พรรคพลังประชารัฐ 21 มิ.ย.-“ร.อ.ธรรมนัส” เผยจะทำหน้าที่เลขาฯ พปชร.ให้ดีที่สุด สร้างพรรคเข้มแข็ง สร้างความรัก สามัคคี เร่งเฟ้นหาตัวผู้สมัครส.ส.เตรียมเลือกตั้งคราวหน้า ไม่ดูส.ส.พรรคอื่น ยังหนุน “พล.อ.ประยุทธ์” นั่งนายกฯ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร. ) กล่าวในที่ประชุมส.ส.พปชร. ว่าจะทำหน้าที่ต่อจากนี้ให้ดีที่สุด ลดคำสบประมาทว่าเป็นครอบครัวธุรกิจ ตนจะทำให้พรรคพลังประชารัฐเป็นบ้านที่มีความรัก ความสามัคคี น่าอยู่ ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกับกลุ่มสามมิตร
“หลังจากเลือกกรรมการบริหารพรรคเสร็จสิ้นก็ได้ต่อสายทำความใจกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการพรรคเรียบร้อยแล้ว ยืนยันไม่มีความขัดแย้งกัน” ร.อ.ธรรมนรัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การที่ได้นั่งตำแหน่งเลขาธิการพรค เป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ส่วนที่ประกาศว่าจะให้พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคอับดับหนึ่งและอันดับเดียวในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น เป็นการยืนยันที่จะทำสิ่งไหนที่ทำดีแล้วจะทำต่อไป สิ่งไหนยังไม่ได้ทำจะเริ่มทำ โดยเฉพาะนโยบายที่หาเสียงไว้ตั้งแต่ปี2562 มีหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ทำ ทั้งการเตรียมความพร้อมสร้างความเข้มแข็ง ทั้งเรื่องความเข้มแข็งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สร้างความรักสามัคคี
เมื่อถามย้ำว่าถึงการประกาศจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ต้องใช้เวลา ที่สำคัญต้องทำให้ครอบครัวพปชร. มีความเข้มแข็ง ให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะแก้ปัญหาของประเทศชาติได้
ส่วนที่นักวิชาการมองการปรับทัพในครั้งนี้ถึงขั้นเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) และร.อ.ธรรมนัสอาจจะถูกวางในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง คนละประเด็น การปรับครม.เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ โดยพล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะใช้ดุลยพินิจปรับ ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ส่วนการเตรียมพร้อมการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต ประสานผู้สมัครจากพรรคอื่นมาสมัครในนามพรรคพปชร หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองในอนาคตการเตรียมตัวผู้สมัครเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเริ่มแล้ว แม้ว่าจะมีเวลา 2 ปีเตรียมผู้สมัคร แต่พรรคต้องหาคนที่เหมาะสม ไม่ใช่หาตัวบุคคลในช่วงเวลาใกล้เลือกตั้ง
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงหลักเกณฑ์การคัดผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งระหว่างผู้ที่มีฐานเสียงเดิมจากต่างพรรคและผู้สมัครของพรรคพปชร.เอง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวลานี้ ส.ส.แบ่งเขตทุกคนมีคุณภาพและลงพื้นที่ต่อเนื่อง ส่วนการจะหาผู้สมัครรายใหม่ ในพื้นที่ที่ไม่มีส.ส. เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคเน้นย้ำว่าจากนี้ต้องเฟ้นหาส่วนจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปหรือคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่กรรมการสรรหาต้องช่วยกัน
เมื่อถามย้ำว่าจะทาบทามส.ส.เพื่อไทยในภาคอีสานมาอุดจุดอ่อนของพปชร.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเป็นคนมีมารยาทในการเล่นการเมือง ไม่จำเป็นไม่เอา และทุกอย่างต้องมาจากความสมัครใจ แต่พปชร.ต้องการสร้างคนใหม่ ๆ มากกว่า
เมื่อถามา หากคนเก่าจากพรรคอื่นจะเข้ามาพร้อมรับใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คนที่จะเข้ามา ต้องไม่เป็นที่ครหาและเกิดข้อพิพาทระหว่างพรรค
ส่วนที่ฝ่ายค้านยังคงกังขาคุณสมบัติของร.อ.ธรรมนัสที่นั่งในตำแหน่งเลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พูดไปหลายครั้งว่าอดีตไม่สามารถแก้ไขกลับมาเป็นปัจจุบันได้ หลายเรื่องชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรและสื่อมวลชนแล้ว ในฐานะที่เป็นนักการเมืองและเข้ามานั่งในตำแหน่งบริหาร ในระบอบประชาธิปไตยพร้อมถูกตรวจสอบ และเมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบบุคคลที่ฟ้องร้องก็ต้องยอมรับในกติกา
“ต้องต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของตนเอง ซึ่งเน้นย้ำเสมอว่า จะทำวันนี้ พรุ่งนี้และอนาคตให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง การสาดโคลนใส่กันเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ส่วนที่ปัญหาลามไปถึงการต่อว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขอให้มั่นใจว่าเราเดินหน้าเพื่อประชาชน ผมเชื่อว่าเมื่อครบเทอมทางการเมือง 4 ปี จะเห็นว่านักการเมืองที่อยู่ในสภา ใครได้ทำอะไรให้ประชาชนบ้าง” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ส่วนกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยร้องทุกข์กล่าวโทษฐานครอบครองเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัมเพื่อจำหน่ายและส่งต่อ จะดำเนินการอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า รู้สึกเฉย ๆ
“ผมถูกท่านกระทำมา 2 ปีเต็ม ๆ ถูกกระทำมาโดยตลอดและผมก็เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจกระบวนการตรวจสอบของป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ผมพร้อมถูกตรวจสอบและพร้อมสู้ ยืนยันไม่โกรธท่านเสรี เพราะถือว่าทำหน้าที่นิติบัญญัติ เราอย่าไปเครียดเรื่องเหล่านี้ หากเครียดเรื่องสาดโคลน ใส่กันทางการเมืองจะไปไม่รอด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำลายอุดมการณ์ทางการเมืองของผมได้” รอ.ธรรมนัส กล่าว
ส่วนที่ว่าหากพปชร.ชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะชูพล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนที่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีและทำได้สำเร็จ ยืนยันว่าการบริหารบ้านเมืองในภาวะที่ไม่ปกติต้องมีผู้ที่เข้มแข็ง และในเวลานี้ไม่มีใครเหมาะสมเท่าพล.อ.ประยุทธ์อีกแล้ว ส่วนพล.อ.ประวิตรก็ให้นโยบายไว้ว่าต้องการดูแลพรรคพลังประชารัฐและให้เดินตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า จะเตรียมทีมเศรษฐกิจไว้แก้ปัญหาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่ารเตรียมไว้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ และต้องประชุมกันก่อน ยืนยันว่าไม่ได้ให้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
ส่วนที่ประเมินว่าจะยุบสภาหลังแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ยังไม่ใช่เวลา เพราะขณะนี้ยังมีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลต้องประคองบ้านเมืองให้รอดก่อน.-สำนักข่าวไทยพ