โควิดยังน่าห่วง ต่างจังหวัดพบเพิ่ม 8 คลัสเตอร์ใหม่

ทำเนียบ 12 มิ.ย.-ศบค. เผยติดเชื้อใหม่ 3,277 ดับ 29 อาการหนัก 1,242 ราย กรุงเทพฯ พบคลัสเตอร์ใหม่เพิ่ม 2 พื้นที่ ต่างจังหวัดพบเพิ่ม 8 คลัสเตอร์

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้ (12 มิ.ย.) ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,277 ราย จำแนกเป็นติดเชื้อทั่วไปในประเทศ 2,356 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 29 ราย และติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขังเพิ่ม 892 ราย มีผู้เสียชีวิต 29 ราย มีผู้ป่วยรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 15,032 ราย อาการหนัก 1,242 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 362 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,277 ราย เป็นการติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 858 ราย ปริมณฑล (5 จังหวัด) 951 ราย จังหวัดอื่นๆ (71 จังหวัด) 547 ราย และเรือนจำ/ที่ต้องขัง 892 ราย ทำให้ยอดรวมติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขังมียอดรวม 31,948 ราย ขณะที่สถิติตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 ผู้ป่วยยืนยันสะสม 164,242 ราย หายป่วยกลับบ้าน 5,273 ราย เสียชีวิตสะสม 1,337 ราย


สำหรับผู้เสียชีวิตจำนวน 29 ราย แบ่งเป็นผู้ชาย 17 ราย และผู้หญิง 12 ราย อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 64 ปี อายุน้อยที่สุด 30 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตอายุมากที่สุด 92 ปี แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 17 ราย สมุทรปราการ และนนทบุรี จังหวัดละ 3 ราย และปทุมธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต และอุดรธานี จังหวัดละ 1 ราย

ทั้งนี้การระบาดที่พบในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นประจำวันที่ 12 มิถุนายน โดยพบเป็นคลัสเตอร์ใหม่ที่เริ่มพบการระบาดในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรปราการ อ.บางเสาธง โรงงานผลิตและจำหน่ายอาหารกึ่งสำเร็จรูป พบผู้ติดเชื้อ 5 ราย จังหวัดปทุมธานี อ.คลองหลวง บริษัทอลูมิเนียมพบผู้ติดเชื้อ 8 ราย จังหวัดสมุทรสาคร อ.เมืองสมุทรสาคร โรงงานลูกชิ้นพบผู้ติดเชื้อ 20 ราย อ.กระทุ่มแบน โรงงานขนมพบ 45 ราย จังหวัดเพชรบุรี อ.เมืองเพชรบุรี พบที่ตลาดสดมีผู้ติดเชื้อ 9 ราย จังหวัดกำแพงเพชร อ.เมืองกำแพงเพชร พบการสัมผัสกันในชุมชนติดเชื้อ 25 ราย จังหวัดจันทบุรี อ.ท่าใหม่ ที่ตลาดผลไม้เนินสูงพบผู้ติดเชื้อ 6 ราย และจังหวัดฉะเชิงเทรา อ.เมืองฉะเชิงเทรา มีการติดเชื้อในค่ายทหารจำนวน 7 ราย


สำหรับคลัสตอร์ในกรุงเทพมหานคร มี 80 แห่ง โดยคลัสตอร์ที่พบผู้ป่วยรายใหม่มีเพิ่มขึ้นใน 2 พื้นที่ คือเขตวัฒนา ที่แคมป์ที่พักคนงาน JWS และเขตจตุจักร ที่แคมป์ที่พักคนงานบริษัททีฆา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง