เร่งแก้น้ำเค็มช่วยเกษตรกร

รัฐสภา 21 มิ.ย.-ส.ว.ตั้งกระทู้ถามการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายกรณีน้ำเค็มรุกพื้นที่การเกษตร “ประภัตร” รับปริมาณน้ำจืดที่ใช้ดันน้ำเค็มไม่พอ ขณะการเยียวยาทำไม่ได้ ไม่ได้กำหนดในช่วยภัยฉุกเฉิน เร่งแก้ปัญหา แก้ระเบียบเกี่ยวข้อง

การประชุมวุฒิสภา วันนี้(21 มิ.ย.) พิจารณากระทู้ถาม โดยพล.อ.ดนัย มีชูเวท สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถามเรื่องการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับความเสียหายกรณีน้ำเค็มรุกล้ำพื้นที่การเกษตร โดยนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า การช่วยให้เกษตรกรอยู่ได้จะต้องผันน้ำจืดจาก 4 เขื่อนหลัก ลงมาที่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเจือจางน้ำเค็ม แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำในการผลักดันน้ำเค็มไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย รัฐบาลได้ตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) ขึ้น เพื่อรวบรวม 38 หน่วยงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมบูรณาการแก้ปัญหาน้ำทุกด้าน

“ส่วนเรื่องการเยียวยาถือว่าน่าเป็นห่วง เนื่องจากภัยข้างต้นไม่ได้กำหนดไว้ในการให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน จึงไม่สามารถเยียวยาได้ แต่ด้วยปัญหานี้เกิดขึ้นทุกปีและเกิดจากกรมชลประทานเติมน้ำเข้ามาเจือจางน้ำเค็มไม่ทัน จึงยอมรับและพร้อมรับเรื่องนี้ไปดำเนินการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งศึกษาและเริ่มประชุมพิจารณาแล้วว่าจะนำเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในภัยพิบัติได้หรือไม่ พร้อมเร่งศึกษาปรับแก้ระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว

นายประภัตร ชี้แจงว่า ปัญหาน้ำในประเทศเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง จึงต้องหาต้นทุนน้ำ ปีนี้จึงได้ตั้งงบประมาณศึกษาการผันน้ำจากแม่น้ำยวมที่เขามาทางเขื่อนภูมิพลมายังแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเจาะอุโมงค์ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควร นอกจากนี้ยังได้พยายามหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรโดยทำฝายน้ำล้นปากคลองที่เชื่อมระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยา 23 แห่ง เพื่อป้องกันน้ำเค็มเข้าไปยังพื้นที่การเกษตร ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 3 แห่ง แต่การทำงานเป็นไปด้วยความลำบากเพราะติดปัญหาการสัญจรทางน้ำ ทั้งนี้ฝากไปยังวุฒิสภาว่า นอกจากชี้แจงความคืบหน้าการแก้ปัญหาน้ำเค็มแล้วขอให้มีการรับฟังความเห็นเรื่องปัญหาน้ำเค็มที่เกิดจากน้ำบ่อบาดาลไปพร้อมกันด้วย เนื่องจากปัจจุบันเกิดการเจาะน้ำบาดาลจำนวนมาก จากเหตุน้ำฝนไม่มีและน้ำชลประทานไม่พอ โดยพื้นที่ภาคกลางจึงกำลังประสบปัญหาน้ำเค็มที่เกิดจากน้ำบ่อบาดาล.-สำนักข่าวไทย