เลขาธิการสภาฯ เชื่อมั่นศักยภาพวัคซีน

กทม. 19 มิ.ย. – เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เชื่อมั่นศักยภาพวัคซีนที่ได้รับอนุมัติจาก สธ. และ ศบค. หลังฉีดวัคซีนแก่สมาชิกและบุคลากรในวงงานแล้วครบ 4,000 โดส เตรียมพร้อมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ รองรับการประชุมอันใกล้นี้ และเร่งพัฒนาระบบนับคะแนนลงคะแนนเสียง ขอความร่วมมือทุกคนมีจิตสำนึกรับผิดชอบร่วมกัน


นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มาตรวจความเรียบร้อยจุดบริการฉีดวัคซีนภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นการจัดฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 ต่อเนื่องในเข็มที่ 2 รอบจำนวน 2,000 โดส ตามที่ ศบค.จัดสรรให้ ซึ่งเป็นลอตสุดท้ายแล้วสำหรับการฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรของสำนักงานในวงงานรัฐสภา รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประชุม และต้องเดินทางเข้ามาภายในอาคาร โดยจะแบ่งทยอยฉีดวัคซีนในวันนี้และพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) วันละ 1,000 โดส ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สังกัดกรมการแพทย์ ในการจัดบุคลากรทางการแพทย์มาให้บริการฉีดวัคซีน และหน่วยแพทย์ฉุกเฉินจากวชิรพยาบาล ร่วมกับสำนักบริการทางการแพทย์ประจำรัฐสภา และเจ้าหน้าที่สำนักต่างๆ ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร คอยดูแลบริการประจำจุดต่างๆ ซึ่งผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนสามารถตรวจสอบรายชื่อของตนเองผ่านการสแกน QR Code scan me เพื่อทราบลำดับชื่อการฉีดวัคซีนได้ล่วงหน้า

ทั้งนี้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภาพรวมการได้รับอนุมัติจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค. รวมทั้งสิ้น 5,000โดส ซึ่งฉีดวัคซีนให้แก่สมาชิก บุคคลที่เกี่ยวข้อง บุคลากร และสื่อมวลชนแล้วเกือบครบ 4,000 โดส รอเก็บตกอีก 1,000 โดส ทั้งนี้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีความเชื่อมั่นว่า จากศักยภาพวัคซีนที่ได้รับจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับบุคลากรในวงงานรัฐสภาได้ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมรัฐสภาอันใกล้นี้ โดยยกระดับมาตรการป้องกันโควิดอย่างเข้มงวดตามเดิม และนอกจากจำกัดบุคคลที่เข้าออกอาคารรัฐสภาตามความจำเป็นแล้ว ยังขอความร่วมมือด้านจิตสำนึกรับผิดชอบด้วยการคัดกรองตนเอง เนื่องจากการติดเชื้อเวลานี้มักไม่แสดงอาการ จึงไม่สามารถทราบได้เลยว่าใครติดเชื้อ ขณะเดียวกัน ตนได้มอบหมายสำนักสารสนเทศ พัฒนาระบบการนับคะแนน ลงคะแนนเสียง ซึ่งอยู่ระหว่างทดสอบระบบประมวลผล เพื่อดำเนินงานให้เกิดความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่มาก


ส่วนความคืบหน้าล่าสุด กรณีที่มีแม่บ้านรัฐสภา จำนวน 2 ราย ติดเชื้อโควิด-19 โดยรายแรกเป็นแม่บ้านพนักงานเก็บจานในห้องอาหาร ชั้น 1 อาคารรัฐสภา ซึ่งอยู่ระหว่างรักษาตัวนั้น โดยผู้ที่สัมผัสใกล้ชิด 3 ราย จากการตรวจทราบผลแล้วว่าไม่ติดเชื้อโควิด เช่นเดียวกับผู้สัมผัสเสี่ยง 4 คน ที่ใกล้ชิดกับแม่บ้านรัฐสภา รายที่ 2 ซึ่งเป็นแม่บ้านประจำอยู่ห้องรับรองคณะรัฐมนตรี ชั้น 3 ทราบผลตรวจแล้วเป็นลบ 3 ราย ส่วนอีกรายยังรอติดตามผล โดยทั้งหมดแม้ไม่พบเชื้อก็ได้สั่งการให้กักตัวตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้แล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น