กรมควบคุมโรคแจงแผนกระจายวัคซีนเป็นตามเป้าหมาย

ทำเนียบรัฐบาล 14 มิ.ย.- กรมควบคุมโรค แจงแผนกระจายวัคซีนเป็นไปตามเป้าหมาย ยัน กทม.ได้รับมากที่สุด


นพ.โอภาส กานต์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงแผนกระจายวีคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า กรมควบคุมโรคเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับคนไทยอย่างน้อย 50,000,000 คน หรือร้อยละ 70 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เร็วที่สุด และจะทำให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการนำเข้าวัคซีนมา 8.1 ล้านโดส แบ่งเป็น วัคซีนแอสตราเซเนกา 2.1 ล้านโดส ซิโนแวค 6 ล้านโดส ข้อมูลถึงวันที่ 13 มิ.ย. มีการฉีดสะสมแล้วทั้งหมด 6,188,124 โดส

โดยจำนวนสูงสุดอยู่ที่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,716,384 โดส หรือคิดเป็นร้อยละ 27.7 ของวัคซีนทั้งหมดที่มีอยู่ แบ่งเป็นเข็มที่แรก 1,346,993 โดส และเข็มที่ 2 369,401 โดส ทำให้ชาว กทม.ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้วอย่างน้อยคิดเป็นร้อยละ 17.5


ทั้งนี้ การจัดสรรวัคซีนจะพิจารณาจากข้อมูลทางวิชาการ พื้นที่ ประชากร สถานการณ์การระบาด แบ่งเป็นสัดส่วนที่แตกต่างกันในแต่ละจังหวัด รวมถึงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการจัดลำดับความสำคัญจะเน้นที่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เป็นผู้ดูแลผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ รวมถึงผู้ต้องดำเนินการสอบสวนโรค ซึ่งขณะนี้ได้รับวัคซีนเกือบครบ100% แล้ว นอกจากนี้ยังมีกลุ่มตำรวจ ทหาร อสม. ที่จะต้องอยู่ในพื้นที่ก็จะได้รับการฉีดในสัดส่วนต่อไป

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ จึงได้เน้น ให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หากติดเชื้อแล้วจะมีอาการรุนแรง ก็จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน โดยกระทรวงได้จัดให้ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมล่วงหน้าตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ วัคซีนป้องกันโควิด- 19 เป็นวัคซีนที่อยู่ในภาวะฉุกเฉิน การสั่งซื้อ การจอง ไม่ได้มีในท้องตลาด ซึ่งการสั่งซื้อและการสั่งจองจะต้องมีการผลิตและจัดส่งทันที เพื่อให้วัคซีนถึงประชาชนได้เร็วที่สุด บริษัทที่ทำสัญญาไว้ก็จะทยอยส่งเป็นงวด ๆ ซึ่งตั้งแต่ฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมาก็ยังมีการทยอยฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆเช่น ครู บุคลากรทางการศึกษาเพื่อเตรียมรับเปิดเทอม รวมถึงคนทำงานขนส่งสาธารณะ และกลุ่มแรงงาน ผู้ประกันตนตาม ม.33 โดยเดือนมิถุนายน มีการกระจายวัคซีน ซึ่งวางแผนไว้ว่า อย่างน้อยจะต้องมี 2 งวด ครอบคลุมการฉีดในสองสัปดาห์ โดยงวดแรกที่จะฉีด 7 – 20 มิ.ย. จะมีการส่งวัคซีนไปประมาณ 3,000,000 โดส เป็นซิโนแว็กซ์ 1,000,000 โดส และแอสตราเซเนกา 2,000,000 โดส จัดส่งไปยัง กทม. แล้ว 500,000 โดส ซึ่งใน กทม. มีแอสตราเซเนกา 3.5 แสนโดส และ ซิโนแวค 1.5 แสนโดส ส่งให้สำนักงานประกันสังคม 3 แสนโดส ซึ่งกลุ่มนี้อยู่ในกรุงเทพมหานครเป็นหลัก รวมถึงในมหาวิทยาลัย 11 แห่งของที่ประชุมอธิการบดีอีก 1.5 แสนโดส ก็จะฉีดใน กทม.เป็นหลัก ส่วนกลุ่มที่ลงทะเบียนหมอพร้อมใน 76 จังหวัด จัดส่งวัคซีนไป 1.1 ล้านโดส นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมวัคซีนไว้รองรับสถานการณ์การระบาด เช่น ที่จังหวัดเพชรบุรีก็อยู่ในการกระจายวัคซีนรอบแรกด้วย

ส่วนการกระจายวัคซีนในงวดที่ 2 ตั้งแต่ 21 มิ.ย. – 2 ก.ค. อีก 3.5 ล้านโดส ซิโนแวค 2 ล้านโดส และแอสตราเซเรกา 1.5 ล้านโดส โดยทั้งหมดเป็นไปตามเป้าหมายการกระจายวัคซีนตามแผน คือ เดือนมิถุนายน 6 ล้านโดส.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]