กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กลาโหม ย้ำคุมเข้มชายแดนหยุดคนต่างด้าวไหลเข้าเมือง ปัจจัยเสี่ยงกระจายโรคสำคัญ สั่งเสริมกำลังหนุน กทม. คุมโควิดแพร่ระบาดในชุมชนและแคมป์คนงาน
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และตำรวจ เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลและการช่วยเหลือประชาชนในการแก้ปัญหาโควิด-19 ณ ศาลาว่าการกลาโหม ซึ่งได้มีการสรุปภาพรวมสถานการณ์และการปฏิบัติที่สำคัญ กองกำลังป้องกันชายแดน ทหาร และตำรวจ ที่ยังคงตรวจพบและจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนตามช่องทางธรรมชาติและพื้นที่ชั้นในได้อย่างต่อเนื่อง โดยพบมากขึ้นใน 3 วันที่ผ่านมา (เฉลี่ย 250 คน/วัน) ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาและกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ร่วมกันจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด กว่า 1,500 จุด และจัดกำลังลาดตระเวนป้องปรามและพิสูจน์ทราบในพื้นที่ต่างๆ กว่า 2,000 ชุด
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ในพื้นที่ชั้นใน ทุกเหล่าทัพและตำรวจได้เข้าไปช่วยสนับสนุน กทม. เร่งเข้าไปแก้ปัญหาและควบคุมพื้นที่เสี่ยง โดยจัดกำลังและแบ่งมอบพื้นที่ร่วมกับ กทม. 50 เขต เสริมเข้าไปดูแลพื้นที่เสี่ยงชุมชน 2,069 แห่ง ตลาด 486 แห่ง แคมป์คนงานก่อสร้าง 575 แห่ง และโรงงานขนาดใหญ่ 278 แห่ง เร่งตรวจคัดกรองเชิงรุกและสนับสนุนจัดตั้ง บก.ควบคุมการปฏิบัติในพื้นที่พบการติดเชื้อจำนวนมาก โดยขณะนี้ได้จัดตั้ง บก.ควบคุมและจัดกำลังร่วมกับตำรวจ และส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้วใน 5 พื้นที่ และกำลังพิจารณาจัดตั้ง บก.ควบคุมเพิ่มตามผลการตรวจในแต่ละพื้นที่
พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ย้ำนโยบายและข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ทุกเหล่าทัพและตำรวจ ยังคงต้องทำงานหนักร่วมกันคุมเข้มสกัดกั้นและปราบปรามผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นในอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสูงของการนำพาเชื้อโรคเข้ามายังพื้นที่ชั้นใน เชื่อมโยงกับแรงงานต่างด้าวและผู้หลบหนีเข้าเมืองที่ต้องคุมให้อยู่ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สีแดงเข้ม เสริมกำลังเข้าไปเพื่อควบคุมโรคเป็นพื้นที่ พร้อมกับขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกนายในการปฏิบัติงาน
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า พล.อ.ชัยชาญ ยังได้กำชับเพิ่มเติมให้ทุกเหล่าทัพเร่งเข้าไปสนับสนุนควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการเร่งเข้าไปสนับสนุนตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชนและกลุ่มผู้ใช้แรงงาน รวมทั้งให้ประสานและสนับสนุนกรมราชทัณฑ์ เร่งควบคุมการแพร่ระบาดในเรือนจำที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก พร้อมกันนี้ ขอให้เตรียมความพร้อมในการปรับเปลี่ยนถ่ายโอนภารกิจการทำหน้าที่สถานกักกันควบคุมโรคของรัฐ ที่กระทรวงกลาโหม รับผิดชอบตั้งแต่ 4 ก.พ.63 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน รวม 175 แห่ง (SQ 33 แห่ง และ ASQ 142) ให้เป็นไปตามนโยบายของ ศบค. ตั้งแต่ 1 ก.ค.64 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ขอให้เตรียมความพร้อมจัดตั้งสถานกักกันควบคุมโรคของแต่ละเหล่าทัพ (OQ) เพื่อรองรับกำลังพลของทุกเหล่าทัพตามนโยบายของ ศบค.ต่อไป. – สำนักข่าวไทย