ทำเนียบรัฐบาล 23 มิ.ย.-รมว.ดีอีเอส สั่งติดตามกลุ่มไทยไม่ทนชุมนุมผ่านไลฟ์สด อย่าทำแค่สะใจ ถ้าผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ต้องถูกดำเนินคดีตาม กม. หวั่นการรวมตัวจะเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ซ้ำเติมประเทศให้เสียหาย พร้อมติดตามพนันออนไลน์ช่วงฟุตบอลยูโร ชี้โฆษณาแฝงโทษหนักเท่าเจ้าของบ่อน
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มไทยไม่ทนที่นัดชุมชุมผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ในเวลา 19.00 น.วันนี้(23 มิ.ย.) ว่า กระทรวงดีอีเอสติดตามสื่อโซเซียลอยู่แล้ว หากให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนตื่นตระหนก จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยกระทรวงดีอีเอสจะติดตาม รวบรวมพยานหลักฐาน หากทำผิดก็ต้องดำเนินคดี และปิดกั้นตามอำนาจที่มี
“ขอให้ทุกคนระมัดระวังการเคลื่อนไหวทางการเมือง อย่าเอาแต่ความสะใจ ต้องดูว่าบ้านเมืองเสียหายหรือไม่ เพราะขณะนี้บ้านเมืองกำลังเดินหน้าแก้ปัญหาโควิด-19 ต้องการเปิดประเทศให้เร็วที่สุด ทุกคนต้องช่วยกันร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิดให้ได้ หากมาชุมนุมรวมตัวจำนวนมากและเกิดการระบาดอีกเป็นคลัสเตอร์ใหม่ก็เท่ากับซ้ำเติมประเทศให้เสียหายหนักยิ่งขึ้น การทำงานของรัฐบาลก็ยากยิ่งขึ้น ขอให้ผู้ชุมนุมคิดถึงบ้านเมืองด้วย” รัฐมนตรีดีอีเอส กล่าว
นายชัยวุฒิ กล่าวถึงการปราบปรามพนันออนไลน์ ในช่วงฟุตบอลยูโร 2020 ว่ากระทรวงดีอีเอสให้ความสำคัญเรื่องนี้ และตั้งคณะทำงานประสานการทำงานกับตำรวจ ให้ดูแลข้อมูลในเว็บพนันและในโซเซียลฯ เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทั้งหมด แต่ยอมรับว่าบางเวปปิดกั้นไม่ได้ เพราะมีที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัญหจากระบบอินเตอร์เน็ตที่เปิดกว้างให้สื่อต่างประเทศเข้ามามาก อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงดีอีเอส กำลังหาทางแก้ไข หากรู้ต้นตอจะสืบสวนสอบสวนทั้งหมด โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งดำเนินการไปหลายคดีแล้ว
“พบว่าสถิติการแข่งขันฟุตบอลยูโรมีการพนันแข่งขันเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเป็นห่วงการโฆษณาเชิญชวนเล่นการพนันออนไลน์ที่มีคอลัมนิสต์ พริตตี้ นักวิจารณ์ฟุตบอลและอินฟูลเอ็นเซอร์ ต่าง ๆ ซึ่งไม่มีการเชียร์บอลอย่างเดียว แต่มีโฆษณาแฝงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยได้ค่านายหน้าในการชักชวน ซึ่งถือว่ามีความผิดเทียบเท่ากับเจ้าของบ่อนจึงให้ตำรวจติดตามรวบรวมพยานหลักฐานเรื่องนี้ด้วย เพราะเป็นการส่งเสริมให้คนเล่นการพนัน ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะแม้แต่เหล้าและบุหรี่ยังห้ามการโฆษณาในบางช่วงเวลา จึงฝากให้ทุกคนช่วยกัน” รัฐมนตรีดีอีเอส กล่าว
นายชัยวุฒิ ยอมรับว่าการพนันออนไลน์มีโทษน้อย จึงต้องใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ควบคู่ไปด้วย และเห็นด้วยที่จะต้องปรับกฎหมายให้เข้มข้นขึ้น เช่นเดียวกับกรณีของแม่น้ำหนึ่ง ก็กำลังติดตามอยู่ เพราะไม่มีใครไปลงโทษและโทษไม่หนัก
ส่วนกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสั่งการตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม หรือ เฟคนิวส์ในแต่ละกระทรวง รัฐมนตรีดีอีเอส กล่าวว่า กระทรวงดีอีเอสเป็นศูนย์กลางติดตามเฟคนิวส์อยู่แล้ว แต่การให้ทุกกระทรวงช่วยติดตามและชี้แจง แก้ข่าวให้ประชาชนเข้าใจมากยิ่งขึ้น ถือเป็นความร่วมมือที่ดี ลดความตื่นตระหนก แต่ยอมรับว่าการดำเนินคดียังดำเนินการได้ไม่ทั้งหมด แก้ปัญหาไม่ได้เต็มร้อย เพราะสื่อออนไลน์แชร์ไปเร็วและแพร่หลายมาก โดยเฉพาะข่าวไม่ดี แพร่เร็วกว่าข่าวดี จึงเป็นปัญหา และต้องเร่งรัดชี้แจงประชาชน.-สำนักข่าวไทย