ป่วยโควิดคลัสเตอร์ยะลา 402 ราย กระจาย 11 จังหวัด

ทำเนียบรัฐบาล 21 มิ.ย.- ศบค. เผยป่วยโควิดคลัสเตอร์ยะลา 402 ราย กระจายแล้ว 11 จังหวัด ขณะกรุงเทพฯ ปริมณฑล ยังพบคลัสเตอร์ใหม่รายวัน


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ว่า วันนี้ (21 มิ.ย.) กรุงเทพฯ ยังคงมีผู้ติดเชื้อสูงสุด 624 ราย และพบคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานทำลูกชิ้น ย่านวงเวียน 22 เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย มีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 26 ราย จากการตรวจ 37 ราย จังหวัดสมุทรปราการ พบคลัสเตอร์ใหม่ ที่คอนโดมิเนียม อำเภอเมืองสมุทรปราการ 11 ราย, เขตอุตสาหกรรมบางปู 38 ราย, บริษัทระบบน้ำการเกษตร พระสมุทรเจดีย์ 20 ราย ส่วนจังหวัดนครปฐม โรงงานเสื้อผ้า 189 ราย จังหวัดสมุทรสาคร โรงงานสิ่งทอ 6 ราย โรงงานอาหารทะเลแช่แข็ง 11 ราย จังหวัดนนทบุรี บริษัทก่อสร้าง ที่ปากเกร็ด 40 ราย จังหวัดสระบุรี โรงเรียนตำรวจ 16 ราย จังหวัดระยอง ที่ฟาร์มเห็ด 11 รายและจังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัทเชื่อมโลหะ 8 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรณีคลัสเตอร์ ที่จังหวัดยะลา นพ.สงกรานต์ ไหมชุม สาธารณสุขจังหวัด ได้รายงานที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ covid-19 กระทรวงสาธารณสุข eoc เช้าวันนี้ กรณีชุมชนมัรกัส บ้านเกาะยานิ จังหวัดยะลา ซึ่งในชุมชนมีทั้งโรงเรียน สถานประกอบศาสนกิจ รายงานพบผู้ติดเชื้อยืนยัน 402 ราย และแพร่กระจายไปยัง 11 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี สตูล สงขลา กระบี่ พัทลุง นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พังงา และตรัง ซึ่งกรมควบคุมโรค รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายแรก วันที่ 9 มิถุนายน แต่จากการสอบสวนโรค พบว่าผู้ติดเชื้อรายแรกน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ 29 พฤษภาคม แต่ขณะนั้นยังไม่ได้มีรายงานเป็นคลัสเตอร์ โดยในชุมชนมีประชากรประมาณ 3,000-4,000 คน เป็นนักเรียนประมาณ 500 คน มาจากในพื้นที่ 17 จังหวัด ซึ่งไทม์ไลน์พบว่า นักเรียนที่ติดเชื้อมีพฤติกรรมการรวมกลุ่มทานอาหารร่วมกัน ร่วมกันทำกิจกรรมทางศาสนา โดยไม่สวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย มีการใช้แก้วน้ำร่วมกัน ทั้งนี้ชุมชนได้ปิดโรงเรียนและพื้นที่เสี่ยง มีการค้นหาในชุมชนเพื่อหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ พร้อมออกประกาศในพื้นที่แนะนำให้ผู้ที่สงสัยเกี่ยวข้องกับนักเรียนหรือบุคคลในชุมชน รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายปกครองในชุมชน เพื่อตรวจหาเชื้อ และรับคำแนะนำการเฝ้าระวังมาตรการ รวมถึงเอกสารแจ้งเตือนทุกจังหวัดใกล้เคียง


ที่ประชุม ศบค. ยังได้หารือถึงกรณีของโรงเรียนที่ปิดตัวลงในหลายจังหวัดว่า ทางโรงเรียนควรจะหารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อนที่จะปิด และจะต้องมีมาตรการดูแล ทำความเข้าใจเด็กและผู้ปกครอง รวมทั้งพื้นที่จังหวัดปลายทางที่นักเรียนจะต้องเดินทางกลับบ้าน โดยกรมควบคุมโรคเสนอว่า จะต้องมีคำแนะนำ ให้ผู้ที่มีสัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำกักตัวอยู่ที่บ้าน ไม่อนุญาตให้ไปพบปะรวมกลุ่มกับญาติ ครอบครัว ตลาด ชุมชน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งไปยังจังหวัด ต้นทางและปลายทาง

นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงช่วงเทศกาลวันหยุดอีดิ้ลอัฎฮา ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองของชาวไทยมุสลิม อาจมีการจัดเลี้ยง การรวมกลุ่ม การเดินทางข้ามจังหวัด จึงขอให้ติดตามประกาศทางจังหวัดอย่างใกล้ชิด

ที่ประชุม ศบค. ยังหารือข้อกำหนดออกตามประกาศมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 ฉบับที่ 29 เรื่องการสวมหน้ากากอนามัย ทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกนอกเคหสถาน เจ้าหน้าที่จะตักเตือน และกำหนดมาตรการปรับต่อไป ข้อยกเว้นกิจการที่มีความจำเป็น ที่ กสทช. เสนอเข้ามา เช่น กิจการวิทยุโทรทัศน์ การถ่ายทำภาพยนตร์ ศบค. ผ่อนผันให้ดำเนินกิจกรรมได้ตามความจำเป็น สามารถทำได้ภายใต้มาตรการที่ประกาศกำหนด โดยกำหนดจำนวนบุคคลเข้าร่วม


ส่วนการกำหนดพื้นที่สถานการณ์ แบ่งออกเป็น 4 สี คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สีแดงเลือดหมู, พื้นที่ควบคุมสูงสุด สีแดง, พื้นที่ควบคุมสีส้ม, พื้นที่เฝ้าระวังสูง สีเหลือง โดยทุกสียังต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อออกนอกเคหสถาน การเปิดร้านอาหาร พื้นที่สีแดงเลือดหมูอนุญาตไม่เกิน 50 คน เปิดบริการได้ไม่เกิน 23.00 น. ห้องปรับอากาศบริการได้ไม่เกินร้อยละ 50, สีแดง 100 คน เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. , ส่วนที่เหลือเปิดบริการได้ตามปกติ ได้แก่ สีส้ม 150 คน, สีเหลือง 200 คน, สีเขียวไม่เกิน 300 คน

ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ ยังคงปิดบริการทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะถือว่ายังมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ จึงอยากฝากผู้ประกอบการให้เสนอว่า มีมาตรการดูแลลูกค้าอย่างไร เพื่อให้ปลอดภัย ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม หากพื้นที่ใดกิจการกิจกรรมใดหละหลวม ก็จะมีการทบทวนมาตรการอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย