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง


สำหรับกรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยกลุ่ม รี-โซลูชัน ที่เป็นการรวมตัวกันของ 4 องค์กร คือ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า, คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล โดยก่อนหน้านี้ได้ประกาศรวบรวมรายชื่อกันอยู่ ซึ่งหากมีการยื่นเข้ามายังรัฐสภาก็ต้องทำตามขั้นตอนโดยพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งจำนวนการเข้าชื่อของภาคประชาชนอย่างน้อย 50,000 รายชื่อ และสาระสำคัญต้องไม่กระทบต่อรูปแบบการปกครองประเทศ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ รวมถึงต้องเสนอแก้เป็นรายมาตรา.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

ร้อนทะลุ 42 องศาฯ จนท.ดับไฟป่า ฮีทสโตรก 3 ราย

อากาศร้อนทะลุ 42 องศาฯ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เข้าดับไฟป่า เกิดฮีทสโตรก หัวใจหยุดเต้น 3 ราย ต้องทำ CPR ก่อนหามลงเขาสูงชันกว่า 4 กม. ขึ้นรถส่งโรงพยาบาล