นายกฯ เช็กเสียง ส.ว.ใครไม่เชื่อมั่น ยันอยู่ครบเทอม ยิ่งไล่ ยิ่งสู้

รัฐสภา 14 มิ.ย.- นายกฯ แจงออกเงินกู้ 5 แสนล้าน ต่อวุฒิสภา ย้ำไม่เคยมีทุจริต เช็กเสียง ส.ว. ใครไม่เชื่อมั่น ยันอยู่ครบเทอม ยิ่งไล่ ยิ่งสู้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมวุฒิสภา วันนี้ (14 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการตราพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพ่อแก้ขัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท โดยย้ำความจำเป็นเร่งด่วนในการกู้เงิน เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ทั้งการเยียวยาประชาชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการระบาดในระลอกที่ 3 โดยคาดว่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวได้ 1.5-2.5 ส่วนงบประมาณสำหรับระบบสาธารณสุข คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปแล้วกว่า 44,700 ล้านบาท ครอบคลุมค่าตอบแทนบุคลากรทางการพทย์, ค่าวัคซีน ,เงิน อสม. ,อุปกรณ์การแพทย์ และรถตรวจชีวนิรภัยเพิ่มเติม เป็นต้น

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงแผนการบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมาว่า ในปี 2564 รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถกระจายวัคซีนได้กว่า 100 ล้านโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ภายในเดือนมีนาคม 2565 การกระจายวัคซีนสู่ประชาชน จะต้องคำนึงถึงจำนวนวัคซีนที่ประเทศไทยมี โดยจะต้องพิจารณาจากปัจจัยเบื้องต้นว่าทุกจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีน จังหวัดใดจะมีการแพร่ระบาดมาก ก็ต้องกระจายวัคซีนให้มากขึ้น และสำรองไว้สำหรับการป้องกันการระบาดที่อาจมีขึ้น เช่น กลุ่มแรงงาน หรือบุคลากรครูที่จะมีการเปิดภาคการศึกษา แต่ปัญหาขณะนี้ คือ การจับจองวัคซีนของประชาชนมากกว่าจำนวนวัคซีนที่จ่ายให้แต่ละพื้นที่ และจำนวนวัคซีนทยอยแบ่งมาจากผู้ผลิต ดังนั้น การกระจายวัคซีนจะต้องมีการปรับแผน เพื่อไม่ให้การนัดฉีดวัคซีนของประชาชน มีจำนวนมากกว่าวัคซีนที่มี จึงต้องยืดระยะเวลาเพื่อให้สอดรับกับจำนวนวัคซีนที่มี


นายกรัฐมนตรียังยอมรับด้วยว่า ปัญหาการระบาดโควิด-19 มีปัญหาการเมืองเข้ามาแทรกทั้งหมด ทั้งการสร้างการรับรู้ และการบิดเบือน แต่ตนก็ให้ความเคารพทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และพยายามแก้ปัญหา จัดหาวัคซีนให้ได้ถึงปีหน้า พร้อมย้ำว่ามีการเจรจาจัดซื้อต่อเนื่อง ตามสัญญาหลัก แต่วัคซีนจะทยอยส่งมา และตระหนักว่าการฉีดวัคซีน จะต้องฉีดให้ทุกคน และทุกปีเหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และรัฐบาลจะรับผิดชอบทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีน และรัฐบาลฉีดให้ประชาชนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

“การบริหารฉีดวัคซีน ผมให้หน่วยงานบริหารจัดการเอง เช่นเดือนปัจจุบันได้วัคซีน 5 แสนโดส หน่วยงานต้องบริหารให้ได้ภายใน 1 เดือน หากเร่งฉีด 4 แสนโดส ภายในวันเดียวการฉีดก็ไม่ถึงเดือน ดังนั้นต้องยืดให้ยาวเพื่อรอวัคซีนล็อตใหม่เข้ามา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลไม่เคยมีการปิดกั้นการขึ้นทะเบียนวัคซีน แต่จะต้องเป็นบริษัทที่เป็นตัวแทนในประเทศไทย มาขึ้นทะเบียนต่อ อย. เพื่อขึ้นทะเบียน และการจัดซื้อ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชน ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์อยู่ระหว่างการต่อรองเงื่อนไขสัญญา จำนวน 20 ล้านโดส คาดว่าจะได้ในไตรมาส 3 เช่นเดียวกับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์จอห์นสัน จำนวน 5 ล้านโดส รวมถึงวัคซีนโมเดอร์นา , ซิโนฟาร์ม และสปุตนิก-วี โดยจะต้องมีบริษัทที่มาขึ้นทะเบียนในประเทศไทย เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้แทงม้าตัวเดียวจัดซื้อวัคซีนเพียงชนิดเดียว แต่แทงทั้งวิน ทั้งเพรส


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการออกมาตรการเยียวยาประชาชนว่า เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และยืนยันว่าไม่เคยหาเสียงจากนโยบายคนละครึ่ง โดยส่งเงินตรงถึงมือประชาชน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลทำให้เงินถึงมือประชาชนโดยผ่ายโครงการต่างๆ ทาง E-Wallet ช่วยประชาชนเพื่อต่อลมหายใจกว่า 41 ล้านราย

นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ใช้จ่ายไปตามแผน เหลือสำรองค่าประปา ค่าไฟ ส่วนที่การจัดเก็บรายได้ของรัฐลดลง เพราะเกิดปัญหาโควิด ก็ต้องแก้ไขไปตามสถานการณ์ ย้ำว่า 5 แสนล้าน มีแผนการใช้จ่ายครบถ้วน ทั้งนี้ การใช้เงินกู้ด้านสาธารณสุข หากไม่พอก็พร้อมจัดสรรเพิ่มเติมให้ พร้อมยืนยันตลอด 7 ปีที่บริการงบประมาณมา ไม่มีเงินผ่านมือตนสักบาท ดังนั้นหากพบว่ามีโครงการทุจริตใดขอให้แจ้งมาพร้อมข้อมูล พร้อมที่จะตรวจสอบ เพราะไม่ต้องการให้ใครทำผิด จากนโยบายที่ให้ไป ส่วนที่หลายคนมองว่ายึดอำนาจ รวบอำนาจเพราะมีกฎหมาย 30 ฉบับไว้เพื่อสั่งการเอง ขอยืนยันว่า ไม่อยากยึดอำนาจ แต่ต้องการปลดล็อกให้ทุกกระทรวงเพื่อจัดสรรปันส่วนวัคซีน

“รัฐบาลทำเงินให้ถึงมือประชาชน ไม่ผ่านมือคนอื่น ทั้งนี้มีคนไม่พอใจงบปี 2565 เพราะพอตัดลดงบลงไม่สามารถตั้งโครงการใหม่ ส่วนที่หลายคนบอกว่ารัฐบาลนี้แทคโนแครตนั้น หากไม่ให้ช้าราชการทำ หรือครอบงำราชการ ทุกคนก็ติดคุกหมด การสื่อสารต้องฟังรัฐบาล หากไม่ฟังจะไปกันใหญ่ มีปัญหาสร้างการรับรู้บิดเบือน ผมคิดถึงอนาคตตลอด ผมเลือกวัคซีนที่ดีที่สุดให้คนไทย ไม่ใช่จองไปเรื่อย หัวใจผมมีแต่ให้เขา บางครั้งก็ลืมคิดถึงตัวเองว่าปลอดภัยหรือเปล่า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกษิดิศ อาชวคุณ ส.ว. ได้สอบถามเกี่ยวกับประเด็นการเปิดประเทศที่จังหวัดภูเก็ต โดยจะต้องอยู่ในภูเก็ต 14 วัน มีความเป็นไปได้จะไปจังหวัดอื่นหรือไม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ทำแซนด์บ็อกซ์ที่ภูเก็ตก่อน โดยเร่งให้ฉีดวัคซีนให้ครบโดม 80% ก่อน และยังมีสมุย พีพี พะงัน อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ยังมีเวลา ตั้งใจเปิดเดือนกรกฎาคมเปิดสมุย 60% แล้ว ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์รัฐบาล ในแต่ละจังหวัดลงทะเบียนหลายหน่วยงาน ย้ำคนไทยได้ฉีดวัคซีนเดือนมิถุนายนแน่นอนแต่บางส่วนอาจจะขยับไป เดือนหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีระบุว่า ประธานในที่ประชุมส่งข้อความเตือนให้มีการซักถามภายหลัง และพูดติดตลกว่า “ไล่ผมแล้วนี่ ในนี้ไม่มีพวก”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายของการชี้แจง นายกรัฐมนตรี ได้ถาม ส.ว. ว่ามีใครไม่เชื่อมั่นตนไหม ขอให้ยกมือ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครยกมือ หลายคนหัวเราะออกมา นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวว่า ก็ไม่มีอีก ตนบังคับใครไม่ได้อยู่แล้วเคารพมาตลอด 5 ปี 7ปีไม่เคยบังคับท่าน ไม่เคยยุ่งกับท่าน เชื่อในวุฒิภาวะของท่าน ภายใต้พื้นฐานความเข้าใจซึ่งกันและกัน สิ่งสำคัญคือการแก้ไขปัญหาที่พะรุงพะมาโดยตลอด และยังยืนยันด้วยว่า จะอยู่ทำหน้าที่ครบเทอม

“ผมต้องทำตัวให้มีเกียรติ ผมตั้งเกียรติของตัวเองมาได้เพราะเกียรติเป็นสิ่งที่คนอื่นเขายกย่อง หากผมทำดีควรให้เกียรติ ถ้าไม่ดีก็ไม่ให้เกียรติ ฝากไว้ด้วยว่าถ้ามีการเลือกตั้งในอนาคต ผมยืนยันจะอยู่ไปจนครบนี่แหละ จะได้เลิกพูดกันสักที ครั้งหน้าก็เลือกกันให้ดีแล้วกัน ผมก็โดนไล่ทุกวัน ยิ่งไล่ผมยิ่งสู้โอเคไหม ใครจะสู้กับผม ไม่มีเลยหรือ ผมรู้ว่าท่านส่งใจให้ผมทุกคนอยู่แล้วขอบคุณครับ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]